ต้นฉบับภาษาอังกฤษ: Are you ready for love?
ในฐานะที่เจ้เป็นกูรูด้านความรัก…
เจ้เจอคู่รักมานับไม่ถ้วนที่ไขว่คว้าหาความรักอย่างบ้าคลั่ง โดยที่ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจเลยว่า พอมีความรักแล้วต้องเจอกับอะไรบ้าง
.
จริงๆ แล้ว ภาวะอยากมีความรักกับภาวะพร้อมจะมีความรักเนี่ย มันช่างต่างกันลิบลับ
ถ้าเราพร้อมที่จะมีความรัก อายุ ฐานะ หรือระดับการศึกษาไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก แต่ที่สำคัญกว่านั้น คือ เราควรเป็นคนที่มีวุฒิภาวะ เพราะมันจะนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่วุฒิภาวะด้วยเช่นกัน ตามสมการ
คนที่มีวุฒิภาวะ + คนที่มีวุฒิภาวะ = ความสัมพันธ์ที่เติบโตแข็งแรง
.
ที่ว่ามาเนี่ย ไม่ได้หมายความว่า เราต้องเป็นคนที่ไร้ที่ติก่อนจะมีความรักนะ เพราะตลอดชีวิตของเรามันคือการมุ่งมั่นที่จะเป็นเหมือนพระเยซูคริสต์ให้มากขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ดังนั้น คนที่พร้อมจะมีคู่ไม่ได้แปลว่าเป็นคนที่เพอร์เฟ็กต์แล้ว แต่เป็นคนมีทัศนคติที่ถูกต้องต่างหาก ก่อนที่คิดจะมีรักเราต้องเข้าใจความเป็นจริงของชีวิตก่อนนะจ๊ะ
.
ความรักก็เหมือนการเดินทางครั้งสำคัญ ก่อนจะออกเดินทางเราต้องใช้เวลา ต้องวางแผน และเตรียมตัวให้พร้อม การจะมีรักเราต้องเตรียมตัวเพื่อให้ความสัมพันธ์นี้เป็นไปด้วยดี ดังนั้นในระหว่างที่รอเจอใครคนนั้นอยู่ เจ้มีแนวทางมาให้เราเช็คความพร้อมก่อนมีความรัก ตามนี้
.
1. เช็คตัวเองดูก่อน มีสัมภาระอะไรบ้าง
ก่อนที่เราจะคิดฝันถึงตัวเองในอนาคต เราต้องรู้จักตัวเองตอนนี้-เวลานี้ก่อนว่าเราเป็นคนแบบไหน ไม่ต้องถึงขนาดเป็นคนดีพร้อม แต่เรากลายเป็นคนที่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ได้ แค่เราเริ่มจัดการพฤติกรรมแย่ๆในอดีตและปัจจุบันซะก่อน
ไม่ว่าจะเป็น พฤติกรรมที่ไม่น่ารัก ความคิดแย่ๆ และความอีโมเว่อร์ๆ ที่เรายังไม่ได้จัดการจะสร้างปัญหาชีวิตให้ตัวเราเองและความสัมพันธ์กับคนอื่นแน่ๆ ดังนั้น จงใช้เวลาลงทุนกับตัวเอง เริ่มบำบัดรักษาบาดแผล แก้นิสัยแย่ๆ และจัดการสิ่งที่ถ่วงชีวิตตลอดมา หากว่าเราปรับปรุงชีวิตในช่วงที่ยังเป็นโสดได้ดี เราก็กำลังเตรียมตัวไปสู่ความสัมพันธ์ในอนาคตที่สดใส
.
2. รู้ตัวว่ากำลังตามหาอะไรอยู่
ก่อนจะมีความรักเราก็ควรต้องรู้ก่อนว่าความรักมันหน้าตาเป็นยังไง ตัวเราเป็นคนแบบไหน และความสัมพันธ์ที่เราต้องการคืออะไร ดังนั้น เราต้องรู้จักกำหนดขอบเขตที่เหมาะสมให้กับตัวเอง โดยเริ่มง่ายๆจากการกำหนดว่าสถานที่ไหนที่เราจะไม่ไปแฮงค์เอ้าท์ หรือ คนประเภทที่เราจะไม่คบด้วย
การที่เรารู้ว่าตัวเองอยากได้ความสัมพันธ์แบบไหนก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่ที่สำคัญกว่าก็คือรู้ว่าเราไม่อยากได้อะไรด้วย เมื่อรู้ว่าอะไรสำคัญสำหรับเราแล้ว ก็อย่าได้ยอมให้กับอะไรที่ดีน้อยกว่ามาล่อลวงเราได้ ความสัมพันธ์จะดีได้ก็ขึ้นอยู่กับคนที่อยู่ในความสัมพันธ์นั้นๆ ดังนั้นถ้าอยากจะได้คนที่ดี ก็ต้องจริงจังที่จะเลือกให้ดีๆ
.
