EP. 2

5 วิธีรักษาใจให้สตรองหลังอกหัก


บทความต้นฉบับภาษาอังกฤษ:  REBEKAH NELSON (www.relevantmagazine.com)


ความสัมพันธ์เป็นเรื่องปวดหัว เพราะมันนำมาทั้งความชูใจและความห่วยแตก ทั้งน้ำตาแห่งความสุขและความเจ็บปวด ทั้งความชัดเจนและความสับสน แล้วก็อะไรที่ต่างกันแบบสุดขั้วแบบนี้อีกมากมาย 

แต่ละวันของฉันผ่านไปด้วยความสับสน การอธิษฐาน และที่ขาดไม่ได้คือ เพลงของเทเลอร์ สวิฟท์ ซึ่งเปรียบเสมือนยารักษาอาการอกหักเลยทีเดียว

แต่ท่ามกลางสิ่งเหล่านั้น พระเจ้าทรงเตือนฉันถึงบทเรียนสำคัญที่ฉันยึดถือมาตลอด ถึงจะไม่ค่อยลึกซึ้งเท่าไหร่นัก  แต่มันคือความจริงที่ช่วยให้ฉันเพ่งความสนใจไปถูกที่ แม้ว่าจะต้องผ่านทางเดินชีวิตที่ขรุขระอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้บ้างก็ตาม

 

Break up

 เครดิตภาพ โดย Ryan McGuire

1. เชื่อฟัง และฝากที่เหลือไว้กับพระเจ้า

ฟังดูง่ายๆ พื้นๆใช่ไหม? สิ่งที่เราคริสเตียนทำได้ก็คือ ทำตามที่พระเจ้าทรงเรียกให้เราทำ และพระองค์จะทรงดูแลส่วนที่เหลือเอง แต่ปัญหามีอยู่อย่างเดียว ก็คือ บางครั้งการเชื่อฟังนี่มันยากโคตรๆ เลย! พระเจ้าทำให้ฉันเห็นชัดเจนแบบสุดๆ เลยว่าความสัมพันธ์ครั้งที่ผ่านมานี้ยังไม่ถูกต้อง ถึงฉันจะรู้ว่าการเชื่อฟังคือการยอมจำนน แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้มันง่ายขึ้นเลย มันคือการที่เราต้องยอมเลิกกับคนที่ดูเหมือนใช่ ดูมีอนาคต ดูยอดเยี่ยม และเชื่อว่าพระเจ้ารู้ดีที่สุดและมีสิ่งที่ดีกว่าในพระทัยของพระองค์ ถึงแม้ฉันจะยังไม่เห็นอย่างนั้นก็ตาม…

พระเจ้าทรงใช้การทดลองเพื่อหล่อหลอมและขัดเกลาให้เราเป็นเหมือนพระองค์มากขึ้น เพื่อให้เราได้ใกล้ชิดพระองค์

ในขณะที่การเชื่อฟังดูดีมีทุกอย่างยกเว้นความง่าย แต่พระเจ้าก็ทรงต้องการให้ลูกของพระองค์ได้รับผลดีจากการเชื่อฟัง เพราะพระองค์ทรงเห็นภาพใหญ่และอยากให้เราเชื่อวางใจในพระองค์ ไม่พึ่งพาทัศนคติ วิธีการ หรือความเข้าใจที่มีขีดจำกัดของเราเอง เพราะว่า เอาตรงๆ เลยนะ เรามองอะไรไม่เห็นหรอกเวลาที่เรานั่งยองๆ อยู่  ในทางกลับกัน พระเจ้าทรงเห็นอนาคตของเรา ทรงมีแผนการและให้เราได้เริ่มต้นใหม่อย่างสวยงามจากความฝันที่แตกสลายในอดีต  ฉันคงจะโง่มากถ้าจะเลือกเชื่อการตัดสินใจของตัวเองมากกว่าพระเจ้าผู้ทรงรักและทรงฤทธานุภาพสูงสุด

.

2. อย่าให้ความปวดใจเสียไปเปล่าๆ

ไม่ว่าการทดลองนั้นจะเกิดจากการตัดสินใจแย่ๆ ของเรา หรือพระเจ้าทรงอนุญาตให้เกิดขึ้น มันก็เกิดขึ้นเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง บ่อยครั้งที่ฉันอยากจะเร่งเวลาให้พ้นช่วงยากลำบากไปให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้ถึงเวลาที่มีความสุขมากกว่านี้ แต่นั่นทำให้เราพลาดอะไรไปหรือเปล่า?

