สองอาทิตย์ที่ผ่านมา เราตกอยู่ในความรู้สึกหดหู่ และอิจฉามาก ๆ สาเหตุเกิดจากเรื่องทั่วไปเลยค่ะ เกิดอยากได้ อยากไปในสิ่งที่เพื่อนเค้ามีโอกาส ในที่นี้คือ “ได้ไปต่างประเทศค่ะ”
เรื่องรายละเอียดของความอิจฉา ขออนุญาตไม่กล่าวถึง วันนี้เราขอเล่าในส่วนของ ‘ความรู้สึก’ ที่เกิดขึ้นหลังจากที่ได้รับรู้ว่า เพื่อนจะได้ไปต่างประเทศ (ไปในประเทศที่เราอยากไปมากที่สุด ณ ตอนนี้) แต่เราไปไม่ได้ เนื่องจากด้วยความไม่พร้อมประการทั้งปวง ความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้น คือ “หมดแรง” ค่ะ
อย่าขำนะ! เรื่องนี้ สำหรับคนที่ชอบเดินทางอย่างเราแล้ว ซีเรียสมาก และเป็นขั้นรุนแรงมาก!!!
เราตกอยู่ในความหดหู่ (Depressed) ไม่มีแรง รู้สึกท้อแท้ เหนื่อย สิ้นหวัง นอนร้องไห้ รู้สึกถูกทอดทิ้ง รวมถึงตัดพ้อในความไม่พร้อมของตัวเอง ไปจนถึงกระทั่งรู้สึกตัวเองไม่มีคุณค่า… เป็นแบบนี้อยู่ 2 อาทิตย์ โดยที่เราไม่ได้เล่าให้ใครฟัง เพราะเราคิดว่ามันเป็นความรู้สึกของเรา ที่เราจะต้องจัดการมันให้ได้
2 อาทิตย์ที่ผ่านไป จากแค่ความรู้สึก มันเริ่มส่งผลออกมาทางร่างกาย เรานอนไม่หลับ เราอ่อนเพลีย และเราไม่มีแรง ไม่มีไอเดียในการทำงานเลย
เราเริ่มสังเกตตัวเอง และเราเริ่มรู้สึกว่า นี่มันเกินไปแล้ว! เราเริ่มเช็คกับตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้น
ก็แอบยอมรับเบา ๆ ว่ามันคือ “อาการอิจฉา” และความเป็นชะนีในตัว แต่ในขณะเดียวกันเราก็มีความนอยในตัวด้วย คือ เราจะเกลียดเพื่อนได้ยังไง? อันนี้เราพูดตรงๆ เราไม่เกลียดเพื่อน เราไม่โกรธเพื่อน เรารู้สึกว่า ถ้าเค้าพร้อม โอกาสดีๆอย่างนี้ เค้าก็ควรได้ไป และเราเป็นคนเริ่มจุดประกายความคิดนี้ให้เพื่อนเราเองด้วยซ้ำ
โอเค… กลับมาส่วนของเรา… เรารู้สึกว่า ทุกอย่างมันเริ่มจะเลยเถิดขึ้นเรื่อย ๆ และเราต้องการความช่วยเหลือแล้ว ในเวลานั้น จริง ๆ เราแชร์เพื่อนเราไปแล้วส่วนนึง แต่เรารู้สึกว่าเรายังแชร์ได้ไม่ทั้งหมด เราเลยเลือกที่จะโทรหาที่ปรึกษาที่เรารักสองคนเพื่อขอความช่วยเหลือในการจัดการกับตัวเราตอนนี้ ในที่สุดทั้งสองคนก็เลยต้องใช้เวลาคุยกับเราพักนึง แล้วก็อธิษฐาน จากนั้นเราจึงเริ่มเข้าสู่กระบวนการจัดการความรู้สึกตัวเอง
พี่คนนึงพูดกับเราว่า…
“ตอนนี้มันเริ่มไปกันใหญ่แล้ว พี่เข้าใจนะ สำหรับความรู้สึกอิจฉา พี่ก็อยากได้ พี่ก็อยากมีเหมือนกัน แต่ตอนนี้ จากแค่ความอิจฉา เราได้เปิดประตู อนุญาตให้ศัตรูเข้ามาขโมย สันติสุข และความชื่นชมยินดีจากเราไปแล้ว!”
