ผู้เขียน: Timothy Trudeau
ต้นฉบับภาษาอังกฤษ: Did You Marry ‘The One’?
สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “คนที่ใช่” มีจริงรึเปล่านะ?
ถ้าคุณกำลังคบใครซักคนอยู่ คุณจะรู้ได้ไงว่าเขาคือคนที่ใช่? คือคนที่คุณไม่ทะเลาะด้วยบ่อยๆ หรือเปล่า? หรือคือคนที่ชอบอะไรเหมือนๆ กัน? เอ๊ะ หรือจะเป็นคนที่ทำแบบทดสอบบุคลิกภาพและได้ผลออกมาคล้ายๆ กัน? หรือคือคนที่คุณมองเห็นตัวคุณเองแก่ไปพร้อมกันกับเขา? หรือมันคือทั้งหมดที่พูดมา?
___________________________________
.
ผมอยากบอกคุณว่าปัญหาของการคิดว่า “คนที่ใช่มีอยู่จริง” ก็เพราะ “มันต้องมีคนที่ไม่ใช่” ด้วยน่ะสิ สิ่งนี้ดูเหมือนไม่เป็นอะไร บางคนอาจจะคิดว่ามันมีประโยชน์ด้วยซ้ำในขั้นตามหาเขาคนนั้นอ่ะนะ อย่างไรก็ตามเมื่อคุณแต่งงานแล้ว “คนที่ไม่ใช่ ไม่มีอยู่จริง” แต่ถ้าคุณคิดตรงข้ามละก็ ชีวิตคู่ของคุณอาจตกอยู่ในอันตรายแล้วล่ะครับ
ถ้าเราอยู่ในสภาวะที่คิดว่าเราอาจเลือกคนที่ไม่ใช่มาเป็นคู่ชีวิต เราก็คงจะไม่ยอมทนทุกข์ใดๆ ด้วยกันกับเค้าเพราะเราคิดว่าเค้าไม่ใช่ไง ถ้าเราทั้งคู่ต่างแต่งงานกับคนที่ไม่ใช่ ทำไมเราต้องทั้งเสียสละและเครียดเพื่อทำให้ความสัมพันธ์มันออกมาดีด้วย? ทำไมถึงไม่หย่าแล้วเริ่มต้นหาคนใหม่ที่ใช่ไม่ดีกว่าหรอ? (หวังว่าคนที่ใช่คนนั้นจะไม่พลาดไปแต่งงานกับคนอื่นก่อนอีกนะ)
ความคิด เกี่ยวกับ “คนที่ไม่ใช่” เป็นเค้าลางของชีวิตคู่ที่ไม่ประสบความสำเร็จ
.
เส้นทางรักโรแมนติก
เราหลายคนคงเคยดูหนังหรือละครประมาณว่า พระเอกนางเอกที่ “ควร” ลงเอยกันแต่โชคชะตากลั่นแกล้งทำให้ต้องตกร่องปล่องชิ้นกับคนอื่น กลายเป็นตำนาน “รักแท้” อันน่าเศร้า
ช่วงแรกๆ เราคนดูมักจะไม่อยากให้พวกเขาอยู่ด้วยกัน เพราะเราให้ความสำคัญกับการแต่งงานมาก จนหนังเริ่มดำเนินไป ทั้งฉากเหตุการณ์ บทพูด องค์ประกอบแต่ละอย่างเริ่มทำให้เราอิน จนในที่สุดเรากลายเป็นส่วนหนึ่งที่เชียร์ให้คู่ที่แต่งงานกันไปแล้วเลิกกัน เพื่อให้เกิดช่องว่างให้อีกคนเข้ามาแทนที่ ภายในเวลา 90 นาทีของหนัง เราค่อยๆ เอนเอียงจากที่คิดว่าผิด ไปยังเริ่มไม่แน่ใจ จนเริ่มเอ๊ะ! อาจจะโอเค จนเอาใจช่วยให้คู่พระนางรักแท้ทั้งสองมาใช้ชีวิตด้วยกันในตอนท้าย แต่! ไม่ว่าจะยังไงนี่คือการนอกใจ
เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นสมมติฐานอย่างหนึ่งก็คือ แนวคิดเรื่อง คนที่ ใช่ และคนที่ ไม่ใช่
.
คนที่ ‘ใช่’ และคนที่ ‘ไม่ใช่’
ง่ายๆ เลยนะ ถ้าคุณยังไม่ได้แต่งงาน ไม่มีหรอก “คนที่ใช่” อย่างที่ว่าน่ะ พระคัมภีร์ให้เพียงกรอบกว้างๆ ในการเลือกว่า “อย่าเทียมแอกกับคนไม่เชื่อ” (2 คร.6:14) แต่พระองค์ไม่ได้ระบุว่าใครคือที่ใช่ของแต่ละคน ดังนั้น คนที่ใช่คือคนที่คุณ “ตกลงปลงใจ” แต่งงานด้วยนั่นแหละ และนั่นคือสิ่งที่การแต่งงานได้ประกาศไว้
การแต่งงานเป็นการยินยอมที่จะมีพันธะผูกพันกับคนที่มีข้อผิดพลาด คุณไม่ได้ละเลยกับข้อผิดพลาดของเขา คุณผูกพันกับเขาแม้ว่าเขาจะมีข้อผิดพลาด แท้จริงแล้วข้อบกพร่องมันมาพร้อมกับการแต่งงานและเมื่อคุณยินยอมอยู่ในข้อตกลงที่จะมีพันธะผูกพันนั้น
“ฝ่ายสามีก็จงรักภรรยาของตน เหมือนอย่างที่พระคริสต์ทรงรักคริสตจักร และทรงประทานพระองค์เองเพื่อคริสตจักร”
(เอเฟซัส 5:25)
ในเมื่อเรายินยอมที่จะมีพันธะผูกพันไปแล้ว เราก็ต้องจำไว้ด้วยว่า เราเองก็เป็นคนมีข้อบกพร่องเช่นกัน
เพราะว่าทุกคนทำบาป และเสื่อมจากพระสิริของพระเจ้า (โรม 3:23) และนั่นคือการทำให้ชีวิตสมรสถวายเกียรติ คือการที่คนมีข้อบกพร่องคนหนึ่ง มาผูกพันชีวิตกับอีกคนหนึ่งซึ่งบกพร่องเช่นเดียวกัน จึงทำให้ความผูกพันครั้งนี้ถวายเกียรติแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ไม่มีข้อบกพร่องใดเลย
.
