EP.2 (Season 1)

สู้เพื่อฝัน… เอาจริงมันก็ไม่สนุกนะ! (EP. 2 Season 1)


 25 มีนา 2016

.

ไปเมืองนอกได้อะไรบ้าง?”

ก็ได้ภาษาอยู่แล้วนี่ แล้วจะไปเรียนภาษาที่นั่นทำไมอีก เสียดายตังค์เปล่าๆ” แม่บอก

ถึงจะมีวิธีไป ก็ติดปัญหาเรื่องเงินอยู่ดี เฮ้อออ….

_______________

 

30 มีนา 2016

.

หมกมุ่น ….

สับสน….

ก้าวต่อไปคือ….?

เราจะแน่ใจได้ยังไงว่านี่เป็นสิ่งที่พระเจ้านำจริงๆ?

หรือเรากำลังทำสิ่งที่เราต้องการ แต่จริงๆ แล้วพระเจ้าไม่ได้นำให้เราไปทางนี้?

แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าอะไรเป็นน้ำพระทัยพระเจ้า?

โอ้ยยยยยยยยยย T_T

พระเจ้าคะ….

นาวาขอยอมวางความฝันนี้ไว้ให้พระเจ้าดีกว่า

ไม่อยากไปสู้คนเดียวในที่ๆ พระเจ้าไม่ได้นำไป

 

_______________

 

 

2 กรกฏา 2016 ณ ร้านโรตี

.

ที่จะไปเมืองนอกนี่จะไปทำอะไร  มีแผนว่าจะทำอะไรต่อ?”

ถ้ามีเป้าหมาย เป็นสิ่งที่อยากทำจริงๆ ก็จะช่วยอยู่ แต่ถ้าอยากไปเที่ยวเล่นไม่ช่วยหรอก

อยากให้ได้ทำอะไรที่ชอบ ที่จะมีความสุขแล้วกลับมาใช้อะไรได้

บทสนทนากับพี่โอวันนี้ที่ร้านโรตี

โอ๊ยยยยพระเจ้าคะ แบบนี้เลยเหรอ

ทั้งๆ ที่ไม่เคยเล่าความฝันอะไรให้เค้าฟังเลย

และไม่คิดว่าเค้าจะเข้าใจหรือสนใจเรื่องไล่ตามความฝันอะไรนี่

แต่อยู่ดีๆ เค้าออกปากจะช่วย โดยที่เรายังไม่ได้พูดอะไรเลย!

พระองค์บันดาลทุกสิ่ง ที่เกินความเข้าใจของเรา

พึ่งรู้ว่าน้ำตาแห่งความสุขมันมีอยู่จริง

 

_______________

 

11 กรกฏา 2016

.

พึ่งอธิษฐานเสร็จ ขอให้พระเจ้านำตามน้ำพระทัย

เดินออกห้องมา ประโยคแรกที่พ่อพูดคือ

ตกลงจะไปเรียนอะไร?”

ย่ากำลังจะขายที่ดินพอดี คงมีเงินให้ไปเรียนได้

เรา “!!!!!!”

บางทีพระเจ้าก็ตอบคำอธิษฐานแบบที่ทำให้เราตกใจอยู่บ่อยๆ

 

_______________

 

14 สิงหา 2016

.

สถานการณ์ขึ้นๆลงๆ

พ่อบอกจะให้ไป

แต่คือการจำใจให้ไป ไม่ใช่การเห็นด้วย

แล้วก็ยังมีคำพูดเดิมๆ

ไปแล้วมันจะได้อะไร

คิดว่าจะไปเรียนทำอาหาร

มันก็น่าสนใจในระดับนึงนะ

แต่ถ้าเกิดเรียนแล้วไม่ชอบอีกล่ะ?

ถ้าทำได้ไม่ดีล่ะ?

จะหางานได้มั้ย? คุ้มกับเงินที่ไปรึเปล่า?

ชีวิตไม่เคยต้องวางแผนใช้เงินเยอะแบบนี้มาก่อน

คนรอบข้างก็ไม่ได้ออกตัวสนับสนุนความคิดเราเต็มร้อยเท่าไหร่

คงเพราะครอบครัวเราไม่ชอบความเสี่ยง

กดดัน ฟุ้งซ่าน ไม่มั่นใจ….

มาครบหมดเลยจ้า

_______________

 

20 สิงหา 2016

.

หลังสอนเปียโน .ชุลี ก็ได้มาอัพเดทชีวิตกันต่อ

มาอีกแล้ววว คำหนุนใจจากคนแปลกหน้า

ฉันเป็นผู้หญิงอินเดียคนแรกในหมู่บ้านที่จะมาเป็นมิชชันนารีอยู่ต่างประเทศ

ไม่มีใครที่สามารถให้ข้อมูลหรือความช่วยเหลือได้เลย

คนรอบข้างก็ไม่เห็นด้วย เพราะผู้หญิงอินเดียอายุประมาณนี้ควรจะแต่งงานมีครอบครัวได้แล้ว

แต่ฉันก็ตัดสินใจที่จะมา

แต่ละขั้นตอนไม่ได้ง่าย ต้องอธิษฐานและรออยู่เป็นปี

แต่พระเจ้าไม่ลืมพระสัญญาของพระองค์

และตอนนี้ฉันได้มาที่นี่ ทำตามความฝันของตัวเอง

ส่วนเพื่อนคนที่คัดค้านตอนนั้น ก็ยังอยู่ที่อินเดีย และยังไม่ได้แต่งงาน

นั่นสินะ การมีชีวิตนอก Comfort zone มันไม่ได้ง่าย

แต่เรารู้ว่าพระเจ้าอยู่ด้วยและนำไปในทุกกระบวนการ

อุปสรรคปัญหาเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องเจอ

แต่พระเจ้าจะทำให้ทุกอย่างลงตัวอย่างสวยงามในที่สุด

 

 

_______________

 

23 สิงหา 2016 ขณะกำลังอธิษฐานปล้ำสู้

.

ถึงเวลาต้องคุยกับพ่อจริงจังแล้ว

รู้สึกลุ้น บวกกังวลบอกไม่ถูก

แต่อะไรที่ต้องทำมันก็ต้องทำ

ขออธิษฐานไปอีกซักอาทิตย์นึงละกัน >.<!


(ติดตามอ่าน New Me in New Zealand ตอนต่อไปได้ในวัน พุธ ที่ 19 กันยายน 2018
เวลา 19.00 น. ทางเว็บไซด์ www.choojaiproject.org หรือ
กดติดตามทางเพจเฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/choojaiproject/)


Previous Next

  • Author:
  • หนึ่งในทีมผู้แปลชูใจ ผู้สืบทอดกิจการสายไหมของครอบครัว จบศึกษาอิงค์ แต่ไม่ได้อยากเป็นครูในระบบ มีความมุ่งมั่นที่จะตามหาฝันไปไกลถึงเมืองที่มีแกะมากกว่าประชากรในประเทศ
  • Illustrator:
  • tumtim
  • เด็กสาววัยรุ่นพึ่งจบจิตวิทยามาหมาดๆ แต่มุ่งมั่นตั้งใจจะทำงานสายกราฟิก เธอผู้ยังหาค้นหาตัวเองคนนี้มีความสามารถมากมายที่ตัวเองไม่มั่นใจอยู่ตลอดเวลา เลยเจอพี่ชูใจจับมาใช้งานให้มั่นใจซักทีว่าตัวเองมีของ
  • Editor:
  • Jick
  • บก.ชูใจ ผู้ใฝ่ฝันจะชูใจน้องๆ จากความพลาดของตัวเอง