มีหลายครั้งในช่วงชีวิตที่ข้าพเจ้าเคยบ่นกับพระเจ้าเพราะ “แม่”

และมีหลายครั้งในช่วงชีวิตอีกเช่นกันที่ข้าพเจ้าขอบคุณพระเจ้าเพราะ “แม่”

 

___________________

 

แม่ ในทรงจำของข้าพเจ้าเป็นหญิงสูงวัยเชื้อสายจีน แม้ผมสีดอกเลาของแม่จะถูกย้อมให้ดกดำอยู่เสมอ แต่เวลาไปไหนมาไหนด้วยกันคนอื่นก็มักจะเข้าใจว่าข้าพเจ้าเป็นหลานอยู่ดี ซึ่งแม่ก็จะคอยแก้ว่า

“ไม่ใช่หลานค่ะ นี่ลูกบุญธรรม”

 

ตั้งแต่เด็กมาข้าพเจ้าไม่เห็นว่าแม่คนนี้จะนับถืออะไรไปมากกว่าเงิน ความเป็นชาวจีนสำแดงในตัวแม่เข้มข้นอย่างนี้ก็เพราะมีวัยเด็กที่ยากลำบาก กว่าจะลืมตาอ้าปากได้ก็ตอนแต่งงานกับพ่อนี่แหละ นี่อาจเป็นส่วนหนึ่งที่แม่พูดเสมอว่าตัวเองไม่เชื่อในความรัก แต่เชื่อสนิทใจเรื่องอำนาจของเงิน ใช่ เรื่องเงินๆ ทองๆ เป็นความสามารถพิเศษของแม่ กระทั่งงานอดิเรกก็ยังเป็นการนั่งนับเงินในวงไพ่

 

แต่ไหนแต่ไรมาข้าพเจ้าเกลียดวงไพ่ของแม่ถึงขั้นเคยโทรเรียกตำรวจ แต่ก็อดยอมรับไม่ได้ว่ามันเป็นกิจกรรมที่รวบรวมคนในซอยให้เป็นปึกแผ่น เหตุผลหลักๆ คือไพ่วงนี้ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมาเป็นสิบปี จนถึงตอนนี้ก็ยังเรียกได้ว่าบ้านเราหัวกระไดไม่เคยแห้งทำให้ข่าวสารในหมู่บ้านและตลาดแถบปากซอยจะถูกถ่ายทอดหมุนเวียนสู่กันในช่วงเวลาใกล้เที่ยงวัน บางเรื่องอื้อฉาวหน่อยก็จะลากประเด็นยาวไปจนถึงเย็น

พฤติกรรมเหล่านี้แหละที่ข้าพเจ้าเคยเกลียดนักหนา เพราะแม่คุยกับคนในวงไพ่มากกว่าข้าพเจ้าเสียอีก

อันที่จริงนอกจากประโยคเดิมๆ อย่าง “เย็นนี้จะกินอะไร” และ “ล็อคประตูบ้านหรือยัง” ก็แทบไม่มีบทสนทนาอื่นระหว่างเราเพิ่มเติม

___________________

 

ผ่านมาเกือบ 20 ปีที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันก็ถึงวัยที่ข้าพเจ้าจะออกไปมองหาสิ่งที่เรียกว่า “บ้าน” ให้กับตัวเอง ความรู้สึกโดดเดี่ยวนี้ไม่ใช่รสใหม่ที่เพิ่งสัมผัส ข้าพเจ้าชินเสียแล้วกับการอยู่ลำพัง บ้านและแม่ในนิยามของข้าพเจ้าจึงกลายเป็นชิ้นส่วนของอดีต ที่นานๆ ครั้งเมื่อสบโอกาสถึงจะแวะผ่านเข้าไปเยี่ยมเยียนสักที

 

ครั้งนี้ก็เป็นโอกาสหนึ่ง ข้าพเจ้ากลับไปเพื่อเก็บของที่ลืมทิ้งไว้โดยตั้งใจว่าจะค้างสักคืนสองคืน เมื่อมองไปรอบๆ ก็พบว่าของในบ้านทุกอย่างยังเหมือนเดิม วางไว้อย่างไรก็อย่างนั้น

 

