ดาวิด กับ โยนาห์ธาน เพื่อนรักหรือคนรัก

EP. 7

ดาวิด & โยนาธาน #เพื่อนรักหรือคนรัก


 

ปกติบทความซีรีส์ His & Her ของเราก็จะพูดถึงความสัมพันธ์ของคู่รักต่างๆ ในพระคัมภีร์ แต่ถ้าพูดถึงความสัมพันธ์ที่คล้ายๆ His & His อะไรอย่างนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นชายหนุ่ม 2 คน ที่มีบทสนทนาพาจิ้นอย่าง ดาวิดวีรบุรุษหนุ่มหล่อ กับ เจ้าชายนักรบโยนาธานนี่แหละ เรื่องนี้พี่สาวอยากให้เปิดใจ แต่ก่อนจะไปกันต่อพี่สาวต้องตกลงกันให้เคลียร์กัน ณ จุดๆ นี้ก่อนเลยนะว่า เราจะโฟกัสกันที่ข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องราวความสัมพันธ์ของดาวิดกับโยนาธานเท่านั้นว่าทั้งสองคือ #เพื่อนรักหรือคนรัก เพราะว่าน้องๆ บางคนอ่านพระคัมภีร์เรื่องนี้แล้วมันสงสัยและสับสน

 

เรื่องมีอยู่ว่า “ดาวิด” หนุ่มรูปงาม บุคคลดั๊งดังในพระคัมภีร์ที่พี่สาวหยิบยกมาพูดถึงหลายครั้งในคอลัมน์นี้ ส่วนอีกคนนั้นคือ “โยนาธาน” เจ้าชายหนุ่มผู้สัตย์ซื่อและมีหัวใจที่เที่ยงตรง เพื่อความกระชับและเข้าใจที่มาที่ไปของความผูกพันของดาวิดและโยนาธาน ขอเล่าเป็นไทม์ไลน์ให้อ่านใน #สรุปเดียว

 

  • ดาวิดกับโยนาธานพบกันครั้งแรกเมื่อดาวิดมีชัยเหนือโกลิอัท และเข้ามาแนะนำตัวต่อหน้ากษัตริย์ซาอูล ซึ่งเป็นพ่อของโยนาธานนั่นเอง

 

เมื่อดาวิดกราบทูลซาอูลเสร็จแล้ว โยนาธานรู้สึกผูกพันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับดาวิด เขารักดาวิดเหมือนรักตนเอง….และโยนาธานทำพันธสัญญาเป็นเพื่อนแท้กับดาวิดเพราะเขารักดาวิดเหมือนรักตนเอง โยนาธานถอดเสื้อคลุมที่สวมอยู่ยกให้ดาวิด พร้อมทั้งเสื้อตัวใน ดาบ ธนู และเข็มขัด
(1 ซามูเอล 18:1,3-4)

 

  • หลังจากที่ทั้งคู่รู้จักและสนิทกัน ซาอูลพ่อของโยนาธานกลับอิจฉาดาวิดซึ่งเป็นทหารเก่งเกิ๊น แถมยังได้ป๊อปปูล่าโหวตจากประชาขนมากกว่าตัวเอง ซาอูลอิจฉามากจนลอบฆ่าดาวิดเลยทีเดียวเพราะกลัวบัลลังก์จะไม่มั่นคง ดาวิดต้องหนีตายแอบมาเจอโยนาธานเพื่อดูว่าเพื่อนจะเป็นเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดไหม แต่โยนาธานก็สัญญาว่าจะไปเลียบเคียงถามพ่อมาให้ว่าคิดจะฆ่าดาวิดจริงเหรอ นัดแนะวิธีการกันเสร็จแล้วก็ทำสัญญาลูกผู้ชายกันอีกรอบ ว่าเราจะเป็นเพื่อนรักกันตลอดไปปป เฮ้! (1 ซามูเอล 20:17)
    .
  • เมื่อโยนาธานรู้ว่าพ่อตัวเองจะฆ่าดาวิดจริงๆ ก็ส่งสัญญาณบอกให้ดาวิดรู้ตามที่ตกลงกันไว้ และร่ำลากันด้วยความดราม่าสุด ก่อนจากไปก็ให้สัญญาต่อกันต่อหน้าพระเจ้าว่า ทั้งสองจะเป็นเพื่อนกันตลอดไปจนถึงวงศ์วานของกันและกันด้วย
    .
  • เมื่อทั้งซาอูลและโยนาธานเสียชีวิตในการรบกับคนฟิลิสเตีย ดาวิดก็ร้องไห้คร่ำครวญถึงพ่อลูกทั้งสอง (2 ซามูเอล 1)
    .
  • เมื่อดาวิดได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ ก็ให้คนติดตามหาเชื้อสายของโยนาธานจนเจอลูกชายโยนาธานชื่อ เมฟีโบเชทซึ่งเป็นง่อย จึงรับมาดูแล คืนที่ดินให้ และปฏิบัติเหมือนกับเป็นโอรสของกษัตริย์องค์หนึ่งเพราะเห็นแก่โยนาธานเพื่อนรัก (2 ซามูเอล 9)

