ผู้เขียน: Vaneetha Rendall Risner
ต้นฉบับ: https://www.desiringgod.org/articles/weakness-and-failure-will-build-your-faith
ถ้าย้อนเวลาได้…
มีหลายสิ่งอย่างที่ฉันอยากบอกตัวเองตอนอายุ 30 เพราะตอนนั้นฉันคิดว่าชีวิตตัวเองลงตัวดีสุดๆ
แต่กลับไม่ใช่เลย
ชีวิตฉันพลิกผันแบบตั้งตัวไม่ทัน จนคิดๆ ไปแล้วฉันก็อยากให้มีคนมาบอกตัวเองตอนนั้นว่า
“เธอกำลังไขว่คว้าสิ่งที่ไร้ค่าอยู่นะ แล้วก็เชื่อมั่นตัวเองแบบผิดๆ ด้วย หยุดพิสูจน์ตัวเองด้วยความสำเร็จ หรือ “พระพร” ได้แล้ว ไม่ว่าจะวัตถุ ชื่อเสียง หรือความสัมพันธ์ เพราะไม่มีอะไรสักอย่างที่ยั่งยืน พระพรที่เธอคิดว่ากำลังได้รับอยู่ตอนนี้ในไม่ช้าเธอก็จะสูญเสียมันไป และเมื่อเธอเสียมันไปแล้ว เธอถึงจะค้นพบว่าการอวยพรที่แท้จริงมันลึกซึ้งและยั่งยืนกว่าที่เธอเคยได้รับหรือคาดคิดได้”
ไม่มีทางเลยที่ฉันจะเตรียมชีวิตในช่วง 30 ให้พร้อมกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น คนเราจะเตรียมตัวสำหรับสิ่งที่ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นได้ยังไงล่ะ? ฉันดีใจที่ฉันก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่ก็หวังจะได้รู้ว่า ขณะที่พระเจ้าเอาทรัพย์สมบัติในโลกออกจากชีวิตฉันไป พระองค์กำลังทดแทนด้วยสิ่งซึ่งไม่มีใครจะเอาจากฉันไปได้ นั่นคือ ทรงมอบชีวิตพระองค์เองแก่ฉัน
สิ่งที่ต้องแลกกับความสำเร็จในงาน
ชีวิตในช่วงวัยรุ่นและช่วงอายุ 20 ของฉันรุ่งเรืองมาก ฉันได้เป็นตัวแทนกล่าวสุนทรพจน์ของชั้นม.ปลาย ได้เข้ามหาวิทยาลัยที่อยากเข้า เรียนจบก็ได้ทำงานในสถาบันการเงินที่โด่งดัง ได้ปริญญาโทด้านการบริหารจากมหาลัยที่มีชื่อเสียง ได้แต่งงานกับเพื่อนร่วมชั้นเรียน และกำลังไต่เต้าไปสู่ระดับผู้บริหาร
ชีวิตฉันตอนนั้นกำลังพีคมากในมุมมองของคนทั่วไป ไม่มีอะไรที่ฉันอยากได้แล้วไม่ได้หรือทำไม่ได้ แต่ก็ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีๆ
จากคนที่ร้อนรนในความเชื่อสมัยมหาลัย พอในวัยทำงานฉันกลับเฉยชา ช่วงเวลาส่วนตัวของฉันกับพระเจ้ากลายเป็นเรื่องทำให้เสร็จๆ ไป ถ้าได้ทำอะนะ ความสัมพันธ์กับเพื่อนก็ผิวเผิน แต่ฉันก็ยุ่งเกินกว่าจะสนใจเรื่องพวกนั้น ความเชื่อฉันเริ่มตื้นเขินลงเรื่อยๆ แม้ภายนอกจะยังดูโอเค
จนอายุย่างเข้า 30 ชีวิตคู่ของฉันมีปัญหาจนทำให้ต้องขอรับคำปรึกษาเป็นเวลาหลายปี ฉันเสียลูกชายในขณะเป็นทารก แล้วก็ยังแท้งต่อเนื่องอีก 4 ครั้ง ฉันตรวจพบกลุ่มอาการหลังโรคโปลิโอ