.
“ไม่ได้นะ เราต้องทวงคืนกลับมา มันเป็นสิ่งที่พระเจ้าให้เรามา และไม่มีใครจะเข้ามาขโมย หรือชิงไปได้ นอกจากเราจะอนุญาตให้มันทำ สำหรับความรู้สึกครั้งนี้ เราไม่จำเป็นต้องกดมันลงไป บอกพระเจ้าไปเลยว่าเราอิจฉา แล้วให้พระเจ้าจัดการ ไม่ใช่ว่าการที่เราไม่ได้ไปต่างประเทศครั้งนี้ แล้วพระเจ้าจะไม่ได้เตรียมอะไรไว้ให้สำหรับเราที่นี่ซะหน่อย พระเจ้าคือพระเจ้า พระเจ้าไม่ได้ลิมิตด้วยนักเทศน์ใหญ่ ๆ หรือ สถานที่ต่าง ๆ ต่อให้เป็นเด็กบ้าน ๆ ถ้าพระเจ้าจะทำงาน เธอก็จะเห็นได้…”
.
ตลอดการอธิษฐานกับพี่คนนี้ เราร้องไห้ตลอด เราพยายามกดความรู้สึกต่าง ๆ ลงไปด้วยตัวเอง เพราะคิดว่าเราทำได้ เราจัดการความรู้สึกตัวเองได้ แต่เราไม่ได้รู้เลยว่า เรากำลังเปิดประตูให้ศัตรูเข้ามาขโมยสันติสุข ความหวัง และความชื่นชมยินดีไป! เมื่อเราถูกขโมยสิ่งเหล่านี้ไป ผลกระทบมันเริ่มตั้งแต่ภายในตัวเรา หัวใจของเรา ความรู้สึกของเรา และสมองของเรา สิ่งเหล่านี้สะท้อนออกมาทางร่างกาย แต่เมื่อเรายอมรับว่าเราอ่อนแอและเริ่มที่จะร้องขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า พระเจ้าเป็นพระเจ้าที่น่ารักและทันเวลาเสมอ หลังจากที่พี่เค้าอธิษฐานเผื่อเราเสร็จ เรากลับมาอ่านพระคัมภีร์แล้วเราก็พบกับการชูใจจากพระเจ้า
“เพราะดูเถิด เราอยู่ฝ่ายเจ้า เราจะหันมาหาเจ้า และ
เจ้าจะถูกไถและถูกหว่าน” – (เอเสเคียล 36:9)
สำหรับเราแล้ว เหมือนพระเจ้าบอกกับเราว่า ไม่ว่าจะเป็นศึกที่ยิ่งใหญ่แค่ไหนในชีวิต แต่พระเจ้าให้สัญญากับเราไว้แล้ว และพระองค์สัตย์ซื่อมากพอในทุกคำสัญญาที่พระองค์ให้กับเรา
เมื่อความอิจฉาขโมยสันติสุขของเราไปแบบนั้น ในวันนั้นเราตัดสินใจ อธิษฐานทวงคืนทั้งสันติสุขและความชื่นชมยินดีของเรากลับมา เรานอนร้องไห้เมื่อนึกถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า พระเจ้าของเราไม่ใช่ Pocket-size God (พระเจ้าแบบพกพา) แต่พระองค์เป็นพระเยโฮวาห์ กษัตริย์เหนือกษัตริย์ พระองค์เป็นผู้พิชิต และชนะทุกอย่าง และพระองค์อยู่ข้างเรา แต่ที่ผ่านมาเราเองกลับไม่เห็นสิ่งนี้ เรารู้สึกว่า เราทำบาปต่อความรัก ความสัตย์ซื่อ และฤทธานุภาพ ของพระองค์
หลังจากคืนนั้น พอเรายอมพระเจ้า บอกพระเจ้า พระองค์ก็ทรงเยียวยาเรา สันติสุข และความชื่นชมยินดีของเราเริ่มกลับมา เราเริ่มมีความสุข และมีความหวัง และมีกำลังใหม่อีกครั้ง ด้วยความช่วยเหลือจากพระองค์
เราตัดสินใจเขียนเรื่องนี้ เพราะเราต้องการจะบอกกับเพื่อน ๆ ทุกคนว่า
.
