คนต้นเรื่อง : วิจิตราhttps://choojaiproject.org/category/articles/life-series/yogurtland-and-vijitra/
อ่านโยเกิร์ตแลนด์แอนด์วิจิตราทุกตอนได้ที่ :
อาทิตย์สุดท้ายของวิจิตราในเชียงใหม่มาพร้อมกับความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ปนเปกันไปหมด มีทั้งดีใจ ตื่นเต้น กลัวอนาคตข้างหน้า กลัวการบอกลา และกลัวการเปลี่ยนแปลง
เรารู้ผลวีซ่าวันที่ 28 กันยา แต่เดินทางวันที่ 7 ตุลา มีเวลาเตรียมตัวแค่อาทิตย์กว่าเท่านั้นเอง ในขณะที่ตอนนั้นเป็นช่วงสอบและมหกรรมทวงงานนักเรียน (ตามสไตล์ครูฝึกสอน) มันพีคมากตรงที่ว่าเตรียมตัวจะไปอยู่แล้ว แต่วิจิตรายังคงทวงงานยิกๆ เพื่อที่จะให้เกรดนักเรียน (ข้ามตอนนี้ไปก็ได้เนาะ บ่นให้ฟัง ==” ) แต่เรื่องนี้ดูสบายๆ ไปเลยเมื่อเทียบกับการต้องทยอยบอกลาเพื่อนแต่ละกลุ่ม (ไปสิบเดือนลากันอย่างกับสิบปี 555+)
อาทิตย์สุดท้ายมาพร้อมกับความรู้สึกที่เราอธิบายไม่ถูก สิ่งที่เรารู้สึกมากๆ คงเป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลง เพราะการเรียนปีสุดท้ายหมายความว่า กลับมาปีหน้าทุกคนจะแยกย้ายกันไปเป็นครู(ดอย)แล้ว คงเปลี่ยนไปมากเลยทีเดียว อาทิตย์สุดท้ายของเราคือการเดินสายกินกับเพื่อน เลี้ยงส่ง บอกลา มันเศร้าเล็กๆ นะว่าการใช้ชีวิตที่บัลแกเรียแบบที่ไม่มีเพื่อนแบบนี้คงยากมากทีเดียว แต่แน่นอนว่ามันจะมีสิ่งใหม่ ประสบการณ์ใหม่ๆ รอเราอยู่ข้างหน้าแน่นอน
พีคสุดคือ ‘พ่อกับแม่จัดนมัสการที่บ้าน’ มีเพื่อนที่เราสนิท ครอบครัว พี่น้องที่โบสถ์มานมัสการด้วยกัน เอาจริงๆนะ มันเป็นความรู้สึกที่ชูใจมาก เรายังจำบรรยากาศวันนั้นได้ดี เพลงที่เรานมัสการพระเจ้าด้วยกันคือ “ข้าต้องไปฟากข้างโน้น” โอ้โห พีคมากราวกับส่งลูกสาวไปเป็นมิชชันนารีกันเลยทีเดียว และเพลง “พระเจ้าทรงเลี้ยงดู” ซึ่งบทเพลงนี้หนุนใจเรามากในช่วงเวลาความกลัว ณ ตอนนั้น
“พระเจ้าจะนำเราไป
แม้จะทางจะยากเพียงใด
ผ่านเขาเงาอันตราย
เราไม่ต้องกลัวอะไร
อยู่ในอ้อมแขนพระองค์”
การมีพระเจ้านำเราไป นี่มันเป็นสิทธิพิเศษสุดยอดเลยจริงๆ เรากลัวความโดดเดี่ยวใน ช่วงเวลาที่อยู่บัลแกเรียคนเดียว แต่วันนั้นเรารู้ว่า พระเจ้าจะอยู่กับเราและการนมัสการวันนั้นทำให้เรารู้ว่าเราไม่ได้ไปคนเดียวแต่เราไปกับคำอธิษฐานของคนที่อยู่ข้างหลังเราซึ่งอธิษฐานเผื่อเราเสมอด้วยต่างหาก
ความฝันใกล้เป็นจริง และวันที่ต้องไปก็มาถึง ตื่นเช้ามา อึนมาก รู้สึกไม่พร้อม กลัว กลัว กลัว (ต้องจากอาหารฝีมือแม่กับผงชูรสไปอีก 10 เดือนเลยนะ T^T) เราไม่เคยเดินทางไปไหนคนเดียวแล้วมองไม่เห็นอะไรข้างหน้าอย่างนี้มาก่อน ยิ่งนี่จะเป็นการต่อเครื่องบินคนเดียวครั้งแรกในชีวิต การขนกระเป๋าหนัก 30 กิโลคนเดียวครั้งแรกในชีวิต และอีกมากมายที่จะเป็นครั้งแรกในชีวิต ตื่นเต้นสุดๆ เลยล่ะ คาดว่าการบอกลาที่สนามบินต้องทำให้วิจิตราร้องไห้แน่ๆ แต่เอาจริงตอนอยู่สนามบินรู้สึก “อึน”มาก บอกไม่ถูกเลยล่ะว่ารู้สึกยังไง เพื่อนเมเจอร์เรามาเซอไพรส์กันเกือบทั้งเมเจอร์เลย ไหนจะครอบครัว พี่น้องคริสเตียนที่โบสถ์ เพื่อนที่วายเอฟซี(องค์กรคริสเตียนที่ทำงานกับวัยรุ่น) เพื่อนกับครูที่โรงเรียนตอนม.