 

*คำเตือน นี่คือสรุปเหตุการณ์ในพระคัมภีร์ ขอร้องงงงจากใจว่าให้กลับไปอ่านพระคัมภีร์เองด้วยนาจา จะได้อรรถรสอย่างแรง

 

ความสัมพันธ์ของดาวิดกับโยนาธาน

 

มีบางประเด็นที่ต้องอธิบายให้น้องเข้าใจ เพราะคำที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์บางอย่างมันฟังดูก็ทำให้จิ้นกันกระจาย หลายคนคิดว่าฟังดูเหมือนความรักแบบชาย-ชายอยู่นาพี่

 

__________________________________________

 

1. ใช้คำว่า ‘รัก’ กับเพื่อนเพศเดียวกันก็ได้เหรอ?

 

โยนาธานรู้สึกผูกพันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับดาวิด เขารักดาวิดเหมือนรักตนเอง
(1ซามูเอล 18:1,3-4)

โอ โยนาธาน พี่น้องของข้าพเจ้าเอ๋ย ข้าพเจ้าอาลัยถึงท่าน ท่านเป็นที่รักยิ่งของข้าพเจ้า ความรักที่ท่านมีต่อข้าพเจ้านั้นล้ำเลิศ ล้ำเลิศยิ่งกว่าความรักของสตรี
(2 ซามูเอล 1:17-27)

 

ช้าก่อนพี่น้องของข้าพเจ้าเอ๋ยยยยย… คำว่า ล้ำเลิศยิ่งกว่าความรักของสตรี น่าจะเป็นการเปรียบเทียบความรักที่สองพี่น้องมีต่อดาวิด ซึ่งความรักของโยนาธานนั้นเมื่อเปรียบเทียบกับมีคาลแล้ว ความรักของโยนาธานก็น่านับถือกว่า เพราะไม่ใช่ความรักเชิงชู้สาว แต่เป็นความรักฉันเพื่อนที่บริสุทธิ์ และไม่เห็นแก่ตัว และที่สำคัญ พระคัมภีร์ไม่เคยยกย่องความสัมพันธ์ที่ผิดไปจากธรรมชาติที่พระเจ้าทรงสร้าง (ปฐก 1:27; ลวต 18:22; 20:13) และความบาปอื่นๆ ที่ดาวิดกระทำเช่นการล่วงประเวณีกับนางบัทเชบา พระคัมภีร์ก็บันทึกไว้ตามนั้นไม่ได้เข้าข้างแต่อย่างใด บทลงโทษที่ติดตามมาก็มี

 

__________________________________________

 

2. เรื่องจูบ… หวั่ยตั่ยแร้วววว

 

“…ดาวิดหมอบคำนับโยนาธานสามครั้งซบหน้าลงกับพื้น แล้วทั้งสองร้องไห้จูบลากัน แต่ดาวิดร้องไห้หนักกว่า โยนาธานพูดกับดาวิดว่า ไปดีมีสุขเถิดเพราะเราได้เป็นเพื่อนร่วมสาบานในพระนามพระยาห์เวห์ว่า   องค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงเป็นพยานระหว่างท่านกับเราและระหว่างวงศ์วานของเราทั้งสองฝ่ายตลอดไปแล้วดาวิดก็จากไป”  – (1 ซามูเอล 20:41-42)

 

อันนี้พี่สาวขอบอกกกก น้องต้องเข้าใจก่อนว่า พระคัมภีร์ถูกเขียนขึ้นตามบริบทของชนชาติยิว ดังนั้นเราต้องเข้าใจวัฒนธรรมของยิวก่อนด่วนสรุปว่านี่คือคู่วายตามบริบทคนไทย 2018

 

“การจูบ“ เพื่อทักทาย เพื่อแสดงความรักโดยเฉพาะกับคนในครอบครัว หรือเพื่ออำลานั้นเป็นธรรมเนียมของคนยิวในสมัยก่อน ดังจะเห็นจากหลายข้อทั่วทั้งพระคัมภีร์ที่พูดถึงการจุบหรือจูบ

 

  • ยาโคบจูบราเชลทันทีที่รู้ว่าเป็นญาติแถมร้องไห้เสียงดังมากและลาบันก็จูบยาโคบเมื่อรู้ทันทีว่าเป็นหลาน (ปฐมกาล 29 : 11-13)
  • นาโอมีจุบลาลูกสะใภ้และร้องไห้หนักมากหนักพอๆ กับดาวิดนี่แหละ (นางรูธ 1:9)
  • เอลีชาขอไปจุบลาพ่อแม่ก่อนไปเป็นผู้รับใช้ (1 พงษ์กษัตริย์ 19:20)
  • โยอาบเอามือจับเคราของอามาสาเพื่อจะจูบทักทาย (2 ซามูเอล 20:9)
  • คนในคริสตจักรเมืองเอเฟซัสร้องไห้ซาบซึ้งและกอดคอเปาโลและจุบท่าน (กิจการ 20:37)
  • เปาโลก็แนะนำให้ทักทายกันด้วยธรรมเนียมการจูบอันบริสุทธิ์ไปด้วยเลย (โรม 16:16)