แม่บ้านที่ประสบความสำเร็จ
ชีวิตที่ดูสมบูรณ์แบบของฉันถึงจุดหักเหตอนที่ตัดสินใจเป็นแม่บ้านเต็มเวลาหลังจากคลอดลูกคนแรก ฉันเปลี่ยนความสนใจจากหน้าที่การงานไปเป็นภรรยาและแม่ที่ดี ฉันพยายามทำอาหารดีๆ ถ่ายรูปและทำหนังสืองานฝีมือ เพื่อบันทึกการเจริญเติบโตของลูกในแต่ละวาระสำคัญ
ฉันอธิษฐานเผื่อสามีและพยายามใช้เวลาร่วมกัน วางแผนเวลาส่วนตัวที่เราสองคนจะใช้ด้วยกันในแต่ละอาทิตย์ และวางแผนสอนหนังสือลูกเองที่บ้าน ฉันได้มีเวลาส่วนตัวกับพระเจ้าเป็นประจำมากขึ้น ได้สอนพระคัมภีร์ในกลุ่มเซล และเป็นพี่เลี้ยงในเรื่องชีวิตคู่
ความยากลำบากต่างๆ บังคับให้ฉันพึ่งพระเจ้า และเรียนรู้ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับชีวิตที่เปลี่ยนแปลง ช่วงเวลาที่มืดมนลงกว่าเดิม แต่ฉันก็ยังรู้สึกว่าตัวเองทำได้ดีอยู่ถึงแม้จะในบทบาทที่ต่างไป
ทางตัน
แต่พอเข้าวัย 40 ทุกอย่างก็พังทลาย สามีฉันนอกใจด้วยเหตุผลว่าฉันทำหน้าที่ภรรยาหลายอย่างได้ไม่ดีพอ ลูกของฉันโกรธพระเจ้าและเลิกเชื่อ ยิ่งตอกย้ำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นแม่ที่ล้มเหลว จากบ้านที่เป็นที่พักใจกลายเป็นบ้านที่มีแต่ความขมขื่นและอดีตอันเจ็บปวด แขนฉันเริ่มอ่อนแรงเพราะโรคหลังโปลิโอทำให้ฉันต้องหยุดทำอาหาร หยุดทำหนังสืองานฝีมือ และต้องเน้นไปที่การเยียวยาและดูแลตัวเอง
ทุกสิ่งที่ฉันพยายามทำมาหายไปในพริบตา สิ่งที่ฉันให้คุณค่ากลับสูญหายไป ไม่เหลือแม้แต่สิ่งเดียวที่ทำให้ภาคภูมิใจ วันคืนเหล่านั้นช่างเจ็บปวดเกินจะบรรยายออกมาเป็นคำได้ เพื่อนและครอบครัวพยายามแวะเวียนมาหาแต่ภายในฉันก็ยังรู้สึกเหมือนใกล้จะตาย สิ่งที่เคยประสบความสำเร็จมาตอนนี้กลับไม่มีค่าอะไรเลย
ฉันพึ่งพาพระเจ้ามากกว่าเดิมเพราะไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครแล้ว จากจุดที่มืดมนในตอนนั้นกลับกลายเป็นว่าฉันได้เห็นแสงสว่างที่คาดไม่ถึงในพระเจ้า ฉันกระหายหาพระองค์อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พระคำของพระองค์ฟื้นฟูจิตใจฉันขึ้นใหม่ทุกวัน คำอธิษฐานก็เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น ความสัมพันธ์กับคนรอบตัวก็เป็นไปอย่างลึกซึ้งมากขึ้น ไม่มีอะไรเคลือบแฝง ไม่ต้องดูดีหรือสร้างภาพอีกต่อไป ทุกอย่างโปร่งใส