พระเจ้าประสงค์ที่จะใช้การทดลองเพื่อหล่อหลอมและขัดเกลาเรา เพื่อให้เราเหมือนพระองค์มากขึ้น ทำให้เราได้ใกล้ชิดพระองค์ เพื่อถวายเกียรติแด่พระองค์ผ่านทางชีวิตของเรา อันที่จริง ฉันเป็นคนเห็นแก่ตัวและเย่อหยิ่งตัวแม่  (แต่ขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์กำลังขัดเกลาชีวิตฉันอยู่!) แต่เมื่อมองย้อนกลับไป ฉันเห็นอย่างชัดเจนเลยว่าพระเจ้าได้ทรงใช้การทดสอบครั้งแล้วครั้งเล่า โดยเฉพาะเรื่องความรัก เพื่อเปลี่ยนแปลงและอวยพรฉันอย่างน่าอัศจรรย์เมื่อฉันเชื่อวางใจในพระองค์

พระองค์ทรงควบคุมทุกอย่าง และมีแต่เพียงพระองค์เท่านั้นที่ทำให้ชีวิตที่ยุ่งเหยิงของเราเปลี่ยนไปเป็นอะไรที่สวยงามได้ พระองค์ประสงค์ที่จะใช้การทดสอบเพื่อช่วยให้เราเติบโต ความเสียใจของคุณไม่ได้สูญเปล่านะ

 

God is Good for you

 เครดิตภาพ โดย Ryan McGuire

.

3. จำไว้ว่าพระเจ้าไม่ได้ติดค้างอะไรเรา

เราใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่โจมตีเราด้วยประโยคที่ว่า เราคู่ควรกับอะไรสักอย่างอยู่ตลอดเวลา บ้านใหม่ งานดีๆ การแต่งงานกับคนที่รัก ความสุข สิ่งเหล่านี้คือสิ่งดีที่ใครๆ ก็อยากได้ อยู่แล้ว แต่พระเจ้าทรงอวยพรเราด้วยสิ่งเหล่านั้นก็ด้วยพระคุณและความเมตตาของพระองค์ แต่ไม่ใช่เพราะเรา ‘ทำ’ อะไรที่สมควรจะได้รับพรเหล่านี้ การยึดถือสิทธิ์ที่จะได้รับและจดจ้องอยู่แต่กับสิ่งที่เราคิดว่าเรา “สมควร” ได้รับนั้นช่างเป็นความคิดที่ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย เมื่อเทียบกับการที่พระคริสต์ทรงสละพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อเรา เราถูกสร้างมาเพื่อสรรเสริญพระเจ้าด้วยชีวิตของเรา บ่อยครั้งที่เราหลงลืมและมัวแต่เปรียบเทียบชีวิตตัวเองกับคนอื่น อยากได้สิ่งที่คนอื่นมี จนลืมไปว่าพระพรของพระเจ้าสำหรับแต่ละคนนั้นก็ไม่เหมือนกัน ตามแต่จุดประสงค์ที่พระองค์มีไว้ให้กับเราที่ไม่เหมือนกัน และเป็นพระพรที่ไม่เหมือนใครเช่นนี้ตลอดการดำเนินชีวิตในโลก

ถ้าเราใช้ชีวิตในการไล่ตามแผนการของคนอื่น เราจะไม่สามารถเติมเต็มแผนการที่พระเจ้ามีต่อเราได้ และเราจะผิดหวังที่ล้มเหลวกับการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ได้มีไว้เพื่อเราเลยด้วยซ้ำ

 .

4. มองบทเรียนครั้งนี้เป็นของขวัญ

เราได้ยินมาตลอดว่า
การแต่งงานคือของขวัญ
การเป็นโสดคือของขวัญ
เด็กคือของขวัญ
แต่เราเชื่ออย่างนั้นจริงๆ หรือ?

ในแต่ละขั้นของชีวิตจะมาพร้อมกับพระพรและปัญหาเคียงคู่กันมาเสมอ แต่ อ.เปาโลได้แสดงให้เราเห็นแล้วว่า โดยพระกำลังของพระเจ้าแล้ว เราสามารถหาความพอใจได้ในทุกสถานการณ์ ถึงจะพูดง่ายกว่าทำ แต่ขอให้พระเจ้าช่วยคุณให้เรียนรู้ความพึงพอใจในชีวิตเช่นนั้น

