26 สิงหา
.
อธิษฐานมาได้ไม่กี่วัน สงครามประสาทก็มาอีกตามเคย
ความกังวลโจมตีเราแบบไม่หยุดหย่อน
.
แค่คิดก็นึกภาพออกแล้วว่าพ่อจะพูดอะไร
ก็เราไม่ค่อยจะมีบทสนทนาที่หวานซึ้งกันสักเท่าไหร่
ส่วนใหญ่มีแต่ความเห็นตรงข้ามกัน
ยิ่งเป็นสิ่งที่เค้าไม่เห็นด้วยตั้งแต่แร4
ไม่มีทางที่เค้าจะช่วยเราแน่ๆ
.
การตอบโต้ทางคำพูดเกิดขึ้นในหัวเรา
ทั้งๆ ที่ความจริงมันยังไม่มีอะไรด้วยซ้ำ
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในหัวมีแต่ความคิดที่ว่า
…
เราทำไม่ได้หรอก
ไม่มีทางที่จะคุยได้อย่างราบรื่นแน่นอน
_______________
27 สิงหา
.
ช่วงนี้พี่โอพูดเรื่องจะซื้อบ้าน
เรื่องใหญ่สินะ
ส่วนเรื่องที่เค้าจะช่วยเรา
คงลืมไปได้เลย
_______________
28 สิงหา
.
ขอพระเจ้าเอาความคิดร้ายๆ ออกไปที
ทำไมเราถึงเต็มไปด้วยมวลอารมณ์และความกลัวล่ะ?
ทำไมเราถึงเศร้าใจไปทั้งๆ ที่ยังไม่ได้คำตอบ?
ทำไมเราถึงตัดสินสถานการณ์ไปก่อนที่เราจะลงมือทำด้วยซ้ำ!?
.
จะพูดคุยยังไงที่จะไม่ทะเลาะกัน?
พระเจ้าคะ ลูกไม่มีกำลังพอที่จะควบคุมอารมณ์ตัวเองแน่ๆ
แต่ถ้าพระประสงค์ของพระเจ้าคือการรัก
ขอพระองค์ทรงเป็นคนช่วย
ขอพระองค์เป็นคนสร้างสิ่งนั้น
เพราะลูกทำไม่ได้ แต่พระองค์ทำได้
_______________
30 สิงหา
.
เป็นอีกครั้งสินะ
เรากำลังกำทุกอย่างไว้แน่นในมือเรา
แต่พระเจ้าบอกเราว่า
ไม่มีสิ่งไหนเลยที่อยู่ในการควบคุมของเรา
แต่ทุกสิ่งอยู่ในพระหัตถ์พระเจ้าต่างหาก
.
ไม่เป็นไรหรอกเนอะ
วางทุกอย่างไว้กับพระเจ้า
จะได้ไป หรือไม่ได้ไป ลูกยอมวางทุกอย่างไว้ในพระหัตถ์พระองค์
และลูกก็เชื่อว่า พระเจ้ารู้จักลูกดีเสมอ
.
ขอพระเจ้านำในการคุยกับพ่อ
เราอาจคิดไม่ค่อยตรงกันเท่าไหร่
แต่อย่างน้อยที่สุด
ขอพระเจ้าช่วยให้เราทำหน้าที่ “คนแห่งความรัก” ของพระเจ้าให้ดีที่สุด
ที่เราจะตอบสนองด้วยความรัก ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหน
ให้เรามีคำพูดที่ดีที่จะตอบ ด้วยสติปัญญาจากพระเจ้า
.
ขอให้เราทำหน้าที่ “ลูก” ให้ดีที่สุด
คือการตอบสนองด้วยความเคารพ ในฐานะลูก
แม้ว่าคำตอบอาจไม่เป็นไปตามใจเราก็ตาม
เพราะแม้ว่าการกระทำของอีกฝ่ายอาจไม่ถูกใจเรา
แต่หน้าที่ของเราคือ “คนแห่งความรักของพระเจ้า” และ “ลูก”
เพราะฉะนั้นเราจะพยายามทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดก็พอ
ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับพระเจ้า
_______________
31 สิงหา กับบทสนทนาที่กระอักกระอ่วน
.
รู้สึกตื่นเต้น บวกกังวลแบบบอกไม่ถูก
เอาน่า ได้ไม่ได้ มันก็มีอยู่แค่สองคำตอบ
เดี๋ยวได้รู้กัน
เดี๋ยวกลับมาเขียนใหม่นะ
.
.
.
วู้ฮู้ววว NOTHING IS IMPOSSIBLE WITH GOD!!!
.
ตั้งแต่เริ่มต้นพูด ไม่มีความขัดแย้งเลยซักนิด
ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีมาก
และเรื่องร้ายๆ ที่เราคาดคิดไว้ในหัวก็ไม่เกิดขึ้นเลย!
พ่อตกลงจะช่วยให้ไปจริงๆ!!!
.
รีบวิ่งลงมาบอกแม่ว่า “ได้ไปแล้ววววววว!!!”
แม่ดูงงๆ และประโยคแรกที่พูดคือ
.
“ไปพูดยังไงเหรอถึงได้ไป?”
.
555 คงไม่ใช่เราคนเดียวที่ลุ้นอยู่
หลังจากนั้นมา พี่โอก็ไม่ได้พูดเรื่องบ้านอีกเลย
เค้าก็ยังยืนยันที่จะช่วยเราเหมือนเดิม
.
นั่นแหละนะ บางทีปัญหาก็คือความคิดของเราเองซะอย่างงั้น
เป็นเราเองที่คิดตีโพยตีพายไปก่อนที่ปัญหาจะมา
แต่ยังไงก็ช่าง เรื่องนี้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นแล้วล่ะ!
(ติดตามอ่าน New Me in New Zealand ตอนต่อไปได้ในวัน พฤหัสบดี ที่ 20 กันยายน 2018
เวลา 19.00 น. ทางเว็บไซด์ www.choojaiproject.org หรือ
กดติดตามทางเพจเฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/choojaiproject/)
Related Posts
- Author:
- หนึ่งในทีมผู้แปลชูใจ ผู้สืบทอดกิจการสายไหมของครอบครัว จบศึกษาอิงค์ แต่ไม่ได้อยากเป็นครูในระบบ มีความมุ่งมั่นที่จะตามหาฝันไปไกลถึงเมืองที่มีแกะมากกว่าประชากรในประเทศ
- Illustrator:
- tumtim
- เด็กสาววัยรุ่นพึ่งจบจิตวิทยามาหมาดๆ แต่มุ่งมั่นตั้งใจจะทำงานสายกราฟิก เธอผู้ยังหาค้นหาตัวเองคนนี้มีความสามารถมากมายที่ตัวเองไม่มั่นใจอยู่ตลอดเวลา เลยเจอพี่ชูใจจับมาใช้งานให้มั่นใจซักทีว่าตัวเองมีของ
- Editor:
- Jick
- บก.ชูใจ ผู้ใฝ่ฝันจะชูใจน้องๆ จากความพลาดของตัวเอง