ชูใจอัพเดท มิถุนา-กรกฏา 2018

สวัสดีเดือน 8 ค่ะพี่น้อง

ต้องขอโทษด้วยที่อัพเดทฉบับนี้มาล่าช้า อันที่จริงแล้วมีหลายเรื่องที่อยากเล่าให้ฟังค่ะ พิมพ์ๆ ลบๆ อยู่หลายวันไม่รู้จะคุยเรื่องไหนดี เอาเป็นว่าเล่าเรื่องนี้แล้วกัน…

สังเกตไหมคะว่ายุคนี้เป็นยุคของการมี “โค้ช” เนื่องจากโซเชียลมีเดียและเทคโนโลยีที่เอื้ออำนวย ทำให้มี “โค้ช “ ให้เห็นเกลื่อนไปหมด ไม่ว่าจะเป็น Life coach พวกคลิปหรือกลุ่มคนที่ตั้งตัวขึ้นมาเป็นผู้ให้คำแนะนำให้ข้อคิดเรื่องชีวิตและการทำงาน หรือ Money Coach ที่ปรึกษาทางการเงินส่วนตัว ไม่ใช่ขายประกันหรือกองทุนนะคะ แต่เป็นโค้ชที่เราสามารถว่าจ้างให้มาช่วยเราจัดสรรการลงทุนส่วนตัวหรือช่วยวางแผนปลดหนี้ด้วยซ้ำ หรือกระทั่งโค้ชลดน้ำหนักออนไลน์! แม่เจ้า! หรืออย่างชูใจก็ทำ Love Coach ออกมากะเค้าด้วย (ขอขายของหน่อยนะคะ)

แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกโค้ชมีร่วมกันก็คือ เค้าจะต้องเคยผ่านเรื่องนั้นๆ มาก่อน เพื่อมาบอกเคล็ดลับ วิธีการ หรือช่วยให้กำลังใจและมุมมองให้เราผ่านเรื่องนั้นๆ ไปได้เหมือนที่เค้าเคยผ่านมาแล้ว เกริ่นมาซะยาว ไม่ได้จะมาบอกว่าจะไปทำอาชีพเสริมนะคะ แค่กำลังจะเล่าเรื่องโค้ชอีกอย่างหนึ่งให้ฟังก็คือ “โค้ชพันธกิจ” ของชูใจค่ะ

ตั้งแต่มาทำชูใจ บุคคลหนึ่งซึ่งจิ๊กนับถือเป็นโค้ชในการทำพันธกิจนี้ขึ้นมาก็คือ พี่เชษฐ์ ค่ะ (อ.นิติเชษฐ์ สดุดีวงศ์) คือถือได้ว่า ถ้าไม่มีพี่เชษฐ์เป็นผู้ผลักดันและช่วยให้คำแนะนำกับเรา จิ๊กคงไม่ยืนระยะการทำชูใจมาได้ไกลขนาดนี้ ตั้งแต่เริ่มก่อร่างไอเดีย ช่วยให้คอนเซ็ปต์ วิธีคิด การทำทีม การหาเงินถวาย

เมื่อวานซืนจิ๊กก็มีโอกาสคุยกับพี่เชษฐ์และพูดคุยอัพเดทเรื่องงานชูใจให้แกฟังอีกครั้งค่ะ และเพราะแกคงเห็นอาการจิ๊กไม่ค่อยดีมาพักใหญ่แล้ว ก็เลยมีหลายเรื่องที่ทั้งต้องให้กำลังใจและเตือนสติกันหน่อย แกตั้งคำถามหนักๆ ให้ได้กลับไปคิดเป็นการบ้านเยอะเชียวค่ะ

ยังมี Passion ในสิ่งที่ทำอยู่ไหม? ยังเชื่อไหมว่าพระเจ้าใช้ให้เราทำสิ่งนี้?
เวลาและพลังงานเรามีจำกัด เราต้องมองให้ออกว่าใครเป็นคนที่เราควรลงทุนด้วย เพราะไม่ใช่ทุกคนที่เราลงทุนแล้วให้ผลกลับคืนมาขนาดนั้น
การ burn out เกิดขึ้นได้กับทุกคน แค่ต้องรู้จักตัวเองว่าจะออกมาจากตรงนั้นได้ยังไง และให้ตัวเองได้พักผ่อนจริงๆ สักพัก
ตอนนี้เรากำลังทำ team work หรือ group work? ทีมคือกลุ่มคนที่มีความสัมพันธ์ต่อกันและเห็นในทิศทางเดียวกัน work group คือคนที่แค่มานั่งทำงานด้วยกัน
เราต้องรู้ว่าเราเป็นใครในทีม? ถ้าเราเป็นหัวหน้าทีมก็ต้องมุ่งไปที่การดูแลคน ให้ทิศทาง สื่อสารให้ชัดเจน อย่ามัวแต่เอาเวลาไปลงกับรายละเอียดงาน