หลายปีก่อน ฉันบอกพระเจ้าว่าฉันอยากเป็นผู้หญิงประเภทที่พร้อมต่อทุกการผจญภัยที่พระองค์จะนำให้ฉันได้พบเจอ แล้วพระองค์ก็ไม่ทำให้ฉันผิดหวังเลยจริงๆ ถึงแม้บางครั้ง การผจญภัยเริ่มต้นอย่างน่าตกใจกลัว แต่การก้าวออกไปด้วยความเชื่อนับเป็นช่วงชีวิตที่ดีมากช่วงหนึ่งในชีวิตเลย พระองค์อนุญาตให้ฉันได้เที่ยวรอบโลก ได้ใช้ชีวิตและทำงานต่างประเทศ ได้เรียนต่อ ได้มีโอกาสได้งานที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อ และได้มีเพื่อนแท้ที่เป็นรูมเมทกันที่คอยช่วยเหลือและเติบโตไปด้วยกัน ถึงฉันจะยังอยากให้พระเจ้าตอบคำอธิษฐานเรื่องคู่พระพรอยู่ แต่ถ้าพระเจ้าตอบคำอธิษฐานให้ฉันได้แต่งงานมีครอบครัวในวัยยี่สิบแล้วละก็ ฉันคงจะพลาดประสบการณ์และการผจญภัยอื่นๆ อีกมากมายเป็นแน่

.

5. อย่าพึ่งหยุด

ขณะที่สิ่งนี้เป็นเครื่องย้ำเตือนฉันในเรื่องความรัก แต่มันเป็นความจริงในทุกด้านของชีวิตเรา เราใช้ชีวิตในโลกที่เร่งด่วน ที่คอยบอกเราอยู่เสมอว่าเราสามารถมีสิ่งที่เราต้องการ ในเวลาที่เราต้องการได้ แต่โลกนี้ไม่ได้บอกเราถึงสิ่งที่เราอาจพลาดไป หรือผลลัพธ์ที่รอคอยอยู่ข้างหน้า ถ้าเราไม่สามารถรอคอยเวลาของพระเจ้าได้

เราคงเคยได้ยินกันมาว่า “สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตนั้นควรค่าแก่การรอคอยเสมอ” แต่ในช่วงแห่งการรอคอยนั้น เราจำเป็นต้องมีระเบียบวินัยและการตัดสินใจที่เด็ดขาดด้วย ให้เราเปิดใจออกต่อพระเจ้าเพื่อเปลี่ยนแปลงมุมมองหรือความปรารถนาในใจเรา

แต่อย่าพึ่งหยุดอยู่กับคนบางคนเพียงเพราะคุณรู้สึกเหนื่อยล้า หรือคิดว่า “สิ่งที่ดีรองลงมา” ก็ดีพอแล้ว ฉันเคยเห็นความปวดใจที่เกิดขึ้นจากการดึงดันทำตามใจตัวเองแทนที่จะรอพระเจ้า บอกได้เลยว่าคำตอบของพระองค์ควรค่าต่อการรอคอยเสมอ

แต่ในระหว่างนั้น ให้เราเติบโตอยู่เสมอ ตอบรับการผจญภัยจากพระเจ้าอยู่เสมอ พยามอย่างหนักเพื่อจะได้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณสามารถเป็นได้ไม่ว่าพระองค์จะนำคุณไปอยู่ในสถานการณ์แบบใด

“เพราะในท้ายที่สุด มันไม่ใช่เรื่องของการไปถึงจุดหมายสูงสุดในชีวิต แต่มันคือการถวายเกียรติแด่พระเจ้าในเส้นทางแห่งชีวิตของเราต่างหาก”

 


คอลัมน์ Love Coach บทความถามตอบปัญหาหัวใจ ปรึกษาปัญหาความรักแบบพี่อ้อยพี่ฉอดเวอร์ชั่นคริสเตียน และบทความแปลในประเด็นของความรัก ติดตามอ่านได้ทุกวันอังคารสีชมพูววววว ที่เว็บชูใจนะจ๊ะ


Previous Next

  • Translator:
  • Aui Wijitra
  • ผู้แปลอาสาฯ จากเมืองเจียงฮาย ผู้เชี่ยวชาญร้านบุฟเฟ่ต์ทั่วเมืองเชียงรายและปริมณฑล และถึงแม้งานประจำจะล้นมือแค่ไหน แต่ก็ไม่อยากวางมือจากการเป็นผู้แปลให้ชูใจ โอ้ย ขอมงให้นางด้วยค่ะ!
  • Illustrator:
  • Perapat T.
  • Blogger ผู้มากความสามารถในงานเขียน เป็นคริสเตียนที่เรียนสังคมวิทยา ฯ มาอย่างโชกโชน สเตตัสปัจจุบันเป็นนักเขียนอิสระ และ รับใช้พระเจ้าไปด้วย :)
  • Editor:
  • Jick
  • บก.ชูใจ ผู้ใฝ่ฝันจะชูใจน้องๆ จากความพลาดของตัวเอง