คนที่ใช่ คือคนนั้นแหละที่คุณแต่งงาน!
ดังนั้น แทนที่จะมองหาคนที่ใช่ ให้หันมามองที่คู่ชีวิตของคุณและรักษาชีวิตคู่ที่บริสุทธิ์ไว้ดีกว่า ครั้งหนึ่งคุณได้แต่งงานและให้คำสัญญาต่อหน้าพระเจ้าและมนุษย์แล้ว ยินดีด้วยนะครับ คุณได้มีชีวิตคู่กับคนที่ใช่แล้ว
พระองค์ตรัสตอบเขาว่า “พวกท่านไม่ได้อ่านหรือว่า พระผู้ทรงสร้างมนุษย์แต่เดิม ได้ทรงสร้างให้เป็นชายและหญิง และตรัสว่า เพราะเหตุนั้น บุรุษจึงต้องละบิดามารดาของตน ไปผูกพันอยู่กับภรรยา และเขาทั้งสองจะเป็นเนื้ออันเดียวกัน เขาจึงไม่เป็นสองต่อไป แต่เป็นเนื้ออันเดียวกัน เหตุฉะนั้นซึ่งพระเจ้าได้ทรงผูกพันกันแล้ว อย่าให้มนุษย์ทำให้พรากจากกันเลย (มัทธิว 19:4-6)
เมื่อคุณเจอเส้นทางชีวิตคู่ที่ขรุขระ จำไว้ว่าการสมรสที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกคือการที่คนสองคนได้รับการการช่วยกู้จากพระเจ้าตลอดความสัมพันธ์ และขอบพระคุณที่พระเยซูลงมาเพื่อฟื้นฟูเราและให้เรามีความสัมพันธ์ที่ยอดเยี่ยมกับพระองค์
“ดูเถิด พลับพลาของพระเจ้าอยู่กับมนุษย์แล้ว พระองค์จะทรงสถิตกับเขา เขาจะเป็นชนชาติของพระองค์ และพระเจ้าเองจะประทับอยู่กับเขา พระเจ้าจะทรงเช็ดน้ำตาทุกๆหยดจากตาของเขา ความตายจะไม่มีอีกต่อไป การคร่ำครวญ การร้องไห้ และการเจ็บปวดจะไม่มีอีกต่อไป เพราะยุคเดิมนั้นได้ผ่านพ้นไปแล้ว” (วิวรณ์ 21:1-5)
___________________________________
สรุปคือ ก่อนจะแต่งงาน ถามตัวเองให้มากว่า เรา “ยอม” ที่จะร่วมหัวจมท้ายไปกับคนๆ นี้ตลอดไปไหม แทนที่จะถามตัวเองว่า คนนี้คือคนที่ “ใช่ หรือ ไม่ใช่” เพียงอย่างเดียว เพราะชีวิตคู่คือการสละตัวเองออกครึ่งหนึ่ง เพื่อให้ได้อีกครึ่งหนึ่งของเขามาสร้างเป็นวงกลมวงใหม่ที่สมบูรณ์ ด้วยความช่วยเหลือขององค์พระผู้เป็นเจ้าตลอดชีวิตสมรสของคุณ
<3 พบกับ #LoveCoach และ #โค้ชเจเจ้ คอลัมน์ตอบปัญหาความรักในสไตล์คริสเตียนได้ทุกวัน อังคารสีชมพูววว์ หรือ ใครที่มีเรื่องความรักแน่นอก อยากให้พี่ชูใจช่วยยกออก ก็ Inbox เข้ามาได้จ้า <3
Related Posts
- Translator:
- Vijitra Chao
- วิจิตรา - สาวน้อยหัวใจผจญภัย กับความฝันอยากไปเมืองนอกที่ยังไม่หมดอายุของเธอ ถึงตอนนี้จะกลับมาจากบัลแกเรียแล้ว แต่ก็ยังคงเก็บตังค์เพื่อพาตัวเองออกนอกประเทศอีกครั้ง ตอนนี้เลยมาช่วยงานแปลพี่ชูใจไปก่อนเงินจะเต็มกระปุกให้ออกเดินทางงงงง
- Illustrator:
- Emma C.
- เด็กสาวหน้านิ่งจากเมืองกรุง มุ่งหน้าใช้ชีวิตในเมืองเหนือ พระเจ้านำให้ได้มาทำงานกับชูใจ เธอผู้นี้มีความสามารถหลากหลาย ทั้งวาดภาพ เขียน เรียบเรียง และเอาขามาพาดคอระหว่างนั่งทำงาน เธออินกับการสะกดคำให้ถูกต้องตามราชบันฑิตฯ และมีรสนิยมวินเทจผิดจากความเป็นเจนวาย เป็นหนึ่งใน Avenger ทีมบก.ที่จะมาช่วยชูใจผู้อื่นกัน
- Editor:
- Jick
- บก.ชูใจ ผู้ใฝ่ฝันจะชูใจน้องๆ จากความพลาดของตัวเอง