แม่ก็เช่นกัน หลังจากบอกคิดถึงแล้วก็หายไปดูละครบ้านข้างๆ กลับมาตอนค่ำก็นอนเล่นไอแพด–ดื่มด่ำกับนวัตกรรมใหม่ที่แกเพิ่งใช้เป็น ตัดภาพมาตอนเช้าก็เดินกวาดใบไม้ทักทายเพื่อนตามบ้านต่างๆ ใกล้เวลาเที่ยงขาไพ่ก็เริ่มทยอยมาตัั้งวง–กิจวัตรของแม่เป็นอย่างเดิมทุกวันมาหลายปีไม่เคยเปลี่ยนจนถึงตอนนี้ (เพิ่มเติมคือไอแพด)

 

ข้าพเจ้าได้แต่บ่นงึมงำกับตัวเองว่านี่ขนาดนานๆ ทีจะมาเยี่ยมยังแทบไม่เจอหน้า อยู่ต่ออีกวันคงเหมือนเดิม คิดได้อย่างนั้นก็เดินไปกดโทรศัพท์เพื่อเรียกรถรับจ้างให้เข้ามารับออกไป

 

ระหว่างที่กำลังหาเบอร์โทรของรถรับจ้างนั้นเอง ข้าพเจ้าก็ค้นพบความเปลี่ยนแปลงในสมุดข้างโทรศัพท์เล่มใหญ่เล่มเดิมกับเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน นอกจากเบอร์ของใครต่อใครและตัวเลขโต๊ดเต็งของแม่ เกือบหลังสุดของสมุดจดเบอร์เล่มนั้นกลับมีหน้าหนึ่งที่ถูกเขียนจนเต็มแผ่นด้วยลายมือโย้เย้เหมือนเด็กเพิ่งหัดจับดินสอ เนื้อความข้างในกล่าวถึงความกังวลของผู้สูงอายุที่ไม่รู้ว่าวันสุดท้ายจะมาถึงเมื่อไหร่และสิ่งที่เขาต้องการจะบอกเมื่อเวลานั้นมาถึง

 

 

ข้าพเจ้าถูกกล่าวถึงเป็นชื่อแรกด้วยภาษาพูดอย่างง่ายที่สะกดเขียนผิดๆ ถูกๆ ลงเป็นตัวอักษรไทย ใจความประมาณว่าหากข้าพเจ้าอยากได้อะไรในบ้านก็ขอให้เอาไปได้เลย จากนั้นที่เหลือก็ให้พี่น้องแบ่งเอาไป อีกทั้งยังเขียนย้ำถึงเอกสารสำคัญอย่างบัตรประกันชีวิต ทะเบียนบ้าน และใบแจ้งเกิดของข้าพเจ้าที่ถูกเก็บอยู่ในตู้ ลงท้ายด้วยอธิบายเพิ่มเติมถึงการเอ่ยชื่อข้าพเจ้าเป็นลำดับแรกโดยขอให้ญาติพี่น้องของเขาเห็นใจที่ข้าพเจ้าโตมาอย่างโดดเดี่ยวไร้ที่พึ่ง

 

ตอนนั้นเองที่ข้าพเจ้ามองเห็นความเป็นห่วงและสงสารถ่ายทอดผ่านข้อความขนาดยาวที่อาจเรียกว่า “พินัยกรรม” จนทำให้ได้หวนนึกถึงความสัมพันธ์เงียบๆ ห่างๆ ที่ผ่านมาของเรา

 

หลายต่อหลายครั้งข้าพเจ้าบ่นกับพระเจ้าที่ไม่ให้แม่เป็นแม่จริงๆ ด้วยคิดเอาเองว่าหากใกล้ชิดกว่านี้คงเอื้อมแตะนิยามของแม่ลูกในอุดมคติได้บ้าง แต่ขณะนี้พระเจ้าทำให้ข้าพเจ้าได้เห็นแล้วว่า “แม่ก็คือแม่”

 

แม่คือแม่ที่ไม่ค่อยพูด แต่คอยสังเกตอยู่ห่างๆ

แม่คือแม่ที่ลูกบ่นนักหนาว่าติดไพ่ แต่เงินค่าต๋งก็มักจะแปรไปเป็นของที่ลูกอยากได้

แม่คือแม่ที่คุยจ้อเรื่องคนโน้นคนนี้ แต่คุยบ่อยที่สุดก็เรื่องเรียนดีของลูก

แม่คือแม่ที่เห็นเรื่องเงินใหญ่ที่สุด แต่รับเด็กคนหนึ่งมาเลี้ยงโดยไม่ได้อะไรตอบแทน

แม่คือแม่ที่ภาษาไทยไม่แข็งแรง แต่พยายามเขียนพินัยกรรมด้วยตัวเอง

แม่คือแม่ที่บรรจงเขียนความตั้งใจสุดท้ายอย่างสุดฝีมือ แต่เก็บไว้ในสมุดจดเบอร์โทรศัพท์เก่าๆ

.