ปลาย โอ้ยย เซเลปมาก 55555+ รู้สึกใจหายแบบ 10 เดือนเราจะไม่ได้เจอคนเหล่านี้ จะไม่ได้มีชีวิตสลิดๆ( เป็นคำเหนือ แปลสวยๆ ว่า แสร้งทำ) กากๆ อีกซักพักเลยทีเดียว แต่ก็เนอะ ก็ได้แต่หวังว่า จะได้มีชีวิตมันๆ แบบนี้ที่บัลแกเรียเหมือนกัน
การจะผ่านความกลัวในช่วงอาทิตย์สุดท้ายไปได้เราถึงกับอ่านพระธรรมโยชูวาทั้งอาทิตย์เลยทีเดียว ที่เลือกอ่านพระธรรมโยชูวาเพราะอยากได้รับการหนุนใจในการทรงสถิตของพระเจ้าในช่วงเวลาที่เราต้องออกไปเจออะไรที่ไม่ได้คุ้นเคย และข้อพระคัมภีร์ที่หนุนใจเราตลอดทั้งอาทิตย์
“เราสั่งเจ้าแล้วไม่ใช่หรือว่าจงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด อย่าหวาดกลัว อย่าท้อใจเพราไม่ว่าเจ้าไปที่ไหน พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าจะอยู่กับเจ้าที่นั่น” (โยชูวา 1: 9)
LIST ของที่ควรเตรียมไปเรียนต่างประเทศ (ประเทศอื่นน่าจะคล้ายกัน) จากประสบการณ์ส่วนตัว และข้อมูลจากบล๊อคต่างๆ รวมกันนะคะ
- สิ่งสำคัญที่สุดคือ พระคัมภีร์เลยค่ะ (วิจิตรา ลืมเอามาเพราะตอนเช้าเผ้าเดี่ยวแล้วเอาวางไว้ที่โต๊ะ ต้องให้แม่ส่งตามมาให้เลยทีเดียว สำคัญมากกก)
- ไดอารี่ ( อันนี้ความชอบส่วนตัวนะคะ) เอาไว้จดประสบการณ์ดีๆ จะได้ไม่ลืม
- เสื้อผ้าเมืองหนาว 1-2 ชุด (แนะนำว่าเตรียมมาพอประมาณ) นอกนั้นมาซื้อเอาประเทศปลายทางนะคะ เพราะว่าซื้อประเทศเมืองร้อนแบบบ้านเรา อุ่นแค่ไหนก็สู้ที่นี่ไม่ได้ค่ะ
- เสื้อผ้าสไตล์เราไว้รอใส่ช่วงซัมเมอร์ไงจ๊ะ ที่นี่ไม่ค่อยมีสไตล์แบบ เด็กแนว ฮิปสเตอร์ไรงี้เท่าไหร่ซึ่งเราเป็นพวกพยายาม ฮิป 5555 ไม่ได้เป็นแบบธรรมชาตินะ
- Universal Adapter นะจ๊ะยูว สำคัญมากเพราะว่าเดี๋ยวจะเสียบอะไรไม่ได้
- ยาสามัญและไม่สามัญประจำบ้าน มันจะมียาบางตัวซื้อที่นี่ไม่ได้นะคะ ต้องใช้ใบรับรองจากแพทย์เพราะฉะนั้นเตรียมมา (ยาหม่องงี้ น่าจะมีแค่เมืองไทย ถ้าคิดถึงกลิ่นแบบไทยๆ)
- หมอนข้าง (สำหรับคนที่ติดนะ) เพราะจริงๆ เราขาดหมอนข้างไม่ได้ แต่ตามหาเท่าไหร่ก็ไม่เจออ่ะ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไม่มีหมอนข้างขาย
- ผงพริกแกงและน้ำพริกต่างๆ สำคัญระดับ 10 เอาจริงๆ มันเป็นครึ่งหนึ่งของกระเป๋าเราเลย (น้ำจิ้มสุกี้ น้ำจิ้มสามรสเป็นขวดก็เอา ) คือยูววอาหารต่างประเทศกินได้ติดต่อกันมากแค่ไหนก็ต้องการอาหารรสจัดแบบบ้านเรานะ เพราะเผ็ดของอาหารพวกนางเป็นความเผ็ดอีกฟีลนึง มาม่าด้วย มาม่าที่นี่เป็นฟีลแบบ ความเผ็ดอยู่ตรงไหน ตอบ!!