สุดท้ายพี่เชษฐ์บอกจิ๊กว่า “สิ่งที่เราทำมีคุณค่านะ เพียงแต่ต้องตั้งหลักใหม่หน่อย พี่เป็นกำลังใจให้”

……………………………………

ชูใจเรามีข้อพระคัมภีร์ 2 โครินธ์ 1:3-4 เป็น theme ในการทำพันธกิจของเราแต่เบื้องหลังกลับไม่ได้ชูใจอย่างเบื้องหน้าเท่าไหร่นัก แต่เมื่อได้ยินประสบการณ์ต่างๆ จากพี่เชษฐ์ทำให้จิ๊กเข้าใจมากขึ้นว่า ความชูใจมันเกิดจากความทุกข์ยากที่เราเคยได้รับและได้ผ่านตรงนั้นมาแล้วด้วยพระคุณพระเจ้า เราจึงสามารถนำไปชูใจผู้อื่นต่อได้ กระบวนการมันไม่สวยหรู บางอย่างจบไม่ happy ending ด้วยซ้ำ แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั่นคือให้เราได้รับใช้โดยไม่พึ่งกำลังของตัวเอง (ถึงแม้ที่ผ่านมาพึ่งตัวเองไปเยอะเลยค่ะ แหะๆ) นั่นคือเพื่อให้เราเติบโตถึงความไพบูลย์ของพระคริสต์ และนั่นคือเพื่อให้ทุกสิ่งที่เราทำกลับไปที่การถวายเกียรติแด่พระเจ้า และเมื่อเราได้รับการชูใจจากปัญหานั้นแล้วโดยพระเจ้า ก็ให้เราชูใจผู้อื่นต่อไปด้วย

สิ่งที่พี่เชษฐ์ส่งต่อมาให้ คือความชูใจที่แกเคยผ่านประสบการณ์เหล่านั้นมาก่อน ไม่บอกก็ไม่รู้ว่าพี่เชษฐ์เองก็เคยผ่านช่วง burn out ช่วงที่ไม่รู้จะจัดการทีมยังไง เงินถวายลด และปรับหาทิศทางองค์กรใหม่ สิ่งที่แกโค้ชจิ๊กมาเลยไม่ได้เกิดจากความรู้เท่านั้น แต่เป็นประสบการณ์ตรงที่ถ่ายทอดออกมาให้ ซึ่งนั่นมีค่ามากสำหรับจิ๊กค่ะ ที่สำคัญคือ เราสัมผัสได้ว่าเราไม่ได้ผ่านสิ่งเหล่านั้นไปโดยลำพัง และปัญหาที่เราเจอไม่ใช่คนอื่นไม่เคยเป็นมาก่อน

ขอบคุณพระเจ้าสำหรับโค้ชอย่างพี่เชษฐ์ และหวังใจว่าจิ๊กเองจะได้เติบโตขึ้นเป็นร่มเงาที่เป็นพร ส่งต่อความร่มเย็นและชูใจให้คนอื่นอย่างที่พี่เชษฐ์เป็นด้วยเหมือนกันค่ะ

ก่อนจะไปอัพเดทเรื่องงาน ขอขอบคุณพี่น้องทุกท่านอีกครั้งนะคะ ขอบคุณที่มาร่วมรับใช้และร่วมหัวจมท้ายด้วยกันผ่านการถวายและการอาสาร่วมแรงกัน ขอบคุณที่เห็นคุณค่าในสิ่งที่เรากำลังทำเพื่อชูใจคนรุ่นต่อไป ขอบคุณสำหรับคำอธิษฐานเผื่อที่เราต้องการมากจริงๆ ในช่วงนี้ ขอบคุณมากค่ะ