และฉันค่อยๆ ตระหนักว่าที่จริงความล้มเหลวครั้งใหญ่นี้เป็นของขวัญชิ้นพิเศษ
ตัวตนและความมั่นคงในใจ
ขณะที่ชีวิตฉันถูกทดสอบด้วยความทุกข์และความล้มเหลว แต่ฉันกลับได้รับรู้ตัวตนที่แท้จริงของตัวเองซึ่งไม่ได้อยู่ที่ความสำเร็จ หรือสิ่งที่คนอื่นมองฉัน หรือสิ่งที่ฉันเคยทำมา
ตัวตนของฉันอยู่ในพระคริสต์
ความสำเร็จในชีวิตฉันไม่เคยให้ความมั่นคงในใจ ตรงกันข้ามด้วยซ้ำ มันกดดันให้ฉันต้องพยายามไต่ให้สูงขึ้นไปอีกเรื่อยๆ แต่ความล้มเหลวให้ความมั่นใจภายในและสอนฉันเกี่ยวกับตัวเอง ใครที๋ฉันควรพึ่งพิง อะไรที่สั่นคลอนได้ สิ่งไหนที่ไม่มั่นคง ดังนั้นท่ามกลางความล้มเหลว ฉันเข้าใจชัดเจนแล้วว่าการอวยพรที่แท้จริงเกิดขึ้นจากอะไรบ้าง พระพรที่แท้จริงมีในพระเจ้าเท่านั้น
พระเจ้าสร้างเราจากความล้มเหลว
พระคัมภีร์แสดงให้เราเห็นชัดเจนว่าพระเจ้าใช้ความล้มเหลวและความอ่อนแอยังไง ดาวิดทำบาปต่อพระเจ้าเมื่อเขาตัดสินใจนับประชากร แทนที่จะวางใจในพระเจ้า พระเจ้าลงโทษดาวิด ดาวิดกลับใจใหม่ เขาสร้างแท่นบูชาที่ลานนวดข้าวของโอรนันคนเยบุส สถานที่แห่งความล้มเหลวและการกลับใจใหม่จึงกลายเป็นแท่นบูชาที่สร้างขึ้นเพื่อพระเจ้า
เช่นเดียวกับพระวิหารในเยรูซาเล็ม สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดที่พระองค์ประทับอยู่ในโลกกับมนุษย์ ถูกสร้างขึ้นบนพื้นดินของความล้มเหลวของมนุษย์นั่นเอง
ไม่มีสิ่งใดที่เราถวายให้พระเจ้าได้นอกจากหัวใจของเรา กลับใจใหม่ และพึ่งพาพระองค์เท่านั้น ไม่ใช่ความสำเร็จที่เราสร้างเอง
พระเจ้าไม่ได้ทรงประทับในวิหารที่มนุษย์สร้างด้วยมือ แต่ทรงประทับอยู่ภายในเรา เช่นกันงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่พระองค์ทรงทำคือ ทรงสร้างเราใหม่จากความล้มเหลว พระองค์ทำสิ่งใหม่ที่วิเศษสุดเมื่อเราพึ่งพาพระองค์เพียงผู้เดียว
ถ้าบอกตัวเองตอนอายุ 30 ได้ จะพูดว่าอะไร?
วางใจพระเจ้าค่ะ พระองค์จะใช้ทุกสิ่งอย่างในชีวิตของเธอที่จะดึงให้เธอเข้าใกล้พระองค์มากขึ้น อย่าให้ความทุกข์ที่เกิดขึ้นเสียเปล่า เพราะมันจะสร้างความเชื่อของเธอขึ้นใหม่ แล้ววันหนึ่ง เมื่อความเชื่อปรากฏให้เธอเห็นชัดเจนขึ้น เธอจะขอบคุณพระเจ้าสำหรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น
Related Posts
- Translator:
- Jick
- บก.ชูใจ ผู้ใฝ่ฝันจะชูใจน้องๆ จากความพลาดของตัวเอง