บทความต้นฉบับภาษาอังกฤษ โดย JADE MAZARIN (www.relevantmagazine.com)
ก็อย่างที่ใครหลายคนคงเคยมีประสบการณ์ในการมีแฟน คงรู้ดีว่าความสัมพันธ์ที่โรแมนติกนั้นอาจนำมาซึ่งความชูใจที่แสนสุข หรือความปวดใจที่แสนปวดก็เป็นได้ ความสัมพันธ์สามารถทำให้เราคิดหนัก กลัดกลุ้ม แต่ก็ยังเป็นพรอย่างมากมายต่อชีวิตเราอีกด้วย!
พวกเราส่วนใหญ่ต่างก็หวังว่าจะลงเอยด้วยการครองคู่อย่างมีความสุขด้วยกันทั้งนั้น เราคริสเตียนก็ย่อมอยากมีความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนและเต็มไปด้วยความชูใจ และพระเจ้าก็ทรงปรารถนาให้เราได้รับสิ่งนั้นเช่นกัน ดังนั้น เราควรจะรู้ว่าความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนและเสริมสร้าง นั้นเป็นอย่างไร เพื่อเราจะประเมินความสัมพันธ์ที่มีอยู่ในขณะนี้ หรือรู้ว่าควรจะมองหาความสัมพันธ์แบบไหนในอนาคต
ต่อไปนี้คือกุญแจสำคัญ 8 ประการของความรักที่เสริมสร้างซึ่งจะเป็นรากฐานของความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน เติบโตไปด้วยกัน และมีความชูใจตามน้ำพระทัยของพระเจ้า
ภาพโดย Danist Soh
1. ความสัมพันธ์นั้นให้ความรู้สึกมั่นคง
ความสัมพันธ์ที่ใช่มักจะให้ความรู้สึกเสมอต้นเสมอปลาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีช่วงเวลายาก ๆ เลย แต่คุณไม่ควรรู้สึกเหมือนกำลังนั่งรถไฟเหาะอยู่ แบบที่อยู่ดี ๆ ขีดความสุขก็พุ่งปรี๊ด แล้วต่อมาก็จมดิ่งลงเหว บางคนทึกทักเอาว่าความสัมพันธ์ที่ดี คือ การมีช่วงเวลาดี ๆ แต่
“บางครั้งความสัมพันธ์ที่ดีก็ยังมีช่วงเวลาแย่ ๆ แม้แต่ความสัมพันธ์ที่ไม่ดีก็อาจมีช่วงเวลาแห่งความสุขได้เช่นกัน”
สิ่งสำคัญคือการพิจารณาว่า ช่วงเวลาเลวร้ายนั้นเกิดขึ้นบ่อยแค่ไหน? และเป็นเรื่องหนักหนาแค่ไหน?” นอกจากนี้ ความคิดที่คุณมีต่อความสัมพันธ์ของคุณก็ควรจะคงเส้นคงวาด้วย คงแย่แน่ถ้าเกิดว่าคุณรู้สึกรักแฟนคุณมากเหลือเกินในวันจันทร์ แต่พอมาวันพุธกลับรู้สึกว่าอยากจะเลิกกันซะแล้ว
2. คุณชอบตัวคุณเองในความสัมพันธ์นั้น
ไม่ว่าคุณจะชอบคำนี้หรือไม่ แต่การคบหาดูใจกันนั้นจะเปลี่ยนคุณ ยิ่งคุณใช้เวลากับคน ๆ หนึ่งมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งเลียนแบบนิสัยใจคอ วิธีการพูดของเขามากขึ้นเท่านั้น บุคลิกของคู่คุณจะดึงเอาเหลี่ยมมุมต่าง ๆ ของคุณออกมา ถ้าคุณไม่ชอบตัวตนของคุณในเวลาที่อยู่กับคนนั้น นั่นก็เป็นสัญญาณเตือนที่ควรใส่ใจ ในทางกลับกัน บุคลิกบางอย่างจะเติมในส่วนที่คุณขาดและช่วยให้คุณเป็นคนที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นอะไรที่ยากและท้าทายแต่เป็นไปในทางที่ดี เหมือนว่าคุณค่อย ๆ โตขึ้น ๆ เป็นคนที่คุณอยากจะเป็น