……………………………………

คอลัมน์ใหม่และคอลัมน์ที่กำลังทำ

ตอนนี้คอลัมน์ใหม่ที่พึ่งเปิดตัวไปก็คือ “พระคัมภีร์เข้าใจง่าย” ค่ะ อันที่จริงเป็นงานที่ค้างคามาตั้งแต่ปีก่อนแต่พึ่งเข็นกันออกมาได้ตอนนี้ จุดประสงค์คืออยากให้น้องเข้าใจพระคัมภีร์มากขึ้น เวลาอ่านจะได้อ่านด้วยความเข้าใจซึ่งนี่ถือเป็นจุดอ่อนของคริสเตียนเราค่ะ จิ๊กว่าเราใช้เวลาอ่านพระคัมภีร์และทำความเข้าใจพระคัมภีร์กันน้อยไปหน่อยโดยเฉพาะน้องวัยรุ่น เราเลยอยากให้งานชิ้นนี้เป็นตัวช่วยที่น้องจะเข้าถึงพระคัมภีร์ได้ง่ายขึ้น อ่านเข้าใจไปถึงเบื้องหลังพระคัมภีร์มากขึ้น เลยทำเป็นการ์ตูนช่องเป็นภาพประกอบเพื่อให้เสพง่ายค่ะ ตอนนี้เริ่มปล่อยไป EP แรกแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ในช่วงแรกเราจะอธิบายการแบ่งหมวดพระคัมภีร์ก่อน แล้วก็ค่อยๆ สรุปไปเป็นพระคัมภีร์ทีละเล่ม งานนี้จะเกิดขึ้นแค่ทีมชูใจไม่ได้เลยค่ะ ต้องขอบคุณอ.แจ็ค จากพระคริสต์ธรรมแมคกิลวารีด้วยที่ช่วยสรุปข้อมูลมากมายในพระคัมภีร์ให้กับเรา ส่วนการ์ตูนน่ารักๆ ก็คือผลงานของน้องโจเซฟค่ะ

Love Coach Talk: Video Project

เห็นเงียบๆ นี่คือซุ่มทำโปรเจกต์ใหม่ของ Love Coach อยู่นะคะช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา นั่นคือ Love Coach Talk เป็นรายการวีดีโอคลิปค่ะ แต่ก็นั่นแหละค่ะ การทำอะไรที่เราไม่ถนัด และการประสานหลายอย่างทำให้งานนี้ล่าช้าเกินกำหนดไปมาก…. ตอนนี้ถ่ายไปได้ 4 คลิปและกำลังตัดต่อ 2 คลิปค่ะ ตอนนี้กำลังหนักใจว่าจะตัดสินใจยังไงดีต่อไปเพราะ process มันนานเกินควรไปหน่อย ถ้าอัพงานไปตอนนี้ก็มีสต๊อกแค่ 4 ตอนซึ่งจะน้อยไปค่ะ โอย…ปวดหัว

Series งานเขียนใหม่ 2 ชุด

อันแรกเป็นงานของน้องบิ๊ก เจษฏา ค่ะ ที่เคยฝากผลงานไว้เมื่อปีที่แล้วในการทำ Podcast รู้เขารู้เรา ปีนี้น้องเค้าเขียนบทความชุดหนึ่งเป็นเรื่องของ Masturbation หรือ การช่วยตัวเอง ซึ่งจะเป็นตอนพิเศษใน Love coach ค่ะ มี 3 ตอนพร้อมภาพประกอบการ์ตูน งานนี้น้องเขียนออกมาจากประสบการณ์ของตัวเองพร้อมกับ How to ให้ก้าวข้ามเรื่องนี้ไปให้ได้ ส่วนตัวจิ๊กคิดว่างานนี้จะเป็นประโยชน์กับน้องๆ ผู้ชายคริสเตียนได้มากเลยค่ะ แล้วก็เป็นตัวช่วยพี่เลี้ยงที่ไม่รู้จะแนะนำน้องผู้ชายเรื่องนี้ยังไงด้วย อันนี้กำหนดอัพเดือนตุลาคมค่ะ

ชุดที่ 2 เป็นบทความชุด Self-esteem หรือ การมองเห็นคุณค่าในตัวเอง ของ เฟย ที่เป็นนักบำบัดค่ะ ด้วยความที่นักเขียนคนนี้นางไฟแรงเหลือเฟือ เราเลยจีบให้ช่วยเขียนงานนี้ต่อเพราะเป็นเรื่องจิตวิทยาด้วย ซึ่งเหมาะมากในการที่เฟยจะเขียน ตอนที่คิดหัวข้อนี้ขึ้นมาในทีมเพราะเราเห็นว่า ปัญหาเรื่องบุคลิกภาพบางส่วนในวัยรุ่นเกิดจากการที่เค้ามองไม่เห็น หรือ ไม่รู้จักคุณค่าในตัวเอง ซึ่งส่งผลไปถึงการที่เค้าไม่มีแรงจูงใจในการใช้ชีวิต หรือ ไปคว้าเอาแรงจูงใจผิดๆ มา อันนี้กำหนดอัพเดือนกันยาค่ะ