แม่คือแม่ที่ทำเหมือนไม่เชื่อเรื่องความรัก แต่ถ่ายทอดความในใจทั้งหมดที่มีลงบนกระดาษ

 

___________________

.

สิ่งที่เคยอธิษฐานขอหลายต่อหลายครั้งปรากฏให้เห็นตรงหน้า
ว่ากันตามจริงคือมันอยู่มาตั้งแต่ก่อนอธิษฐานเสียอีกเพียงแต่ข้าพเจ้าไม่เคยตั้งใจสังเกตมาก่อน

.

“เพราะว่าสิ่งไรซึ่งท่านต้องการ พระบิดาของท่านทรงทราบก่อนที่ท่านทูลขอแล้ว”
(มัทธิว 6:8)

 

เหมือนกับเส้นผมบังภูเขา ข้าพเจ้ามัวแต่มองหาความรักในรูปแบบที่ข้าพเจ้านิยามเอาเอง จนละเลยความรักอีกรูปแบบหนึ่งที่พระเจ้าได้มอบให้ มองหาสิ่งที่ไม่เคยได้จนลืมมองดูสิ่งที่มีอยู่

 

ข้าพเจ้าเห็นความรักยิ่งใหญ่ของพระเจ้าผ่านทางแม่คนนี้ คนที่เห็นข้าพเจ้าสำคัญยิ่งกว่าใครทั้งหมด

.

.

คืนนั้น ขณะมองนิ้วมือเหี่ยวย่นของแม่ที่กำลังจิ้มไอแพด
ใจของข้าพเจ้าก็มีแต่ความชื่นชมยินดีและเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกขอบคุณ

.

ขอบคุณพระเจ้าเหลือเกินที่ข้าพเจ้าได้รู้จักกับ “แม่” ที่แม่คนไหนๆ ก็แทนไม่ได้


#ชูใจชวนแชร์ เพราะเรารู้ว่าทุกคนมีเรื่องเล่า… ชูใจจึงชวนมา ‘ส่งต่อ’ เรื่องราวที่พระเจ้าทรงทำในชีวิตของคุณเพื่อ ‘ชูใจ’ คนอื่นต่อไป ( <3 อ่านรายละเอียดได้ที่ >> https://choojaiproject.org/choojai-forward/ )


Previous Next

  • Author:
  • เด็กสาวหน้านิ่งจากเมืองกรุง มุ่งหน้าใช้ชีวิตในเมืองเหนือ พระเจ้านำให้ได้มาทำงานกับชูใจ เธอผู้นี้มีความสามารถหลากหลาย ทั้งวาดภาพ เขียน เรียบเรียง และเอาขามาพาดคอระหว่างนั่งทำงาน เธออินกับการสะกดคำให้ถูกต้องตามราชบันฑิตฯ และมีรสนิยมวินเทจผิดจากความเป็นเจนวาย เป็นหนึ่งใน Avenger ทีมบก.ที่จะมาช่วยชูใจผู้อื่นกัน
  • Illustrator:
  • Emma C.
  • เด็กสาวหน้านิ่งจากเมืองกรุง มุ่งหน้าใช้ชีวิตในเมืองเหนือ พระเจ้านำให้ได้มาทำงานกับชูใจ เธอผู้นี้มีความสามารถหลากหลาย ทั้งวาดภาพ เขียน เรียบเรียง และเอาขามาพาดคอระหว่างนั่งทำงาน เธออินกับการสะกดคำให้ถูกต้องตามราชบันฑิตฯ และมีรสนิยมวินเทจผิดจากความเป็นเจนวาย เป็นหนึ่งใน Avenger ทีมบก.ที่จะมาช่วยชูใจผู้อื่นกัน
  • Editor:
  • Perapat T.
  • Blogger ผู้มากความสามารถในงานเขียน เป็นคริสเตียนที่เรียนสังคมวิทยา ฯ มาอย่างโชกโชน สเตตัสปัจจุบันเป็นนักเขียนอิสระ และ รับใช้พระเจ้าไปด้วย :)