สวัสดีพี่น้องที่ชูใจครับ
ไม่ทันไรก็จะหมดเดือนแรกของปีใหม่แล้ว ผมเชื่อว่าหลายๆคนคงมีเป้าหมายสำหรับปีใหม่นี้กันมากมาย ก็นั่นแหละครับไม่ทันไรก็จะหมดเดือนแรกอย่างรวดเร็ว อย่ามัวแต่ตกใจที่เวลาผ่านไปเร็วนะครับ ตั้งใจอะไรไว้ก็ลงมือทำเลย
ถึงอย่างนั้น เราเคยอธิษฐานเผื่อสำหรับเป้าหมายที่คาดหวังดูนั้นไหมครับ
มีครั้งหนึ่ง ในวันปีใหม่ ผมให้เพื่อนๆในกลุ่ม(เซล) ตั้งเป้าหมายแล้วเขียนคำอธิษฐานไว้หนึ่งอย่าง เก็บใส่ซองจดหมาย แล้วผมก็รวบรวมใส่กระป๋องเอาไว้ รอไว้เปิดอีกครั้งในปีถัดไป เมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งปี ผมก็ยื่นซองจดหมายเหล่านั้นคืนให้แต่ละคนเพื่อให้เขาได้ดู บางคนบอกว่าเกือบลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเขียนอะไรลงไป
ผมเห็นบางคนแอบยิ้ม บางคนก็หัวเราะเมื่อได้อ่าน มีคนที่ขอบคุณพระเจ้าเพราะสิ่งที่เขาได้รับในตอนนี้เยอะกว่าสิ่งที่เขาเขียนในกระดาษ มีน้องคนหนึ่งที่หัวเราะกับสิ่งที่ตัวเองเขียน เพราะเขาเขียนปัญหาที่เขากังวลอย่างมากลงไป แต่สุดท้ายตอนนี้เรื่องนั้นกลับเป็นเพียงเรื่องเล็กนิดเดียวเมื่อเขาเดินผ่านมาได้
ผมได้แต่ยิ้มและดีใจกับคำอธิษฐานของเพื่อนๆ แต่ผมไม่มีอะไรจะแบ่งปันเหมือนคนอื่นเขาทั้งๆที่เป็นคนนำกิจกรรม เพราะสำหรับตัวผมเองในปีนั้น กระดาษคำอธิษฐานของผมว่างเปล่า ผมไม่ได้เขียนอะไรลงไป และนี่เอง คือสิ่งที่ผมได้ใช้เวลาถึง 1 ปี เพื่อเรียนรู้ว่า
ถ้าเราไม่อธิษฐาน เราก็จะไม่รู้ว่าพระเจ้าตอบเราว่าอะไร
เมื่อเราอธิษฐาน เรารอคอยด้วยความหวัง เมื่อเราได้รับคำตอบ เรารู้ว่าพระองค์ทรงอยู่ด้วยตลอดในเวลาที่เรารอคอยนั้น แต่หากไม่มีคำอธิษฐาน ก็เหมือนการยืนรอคอยความว่างเปล่า
ผมได้แต่นั่งฟังคนอื่นขอบคุณพระเจ้าจนจบในวันนั้น เป็นกิจกรรมเล็กๆที่ใช้เวลา 1 ปี และกลายเป็นบทเรียนที่ทำให้ผมเข้าใจเรื่องคำอธิษฐานมากขึ้นอีกนิด
เชื่อผมเถอะครับ ผมยืนยันว่าไม่ต้องลองพิสูจน์ด้วยตัวเอง ด้วยการไม่อธิษฐาน
ในปีใหม่นี้ ไม่ว่าเราจะวางแผน หรือ ตั้งเป้าหมายอะไรเอาไว้ ขอให้อธิษฐานเผื่อสิ่งเหล่านั้น เพื่อที่เราจะได้รู้ในที่สุดว่า พระเจ้าทรงกระทำอะไรในชีวิตของเราบ้าง และเมื่อเราผ่านสิ่งเหล่านั้นไป เราจะได้ขอบพระคุณ และชูใจคนอื่นถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านั้นได้
เมื่อทุกคนแยกกันกลับบ้าน ผมไม่รู้ว่าหลังจากนั้นมีใครทำต่อหรือเปล่า แต่เมื่อผมถึงบ้านผมเริ่มต้น เขียนคำอธิษฐานลงในกระดาษ และเก็บมันไว้ รอปีถัดไปที่จะเอาออกมาอ่าน
ด้วยรักและชูใจ
…………………………………………………….
ปีนี้ชูใจก็มีเป้าหมายครับ
ปีนี้ชูใจก็มีเป้าหมายครับ คือเราอยากเห็นคริสเตียน มีชีวิตอยู่บนความเข้าใจ มีความรัก มีความรู้ และ มีความเข้าใจ ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด ในการดำเนินชีวิตคริสเตียน ซึ่งทีมชูใจก็มาแบ่งเป็นคอนเท้นท์ย่อยๆ สามกลุ่ม
เข้าใจบนพื้นฐานความเชื่อ เรากับพระเจ้า
เข้าใจในความสัมพันธ์ระหว่างเรากับคนอื่น
เข้าใจในการใช้ชีวิตในสังคม
…………………………………………………….