นอกจากนี้ ในความสัมพันธ์ที่เสริมสร้าง คุณจะรู้สึกได้รับความรักและการยอมรับไปด้วย ในขณะที่เราควรค้นหาคุณค่าของตัวเองในสายพระเนตรของพระเจ้า พระองค์ก็ทรงอยากให้เรารู้สึกดีต่อตัวเองเวลาที่เราได้รับการยอมรับและเอาใจใส่ด้วย
3. คุณเข้ากันได้ในเรื่องสำคัญๆ
ความแตกต่างเล็กน้อยในเรื่องนิสัย ความชอบ และบุคลิกยังไม่ใช่เรื่องใหญ่นักหรอก อย่างไรก็ตาม มีผลวิจัยออกมาว่าคู่ครองควรจะต้องมีบางเรื่องที่เชื่อมเข้าหากันได้เพื่อความสัมพันธ์ที่สมบูรณ์และยั่งยืน คุณและคู่ของคุณควรจะเห็นพ้องต้องกันและสามารถหารือกันได้ในเรื่องใหญ่ ๆ ที่มีผลต่อชีวิตประจำวัน มุมมองต่อโลก รวมทั้งความเชื่อ ความสัมพันธ์ในครอบครัว และการสื่อสารด้วย
คนส่วนใหญ่เริ่มต้นหรือยังคงอยู่ในความสัมพันธ์เพียงเพราะตกหลุมรักในเรื่องผิวเผิน เช่น ความรู้สึกหลงใหลและสนุกสนานในเวลาที่อยู่ด้วยกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีขีดจำกัด แต่ความสัมพันธ์ที่ดีจะมีความลึกซึ้งมากกว่านั้น เป็นสถานะที่คนทั้งคู่ได้เติบโตด้านความเชื่อไปด้วยกันและสื่อสารกันอย่างมีความหมาย
เครดิตภาพ โดย Kristina Litvjak
4. คุณรู้สึกติดสนิทกับพระเจ้า
ตอนที่อาดัมและเอวาทำบาป พวกเขาเลือกที่จะซ่อนตัวจากพระเจ้า พวกเราเองก็เหมือนกันที่มักจะซ่อนตัวจากพระเจ้าและคนอื่นเมื่อเรารู้สึกละอาย หรือรู้ตัวว่ากำลังทำสิ่งที่ผิด (แม้จะไม่อยากยอมรับก็ตาม) คุณรู้สึกยังไงเวลาอธิษฐานเผื่อความสัมพันธ์ของคุณ? ความสัมพันธ์ที่ไม่ยั่งยืนไม่เพียงแค่ทำให้คุณรู้สึกผิดเท่านั้น ที่ร้ายกว่านั้นคือมันจะดึงคุณออกห่างจากพระเจ้าและทำให้คุณเลิกสนใจพระองค์ไปเลยด้วย
ตรงกันข้าม ความสัมพันธ์ที่ใช่นั้นจะนำคุณเข้าใกล้พระเจ้ามากขึ้น สำนึกในพระคุณพระเจ้ามากขึ้น และกระหายหาพระองค์มากขึ้นด้วย
5. มีความสัมพันธ์แบบ ‘ซึ่งกันและกัน’
เป็นเรื่องง่ายที่จะคอยช่วยเหลือคนอื่น หรือคอยพึ่งพาใครสักคนที่เป็นเสมือนที่พึ่งทั้งหมดของเรา แต่นั่นไม่ใช่เรื่องดี พฤติกรรมเหล่านั้นขัดขวางเราไม่ให้เติบโตหรือเคารพตัวเอง และไม่ใช่รากฐานที่มั่นคงของความสัมพันธ์ในอนาคต
ความสัมพันธ์ที่ราบรื่นมีทั้งการ “ให้และรับ” ซึ่งคนสองคนช่วยเหลือกันอย่างเท่าเทียม อาจมีบางเวลาที่คนใดคนหนึ่ง อยู่ในภาวะลำบาก แต่โดยรวมแล้วต่างคนต่างเป็นที่พึ่งของกัน ไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบคนหนึ่งเป็นคนดูแลอยู่ฝ่ายเดียว ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นคนพึ่งพาโดยสิ้นเชิง
6. คุณรู้สึกปลอดภัย
แน่นอนว่าความปลอดภัยทางกายเป็นเรื่องสำคัญในความสัมพันธ์ แต่คุณก็ควรจะรู้สึกปลอดภัยทางอารมณ์ด้วย คุณควรจะรู้สึกสบายใจเมื่ออยู่กับคนนั้น รู้สึกเป็นตัวเอง สามารถที่จะพูดถึงเรื่องที่เสียใจได้โดยไม่ต้องกลัวว่าอีกฝ่ายจะอาละวาดใส่คุณและเดินปึงปังจากไป