- หนังสือ เพราะว่าช่วงการนั่งเครื่องมันจะยาวนานมาก ถ้ามีหนังสือติดมาด้วยก็เป็นวิธีแก้เหงาได้ดีทีเดียวเลยช่วงรอต่อเครื่องไรงี้ไม่มีใครคุยด้วยก็อ่านหนังสือจ้า (แต่ตอนจริงวิจิตรา หาไวไฟเล่น 555)
- กล้องถ่ายรูป จำเป็นอยู่นะยูวว เพราะว่ามาแลกเปลี่ยนหมายถึงต้องมาเก็บความทรงจำ
- เครื่องเขียน (เราว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความเยอะของสีปากกา) 5555+ โซนเอเชียอาจจะแบ๊วเยอะนิดนึง ปากกาหลากสี แต่มาที่นี่คือไม่เจอเลยจ้า มีแต่ปากกาน้ำเงิน ดำ แดง ดีนะเตรียมมา
- เอกสารสำคัญ อย่าลืม ถ้าเป็นไปได้ถ่ายเอกสารสำคัญวีซ่า พาสปอร์ตเก็บไว้นะจ๊ะ (พวกจดหมายตอบรับ จดหมายทุน จดหมายประกันไรงี้ เตรียมมาอย่าให้ขาดเลยนะ) เพราะวีซ่าระยะยาว ตม. ถามละเอียดมาก หน้าตาแบ๊วแบบนี้ไม่น่าจะเป็นผู้ร้ายข้ามชาตินะคะคุณลุง
- อย่าพกของก๊อบเกรดเอ งานมิลเลอร์มายุโรปเลยเชียว ระวังโดนปรับนะจ๊ะ!!!!!! (แต่นี่เป็นข้อยกเว้นของ บัลแกเรียจ้า 55555+ ขอบก๊อป เถื่อน จีน เพียบเลยย )
เตรียมของพร้อมแล้ว “อีก 10 เดือนเจอกันใหม่!” เป็นคำที่เราบอกกับเพื่อนและครอบครัว ตอนหน้าว๊าบไปเจอกันที่บัลแกเรียนะจ๊ะ โอ้ย ตื่นเต้น!!!
ซีซั่นแรกจบแล้ว…เจอกันใหม่ใน ซีซั่น ที่ 2 ค่ะ
ด้วยรักและชูใจ
ภาพถ่ายในตอนนี้ถ่ายโดย : ตะลันต์ สดุดีวงศ์
Related Posts
- Author:
- วิจิตรา - สาวน้อยหัวใจผจญภัย กับความฝันอยากไปเมืองนอกที่ยังไม่หมดอายุของเธอ ถึงตอนนี้จะกลับมาจากบัลแกเรียแล้ว แต่ก็ยังคงเก็บตังค์เพื่อพาตัวเองออกนอกประเทศอีกครั้ง ตอนนี้เลยมาช่วยงานแปลพี่ชูใจไปก่อนเงินจะเต็มกระปุกให้ออกเดินทางงงงง
- Illustrator:
- Atom Pokaew
- นักวาดภาพแนวปรัชญา นักดนตรีแนวปรัชญา ผู้รับใช้แนวปรัชญา ฯลฯแนวปรัชญา ชื่นชอบการผจญภัยไปในความคิดและการดูหนังจีนกำลังภายในเป็นชีวิตจิตใจ
- Editor:
- วอร์ วรรัก
- Editor สาวเรียบเรียงหลายบทความในชูใจ เธอผู้มีภาษาละมุนละไม กระดุ้มกระดิ้ม และยังมุ่งมั่นรับใช้พระเจ้าและมีภาระใจในการทำงานด้านให้คำปรึกษากับวัยรุ่น เลยต้องดั้นด้นไปอยู่เมืองสิงโตพ่นน้ำเพื่อเรียนต่อด้านนี้!