เรื่องที่ 1
เข้าใจบนพื้นฐานความเชื่อ เรากับพระเจ้า
ผมทำรายการ “พระคัมภีร์ไม่ไหลย้อนกลับ” ร่วมกับ อ.ธนิต โลเกศกระวี หรือ พี่ใช้ ซึ่งตอนนี้เป็น ผู้อำนวยการพระคริสต์ธรรมเชียงใหม่ พี่ใช้เป็นผู้รับใช้ที่มีไฟมาก อยากเห็นคริสเตียนมีความเข้าใจในพระคัมภีร์ แม้ว่าพี่ใช้จะมีเวลาจำกัด เพราะเป็น ผู้อำนวยการในช่วงเปลี่ยนผ่าน เพราะ อาคารกำลังหมดสัญญา ทำให้นอกจากจะต้องสอนแล้ว ยังต้องดูแลเรื่องการก่อสร้างอีกด้วย แต่พี่ใช้ก็ยังอุตส่าห์หาเวลามาทำรายการร่วมกันได้
โดยเราเริ่มที่ ปฐมกาล เพราะเป็นเหมือนเรื่องราวเริ่มต้นที่สำคัญ แต่หลายคนไม่รู้ เราจึงเอามาเล่าโดยไม่ให้รู้สึกว่าเป็นเหมือนคำเทศนา หรือ การเรียนพระคัมภีร์ แต่เล่าให้เข้าใจ จนอยากกลับไปอ่านพระคัมภีร์เอง
สำหรับตอนนี้เรามี season แรก 10 ตอน สำหรับ ปฐมกาล ในขณะที่กำลังจะเริ่ม season ที่สอง พี่ใช้ ต้องยุ่งกว่าเดิม เพราะเรื่องงบประมาณการก่อสร้าง คงต้องฝากอธิษฐานเผื่อพี่ใช้สำหรับเรื่องนี้ด้วยครับ
รายการ “พระคัมภีร์ไม่ไหลย้อนกลับ” ออกทุกวันศุกร์ 18.00 น. ทางเฟสบุ๊คอาจมาช้าหน่อย และ จะเริ่มทยอยลงเป็นบทความครับ
ตอนที่ 1 The Beginning
ตอนที่ 2 The Choice
เรื่องที่ 2
เข้าใจในการใช้ชีวิตในสังคม
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ติดอยู่ในใจผมมานาน คือ การที่เรา คริสเตียน แยกออกมาเป็นชุมชนผู้เชื่อ แต่ไม่ได้กลับเข้าไปในสังคม จนบางครั้งชุมชนคริสเตียนกลายเป็นพื้นที่เฉพาะ และไม่พร้อมที่จะต้อนรับคนนอกที่สนใจ เพียงเพราะเราเขาไม่เข้าใจกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สังคมทุกวันนี้พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วมาก และซับซ้อน ในขณะเดียวกันคนในสังคมที่อยากรู้จักพระเจ้าก็ซับซ้อนมากขึ้นด้วย ถ้าเราไม่เข้าใจ ก็ยิ่งทำให้ความแตกต่างนี้แบ่งเรา แบ่งเขามากขึ้นไปอีก
สำหรับเรื่องนี้เราได้ น้องพี นักเขียนประจำที่ยังอยู่กับเราในการทำคอนเท้นท์ โดยมี podcast ชื่อ Hello world หรือ สวัสดีชาวโลก ที่จะพูดถึงสังคมทั่วไปกับคริสเตียน พื้นฐานของ น้องพี เป็นนักสังคมวิทยา ที่จะเอาเรื่องราวในชีวิตและสังคมกลับมาเล่าให้เราๆได้เข้าใจกันมากขึ้น
และ ชูใจทอล์ค ที่เป็นบทความสั้นๆ ออกทุกวันจันทร์ สลับกับ Hello world
เรื่องที่ 3
เข้าใจในความสัมพันธ์ระหว่างเรากับคนอื่น
ส่วนนี้เราเคยมี Love Coach และ งานจิตวิทยา ที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์อื่นๆ แต่ตอนนี้เราขาดคนทำเนื้อหาในส่วนนี้ไป คงต้องฝากอธิษฐานเผื่อสำหรับ และ คนที่จะสามารถทำเนื้อหาในส่วนนี้ได้
เรื่องนี้อยู่ในระหว่างการหาคนดำเนินรายการ และ ทำข้อมูลครับ
ตอนนี้ ชูใจ เป็นเพียงทีมงานเล็กๆ แต่เราก็มีเป้าหมาย คำอธิษฐานที่ผมเขียนไว้สำหรับปีนี้ คือ “เป็นพระพรให้กับคนอื่น”
แม้เราจะมีกำลังคนน้อย ไม่มีชื่อเสียง และ ไม่ได้มีเงินทุนมาก แต่ทีมเล็กๆของเราก็อยากเป็น “พระพร” ให้กับคนอื่นครับ ผ่านความสามารถ ผ่านสิ่งที่เรามี ดังนั้น เราต้องขอบคุณพี่น้องทุกคนที่สนับสนุนเรามาโดยตลอด ทั้งคำอธิษฐาน กำลังใจ อาสาสมัคร และ เงินถวาย การสนับสนุนเหล่านี้เป็น “พระพร” ให้กับทีมชูใจ เพื่อให้เราได้มีโอกาส “เป็นพระพรให้กับคนอื่น” ต่อไป และนี่คือเป้าหมายที่เราตั้งใจ และอธิษฐานเอาไว้สำหรับปีนี้ เรามารอดูผลกันในปลายปีนี้ครับ
ด้วยรักและชูใจ ในคำอธิษฐาน
ท็อป