Q : สวัสดีครับพี่เจเจ้ ผมอยากปรึกษาและขอแนวทางวิธีการประคองรักในวัยรุ่นวัยเรียน…
ผมกับแฟนเราเชื่อพระเจ้ามาสองปีกว่าๆ เราอยู่โบสถ์เดียวกัน ปัจจุบันเพิ่งเข้าเรียนมหาลัยปี 1 ที่เดียวกัน เราเจอกันทุกวันครับ ไปรับไปส่ง และสำหรับผมกับแฟน เราวางแผนว่า จะเรียนสี่ปี ทำงานอีกสองปีค่อยแต่งงาน และจะรับใช้พระเจ้าด้วยกันครับ ผมอยากรู้วา จะทำยังไงให้เราไปต่อกันได้จนถึงวันแต่งงานครับ?
_______________________
เจเจ้ : สวัสดีจร้าาา ยินดีต้อนรับเข้าสู่รั้วมหาลัย เป็นเฟรชแมนเต็มตัวคงตื่นตาตื่นใจ ตื่นเต้น ตื่นเช้า 555 เท่าที่ดูคือผมกับแฟนวัยเดียวกันเลยเนอะเลยพอจะวางแผนอะไรไปพร้อม ๆ กันได้แบบนี้
คำถามของเราจัดว่าเด็ดนะ ที่อยากจะประคองให้รักเราอยู่ชั่วฟ้าดินสลาย เพราะอย่าว่าแต่เรื่องความรักเลย นักฟุตบอลทีมชาติยังเคยพูดไว้ว่า “การเป็นแชมป์ไม่ยาก แต่การรักษาแชมป์สิยากกกกกส์กว่า” คือเติม S เข้าไปเพราะมันยากอะไรเบอร์นั้น 555 ดังนั้น การประคองรักในวัยเรียน ตู๊ววฮู๊วว ก็ย๊ากสสส เหมือนกัน คือไม่ใช่ว่าแค่สุดท้ายเราคบจนถึงแต่งงานกันแล้ว “เฮ้ ชีวิตคู่มาถึงจุดสำเร็จแล้ว!” และมีคำว่า THE END ขึ้นเหมือนตอนจบของหนัง ป่าวเล้ยยยยย มันแค่เริ่มต้น!!!
การที่เราอยู่โบสถ์เดียวกันมหา’ลัยเดียวกัน เรียนจบปีเดียวกัน อิ่ส เวรี่ พะเลออเฟค!!! เราสองคนคงรู้จักกันดีแน่นอน แต่ถ้าอยากให้ความรักคงอยู่ไว้เป็นพิพิธภัณฑ์ให้ลูกหลานดู ก็ขึ้นอยู่กับ 1) ตัวผมเอง 2) สาวเจ้า 3) พระเจ้า แน่นอนว่าหัวใจของตัวผมและคุณแฟนต้องไม่เปลี่ยนไป! (ทำเสียงสูงๆๆ) ถ้าไม่มีใครเปลี่ยนใจก็ไม่มีใครไปไหนแน่นอนอะ นอกเสียจากว่า พระเจ้าเห็นว่า เราไม่เหม๊าะไม่เหมาะกันจริงๆ อะไรเบอร์นั้น ก็คงต้องเข้าใจ เพราะเจเจ้เชื่อนะว่าพระเจ้าไม่จับใครยัดใส่มือเราหรอก พระองค์ไม่บังคับเรานี่นา
หรือเราลองมา SWOT ความรักของเราดูเล่นๆ ก็ได้นะ (อ๊ะ เจเจ้ไม่ได้มาเล่นๆ นะคร่ะ ดูมีหลักการมะ) น่าจะทำให้เห็นภาพง่ายขึ้น อ๊ะ ลองมาเติมคำในช่องว่างดู…
เมื่อเรากางแผนออกมาดู เจเจ้ว่าพ้อยท์สำคัญมันอยู่ที่จุดอ่อน หรืออะไรที่เราไม่ชอบ มันอยู่ที่ เราทั้งสองยอมรับและปรับตัวเข้าหากันได้มากแค่ไหน
ถ้าหนึ่งคนปรับจุดอ่อนนั้นได้และยินดีจะทำแน่นอนว่าก็จะช่วยและพัฒนาเราทั้งคู่
แต่ถ้าปรับไม่ได้ เปลี่ยนไม่ได้เพราะมันเป็นนิสัยแท้ๆ ของเค้าแล้ว… ถามตัวเองคำเดียวรัวๆ จ๊ะ “รับได้มั้ย?”