- อย่าเปิดประตูให้กับมาร
อย่าปล่อยให้มันใช้ช่องโหว่ ไม่ว่าจะเล็กแค่ไหน ในการทำลายสันติสุข ความรัก ความหวัง และความชื่นชมยินดีที่พระเจ้าให้เราไว้แล้วได้ มันไม่สามารถชิงไปได้ ถ้าเราไม่อนุญาต จำไว้เสมอว่า “นี่คือสิ่งที่พระเจ้าให้เรามา และเป็นกรรมสิทธิ์ของเรา และไม่มีใครชิงไปได้ ถ้าใครได้สูญเสียสิ่งดีเหล่านี้ไป อธิษฐานและทวงคืนกลับมาค่ะ! (Claim back all your love, hope, joy and peace from the foe!)”
- อย่าคิดว่าเราเข้มแข็ง และจัดการทุกความรู้สึกได้
บางครั้งบอกคนอื่นก็ได้ ไม่ต้องเก็บเอาไว้ ไม่จำเป็นต้องรู้สึกอายกับความอ่อนแอของเรา เพื่อนคริสเตียนดี ๆ จะช่วยพยุงเราให้ลุกขึ้น และเตือนสติให้เรากลับมาหาพระเจ้าได้เสมอ และที่สำคัญ ให้เราบอกพระเจ้าทุกอย่าง ทุกความอ่อนแอ บอกเพื่อให้พระเจ้าช่วยจัดการ พระเจ้ายิ่งใหญ่เกินกว่าที่เราคิด อย่าจำกัดพระองค์ด้วยสติปัญญาและความสามารถของคุณ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ ขอความรักของพระเจ้าเทลงมายังทุกคน ขออย่าให้เราได้หันหนีไปจากความสัตย์ซื่อของพระองค์นะคะ
พระเจ้าอวยพรค่ะ
พบกับ #Featured คอลัมน์ทันกระแสสังคม หยิบจับเรื่องทั่วไปมาพูดใหม่ในมุมมองคริสเตียน ทุกวันพฤหัสสีส้มส้มน้าาาาา!!!
Related Posts
- Author:
- ล.ย. : Blogger สาวน้อยในกทม. หัวใจเหนือ ที่พี่ชูใจพบเจอโดยบังเอิญ มีผลงานโดดเด่นเตะตาจนต้องจีบมาชูใจกันนนนนนน
- Illustrator:
- Jostar
- พี่ชายผู้อบอุ่นละมุนละไม เวลาใส่หมวกกันน๊อคแล้วนั่ลล๊าคดั่ง Pororo อดีตมาสเซอร์วิชาสอนศิลปะ ปัจจุบันถวายตัวรับใช้ที่โบสถ์สไตล์ลอฟๆ ชอบขีดๆ เขียนๆ วาดๆ
- Editor:
- Perapat T.
- Blogger ผู้มากความสามารถในงานเขียน เป็นคริสเตียนที่เรียนสังคมวิทยา ฯ มาอย่างโชกโชน สเตตัสปัจจุบันเป็นนักเขียนอิสระ และ รับใช้พระเจ้าไปด้วย :)