ความสัมพันธ์จะราบรื่นก็ต่อเมื่อคนสองคนสามารถพูดคุยกันได้แบบเปิดใจและสามารถเปิดเผยความเจ็บปวดหรือความกลัวแก่กัน ทั้งคู่ต้องรู้สึกว่าต่างฝ่ายต่างสนับสนุนกันไม่ใช่คอยตัดสินกัน
เครดิตภาพ โดย Dave Meier
7. พระเจ้าเป็นที่หนึ่งสำหรับคุณทั้งสอง
พระเจ้าทรงสร้างเราเพื่อพระองค์ก่อน เราจึงไม่สามารถหาความพึงพอใจได้ทั้งหมดจากมนุษย์อีกคนที่ไม่สมบูรณ์แบบเหมือนกันกับเรา ความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดคือการที่ทั้งสองฝ่ายรู้สึกดีต่อกัน แต่ยังตระหนักอยู่เสมอว่า ความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพระเจ้าสำคัญกว่าอย่างเทียบไม่ได้ เมื่อเราพึ่งพาพระเจ้า เราจะได้รับพระพรเพื่อจะเติบโตและส่งต่อให้กับผู้อื่น
8. การตอบรับของเพื่อนและครอบครัว
พูดกันตามตรงนะ บางครั้งเราก็ไม่เห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเราเวลาที่มีเรื่องของอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง หรือบางครั้งเราเลือกที่จะไม่มองด้วยซ้ำ เวลานี้แหละที่เพื่อนและครอบครัวจะเข้ามาช่วยได้ คนเหล่านี้ที่รักเรารู้จักเราดีจะมองออกว่าความสัมพันธ์นี้ดีต่อเราหรือไม่ ถึงแม้ว่าพวกเขามักจะไม่เห็นด้วย แต่ก็ควรเปิดใจรับฟังความเห็นที่พวกเขามี พวกเขาเป็นห่วงก็เพราะว่ารักคุณ ฉะนั้นอย่าลังเลที่จะถามและใส่ใจคำแนะนำเหล่านั้น
เราควรระลึกถึงความรักที่พระเจ้ามีต่อเราเสมอ เป็นความรักที่พิเศษ เป็นส่วนผสมระหว่างความสบายใจอย่างเพื่อนกับความรักลึกซึ้งทางกาย (ลองอ่านบทเพลงซาโลมอนดูนะ) เป็นสิ่งสะท้อนถึงความรักที่พระเจ้ามีต่อเรา นำเราใกล้พระองค์ และพัฒนาเรายิ่งขึ้นไปอีก
บ่อยครั้งที่เราถูกล่อล่วงให้พอใจกับอะไรที่น้อยกว่าสิ่งที่พระเจ้าปรารถนาจะให้ ในขณะที่ใคร่ครวญสัญญาณ 8 ข้อข้างต้นนี้ขอให้เราอธิษฐานตามไปด้วย ความคิดของเรามีขีดจำกัดแต่พระเจ้าจะทรงเปิดเผยความจริง และหากเราให้พระองค์เป็นผู้นำ พระองค์จะนำเราไปในทางที่ถูก พระองค์ทรงรักเรามากพอและทรงมีอำนาจมากพอที่จะมอบความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดให้กับความรักของเรา
ด้วยรักและชูใจ ☺
คอลัมน์ Love Coach บทความถามตอบปัญหาหัวใจ ปรึกษาปัญหาความรักแบบพี่อ้อยพี่ฉอดเวอร์ชั่นคริสเตียน และบทความแปลในประเด็นของความรัก ติดตามอ่านได้ทุกวันอังคารสีชมพูวววววนะจ๊ะ
Related Posts
- Translator:
- Nava
- หนึ่งในทีมผู้แปลชูใจ ผู้สืบทอดกิจการสายไหมของครอบครัว จบศึกษาอิงค์ แต่ไม่ได้อยากเป็นครูในระบบ มีความมุ่งมั่นที่จะตามหาฝันไปไกลถึงเมืองที่มีแกะมากกว่าประชากรในประเทศ
- Illustrator:
- Perapat T.
- Blogger ผู้มากความสามารถในงานเขียน เป็นคริสเตียนที่เรียนสังคมวิทยา ฯ มาอย่างโชกโชน สเตตัสปัจจุบันเป็นนักเขียนอิสระ และ รับใช้พระเจ้าไปด้วย :)
- Editor:
- Jick
- บก.ชูใจ ผู้ใฝ่ฝันจะชูใจน้องๆ จากความพลาดของตัวเอง