ถ้ารับได้ ก็ยาววววไปจ้า คุณได้ไปต่อ!!!
พูดเลยว่า คนส่วนใหญ่ที่ไม่อยากลงเรือลำเดียวกันไปต่อ มันไม่ใช่เพราะคำว่า “ไปด้วยกันไม่ได้” หรอก แต่ที่จริงแล้วคือ “ไม่อยากไปด้วยกันแล้ว” ต่างหาก ทั้งนี้ทั้งนั้นคือ ความคาดหวังที่คิดว่าอีกฝ่ายจะ ‘เปลี่ยน’ หรือจะ ‘ไม่เปลี่ยน’ นั่นแหละ
ดังนัน วันนี้ในช่วงที่ยังคบกันอยู่จนก่อนจะถึงวันแต่งงาน เราอาจจะต้องตัดสินใจ ‘ทุกวัน’ ว่าจะรักคนนี้ตลอดไปมั้ย ถามตัวเองและอธิษฐาน
เพราะ “รักนั้นคือการตัดสินใจ” ตัดสินใจแล้ว ว่าจะไม่เลิก รักเลยตลอดไป
เมื่อตัดสินใจและแต่งงานแล้ว ก็ไม่ต้องตัดสินใจหลังจากแต่งงานอีกแล้วนะตัวเอง!!! เพราะตัดคำว่าเลิกออกไปแล้วไงล่ะ… ซึ้งจังงงง
เจเจ้รู้นะว่าตอนนี้ ผมและคุณแฟนเพิ่งจะขึ้นปีหนึ่งอาจยังไม่ได้คิดถึงเรื่องแต่งงานจริงๆ จังๆ อะไรขนาดน้าน แต่เจเจ้ขอบอกไว้ตรงนี้เลยค่ะว่า “การแต่งงาน” คือสิ่งที่ต้องเริ่มคิดทันทีเมื่อเราตัดสินใจคบกับใครสักคน ก็ถ้าไม่ได้คิดถึงละจะคบกันไปเพื่ออะไรเน้อวววว
สู้ๆนะเจเจ้เอาใจช่วย
ด้วยรักและชูใจ
เจเจ้
คอลัมน์ Love Coach บทความถามตอบปัญหาหัวใจ ปรึกษาปัญหาความรักแบบพี่อ้อยพี่ฉอดเวอร์ชั่นคริสเตียน และบทความแปลในประเด็นของความรัก ติดตามอ่านได้ทุกวันอังคารสีชมพูววววว ที่เว็บชูใจนะจ๊ะ
Related Posts
- Author:
- โค้ชเจเจ้ : ผู้คร่ำหวอดในวงการให้คำปรึกษาน้อง ๆ วัยวุ่นเรื่องหัวใจ มี passion และภาระใจในการรับใช้พระเจ้าด้านให้คำปรึกษากับวัยรุ่น เจเจ้บอกว่า "งดฝากร้าน แต่ฝากปัญหาหัวใจไว้ให้ปรึกษาได้จ้าาาา"
- Illustrator:
- Wilah
- เด็กสาวขี้อาย ชอบนอน รักแมว และมีภารกิจแจกความแฮปปี้ผ่านเพจ HappyHoly ของเธอ ลายเส้นภาพการ์ตูนที่สวยสะดุดตา ทำให้ต้องจีบมาร่วมชูใจกันนนน ขอแค่เลี้ยงชาเขียวก็พอ อะไรจะใจดีขนาดนี้ๆๆๆ
- Editor:
- วอร์ วรรัก
- Editor สาวเรียบเรียงหลายบทความในชูใจ เธอผู้มีภาษาละมุนละไม กระดุ้มกระดิ้ม และยังมุ่งมั่นรับใช้พระเจ้าและมีภาระใจในการทำงานด้านให้คำปรึกษากับวัยรุ่น เลยต้องดั้นด้นไปอยู่เมืองสิงโตพ่นน้ำเพื่อเรียนต่อด้านนี้!