3. มองชีวิตบนพื้นฐานความเป็นจริง
ตอนที่เรากำลังอยากมีความรัก เรายิ่งต้องระมัดระวังเรื่องความคาดหวัง เพราะตอนคบกันหวานแหววชีวิตก็จะมีเรื่องแฮปปี้ๆ มากมายแบบที่ ‘ไม่เคยมีมาก่อน’ แต่เราอาจลืมไปว่า เรื่องที่ไม่แฮปปี้ แบบที่ ‘ไม่เคยมีมาก่อน’ ก็มีด้วยเหมือนกัน
การคบใครสักคนไม่ได้ทำให้ชีวิตมีเป้าหมาย ให้ความมั่นคง หรือทำให้เรามีคุณค่าได้ ความสัมพันธ์ไม่อาจเติมเต็มความพึงพอใจของเรา รักษาบาดแผลในอดีต หรือขจัดปัญหาในชีวิตได้หรอก เพราะนั่นไม่ใช่จุดประสงค์ของความสัมพันธ์ (มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่ทำได้) แต่ความสัมพันธ์จะช่วยเติมเต็มเราและทำให้ชีวิตของเราเป็นพรมากขึ้น ถ้าเรามีท่าทีที่ถูกต้อง ดังนั้นจงตั้งความคาดหวังให้เหมาะสมตามความเป็นจริง และรู้ว่าความสัมพันธ์ช่วยอะไรได้ และช่วยอะไรไม่ได้
.
4. บุพการีและเพื่อนซี้ไม่มีค้าน
ลองคิดถึงคนที่รู้จักเราดี แล้วไปหาคนเหล่านั้นที่เชื่อใจได้ รักเรา สนับสนุนเรา และพร้อมจะลงทุนชีวิตให้กับเรา เพราะในที่สุดแล้วคนเหล่านี้เหมาะที่จะให้คำปรึกษาเราและช่วยเราเรื่องความสัมพันธ์
เมื่อใดก็ตามที่เห็นว่าคนที่เราเชื่อใจได้เหล่านี้ เป็นห่วงเป็นใยความสัมพันธ์ที่มี เราควรจะคิดทบทวนและพิจารณาความเห็นของเขาหน่อย แม้ว่าเราไม่ควรหูเบาในเรื่องความรัก แต่ก็ไม่ควรละเลยคำเตือนและคำแนะนำจากคนที่รักเรานะเออ
.
5. ปรึกษาพระเจ้าด้วย
หลายครั้งเรามักคิดว่าพระเจ้าคงไม่สนใจเรื่องรักๆใคร่ๆ หรอก อาจจะคิดว่าพระเจ้าสนใจแต่เรื่องใหญ่ๆ ในชีวิตเท่านั้น แต่การละเลยไม่เข้าหาพระเจ้าในเรื่องที่สำคัญยิ่งยวดนี้ เป็นเรื่องที่ผิดมหันต์ เพราะเราจะพลาดสติปัญญา การทรงนำ และทิศทางจากคนที่รู้จักเราดียิ่งกว่าใครๆ
ยิ่งเราเป็นผู้เชื่อ เรายิ่งต้องฟังการทรงนำของพระวิญญาณ และยอมให้พระองค์ตรัสกับเราให้มากกว่าที่ผ่านๆ มา เพราะการมีความรักและการคบใครสักคนจะกำหนดชีวิตเรามากกว่าเรื่องอื่นด้วยซ้ำไป เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราต้องพึ่งอาศัยฤทธิ์อำนาจ สันติสุขและมุมมองของพระเจ้า การเชิญชวนให้พระเจ้าเข้ามามีส่วนกับความรักของเรา จึงเป็นการทำสิ่งที่มีค่าชั่วชีวิตให้กับตัวเอง
.
เห็นมั้ยจ๊ะ ว่าการค้นหารักแท้ ไม่ใช่แค่รู้สึกว่าเราพร้อมแล้วก็เริ่มได้ มันมีอะไรมากกว่านั้นเยอะ ความรักก็เหมือนกับการเดินทางครั้งสำคัญ ก่อนจะไปเราก็ต้องเตรียมตัว และวางแผนให้ดีๆ สิ่งที่เจ้แนะนำมาทั้งหมดนี้ก็หวังว่าจะช่วยให้น้องๆ เป็นตัวเองที่ดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อจะได้มีความรักที่มีคุณภาพ
.
อ่านแล้วก็ลองใช้เวลาสักนิดไตร่ตรองดูหน่อย ว่าเราเป็นคนแบบไหน เรากำลังอยู่จุดไหนในเส้นทางนี้ แล้วถามตัวเองดูว่า เรายังต้องเตรียมตัวอะไรอีกบ้าง เพื่อพร้อมจะรักใครสักคน?
พบกับ #LoveCoach และ #โค้ชเจเจ้ คอลัมน์ตอบปัญหาความรักในสไตล์คริสเตียนได้ทุกวัน อังคาร สีชมพูววว์ นะจ๊ะ
Related Posts
- Translator:
- Por Paula
- พอลล่า รักเด็กและหน้าก็เด็ก บุคลิกร่าเริงสดใสวัยรุ่นชอบ จึงคร่ำหวอดในงานพันธกิจวัยรุ่น ชอบเดินทางเน้นกินและถ่ายรูป มีความสามารถทั้งการเขียน การแปล เห็นงานชูใจเลยคันไม้คันมืออยากมาร่วมแจมกัน!
- Illustrator:
- Emma C.
- เด็กสาวหน้านิ่งจากเมืองกรุง มุ่งหน้าใช้ชีวิตในเมืองเหนือ พระเจ้านำให้ได้มาทำงานกับชูใจ เธอผู้นี้มีความสามารถหลากหลาย ทั้งวาดภาพ เขียน เรียบเรียง และเอาขามาพาดคอระหว่างนั่งทำงาน เธออินกับการสะกดคำให้ถูกต้องตามราชบันฑิตฯ และมีรสนิยมวินเทจผิดจากความเป็นเจนวาย เป็นหนึ่งใน Avenger ทีมบก.ที่จะมาช่วยชูใจผู้อื่นกัน