 

แม้กระทั่งทุกวันนี้ในประเทศโซนอาหรับก็ยังคงยึดธรรมเนียมนี้อยู่ แมนๆ ดังภาพ

 

ธรรมเนียมการจูบ
ที่มา: msn.com

 

และโยนาธานเองก็ได้ระบุความสัมพันธ์ของทั้งสองออกมาว่าเป็น เพื่อนร่วมสาบานในพระนามพระยาเวห์#เคลียร์คัทชัดเจนนะคะทุกคน ดังนั้นอยากให้เข้าใจใหม่ว่า เรื่องดาวิด-โยนาธาน ไม่ใช่เรื่องคู่จิ้นเกย์ประจำพระคัมภีร์ แต่เป็นความรักที่ผูกพันแน่นแฟ้น แบบเพื่อนรักและรักเพื่อนแบบไม่มีเกินเลย ไม่มีเรื่องอย่างว่าเข้ามาเกี่ยว เพราะ #เพื่อนแท้ไม่กินกันเองนะฮะ

.

ความรักเป็นสิ่งสวยงามตามมุมมองของพระคัมภีร์ และพระเจ้าทรงเป็นความรัก ดังนั้นขอให้เราปฎิบัติต่อทุกคนด้วยสายตาแห่งความรักและความเข้าใจ #Godislove ส่วนประเด็นเรื่อง LGBT อาจจะไม่สามารถอธิบายกันได้เข้าใจในบทความนี้ได้หมด แต่พี่สาวอยากให้ดูคำอธิบายจากคลิปด้านล่างนี้ของอาจารย์ สตีฟ เทย์เลอร์ อาจารย์ประจำสถาบันพระคริสตธรรมกรุงเทพฯ ซึ่งท่านอธิบายไว้ได้ครอบคลุมดีมากๆ แต่ถ้าดูจบแล้วน้องคนไหนมีความสงสัย และอยากคุยเรื่อง LGBT หลังไมค์มาทักพี่ชูใจได้เลยค่า

 

 

ด้วยรักและอยากจะชูใจมากเลย

พี่สาวยุค 90

 

.

.


 

Fun Fact: เกี่ยวกับธงสีรุ้ง

 

ธงสีรุ้งของ LGBT
ภาพถ่ายโดย Ludovic Bertron from New York City, Usa

 

ศิลปินเกย์ชื่อว่า Gilert Baker เป็นผู้ริเริ่มธงสีรุ้งเพื่อเป็นสัญลักษณ์สำหรับการต่อสู้เพื่อสิทธิเกย์ โดยใช้แปดสี คือ ฮ็อตพิงก์ (เรื่องทางเพศ), แดง (ชีวิต), ส้ม (การเยียวยา), เหลือง (แสงอาทิตย์), เขียว (ธรรมชาติ), เทอร์ควอยซ์ (เวทย์มนต์/ศิลปะ)  , น้ำเงิน/คราม (ความปลอดโปร่ง/ปรองดอง), ม่วง (จิตวิญญาณ) ซึ้งถูกนำไปแสดงเป็นครั้งแรกที่ลานสหประชาติระหว่างการเดินขบวน San Francisco Gay Freedom Parade เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 1978 ซึ่งต่อมากลายเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่ม LGBT (ที่มา: http://mentalfloss.com/article/28442/how-rainbow-became-associated-gay-rights)

.

ส่วนรุ้งในปฐมกาล 9:12-17 เป็นสัญลักษณ์ของพันธสัญญาที่พระเจ้าทรงทำกับโนอาห์ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากการที่ฝนตกจนทำให้เกิดน้ำท่วมโลกเพื่อกวาดล้างความอธรรมออกไป


Previous Next

  • Author:
  • พี่สาวหัวใจยังใสคนนี้ นอกจากเป็นผู้รับใช้เต็มเวลาที่พึ่งเรียนจบพระคริสตธรรมมาหมาดๆ แล้วก็ยังเป็นพี่สาวที่เข้าใจว่าเป็นวัยรุ่นคริสเตียนในเวลานี้ มันอยู่ยาก มันเหนื่อย เลยอยากมาแบ่งปันให้น้องๆ เห็นว่า พระเจ้าเข้าใจทุกสถานการณ์ พระเจ้าไม่เชยนะ พระคัมภีร์ contemporary มากกว่าที่น้องคิดนะจร้าาาา
  • Illustrator:
  • tumtim
  • เด็กสาววัยรุ่นพึ่งจบจิตวิทยามาหมาดๆ แต่มุ่งมั่นตั้งใจจะทำงานสายกราฟิก เธอผู้ยังหาค้นหาตัวเองคนนี้มีความสามารถมากมายที่ตัวเองไม่มั่นใจอยู่ตลอดเวลา เลยเจอพี่ชูใจจับมาใช้งานให้มั่นใจซักทีว่าตัวเองมีของ
  • Editor:
  • Jick
  • บก.ชูใจ ผู้ใฝ่ฝันจะชูใจน้องๆ จากความพลาดของตัวเอง