Partner Project กับคอมแพสชั่น

ตอนนี้จิ๊กกำลังช่วยเป็นทำหนังสือเล่มหนึ่งกับคอมแพสชั่นค่ะ เป็น Guidebook ช่วยให้น้องๆ รู้จักตัวเองและค้นหาเป้าหมายหรืออาชีพในอนาคต จะคล้ายๆ วิชาแนะแนวในโรงเรียนแต่ลึกกว่านั้นค่ะ ตอนนี้อยู่ในช่วงการเขียนต้นฉบับอยู่ซึ่งคาดว่าน่าจะเสร็จได้เดือนตุลา ที่บอกว่าเป็นโปรเจกต์ร่วมกันเพราะนี่เป็นคอลัมน์ที่จิ๊กอยากทำอยู่นานค่ะแต่ไม่ได้ทำเพราะดองไว้อีกแล้ว นี่ถือว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวมาก เลยตกลงรับทำงานนี้ค่ะ

ภาวะ Burn out

อันที่จริงอย่างที่บอกไปในชูใจอัพเดทครั้งที่แล้วว่า ช่วงนี้สภาพจิตใจไม่ค่อยดีและชัดเจนว่ายังคง Burn out อยู่ มีอาการดีขึ้นเป็นพักๆ แต่สัก 2-3 เดือนก็จะกลับมาเป็นใหม่ค่ะ สิ่งที่ได้ยินมาจากหลายคนแต่ยังไม่เคยทำได้ก็คือเรื่องการพัก ที่แย่ที่สุดคือเรารู้สึกว่าทุกสิ่งควรจะต้องทำและจำเป็นไปหมด ต่อให้ไม่ทำอะไรแต่เรารู้ว่ามีงานที่ยังทำไม่เสร็จก็จะกังวลอยู่นั่น

อีกอย่างก็คือ 3 เดือนหลังมานี้จิ๊กรู้สึกหมดไฟและหมดสนุกกับงานแบบจริงจัง สัญญาณก็คือความรู้สึกไม่อยากมาทำงาน จิ๊กคิดว่าคนเรามีแรงจูงใจในการทำงานต่างกัน บางคนมีแรงจูงใจที่ค่าตอบแทน ความมั่นคง ความก้าวหน้า หรือแม้กระทั่งภาระครอบครัวก็ถือเป็นแรงขับแบบหนึ่ง แต่จิ๊กทำงานด้วย Passion ด้วยอุดมการณ์ที่พระเจ้าใส่ไว้ในใจเรา แล้วการที่เราอยากจะหนีจากงานเป็นเรื่องที่ไม่ปกติ เป็นเรื่องที่ยังไม่เข้าใจตัวเองอยู่ค่ะ

แล้วก็ความเครียดของเราแผ่ไปถึงน้องในทีมด้วยทำให้บรรยากาศการทำงานไม่ค่อยดีเท่าไหร่ค่ะ จิ๊กเลยตัดสินใจว่า จะขอลางานสักพักค่ะ คิดว่าไม่เกิน 2 อาทิตย์ จะขอกลับไปเคลียร์ตัวเองสักหน่อย เพราะทุกวันนี้นั่งทำงานไปแบบเหมือนคนท่อตัน คิดอะไรไม่ออก ไม่มีสมาธิทำงาน เบื่อๆเซ็งๆ ตลอดเวลา อย่างชูใจอัพเดทฉบับนี้กว่าจะเขียนออกมาได้ก็บังคับตัวเองพอดู

คิดว่าหลังจากกลับมาจะต้องมีการยกเครื่องชูใจกันหลายอย่างเลย ฝากอธิษฐานเผื่อเราและทีมอาสาด้วยนะคะ ส่วนพี่น้องท่านไหนอยากให้ชูใจอธิษฐานเผื่อก็ส่งหัวข้ออธิษฐานมาได้เลยค่ะ

พระเจ้าอวยพรนะคะ
รักษาสุขภาพกาย ใจ และจิตวิญญาณกันดีๆ นะคะพี่น้อง

จิ๊ก

Choojai Founder