28 Mar, ณ ดินแดนอันไกลโพ้น
.
มาถึงแล้วจ้าาาา
มาถึงบ้านที่จองกันมาแบบปากเปล่า
ไม่มีค่ามัดจำ ไม่มีหลักประกันใดๆ
แถมไม่เคยเห็นว่าสภาพเป็นยังไง จะอยู่ได้มั้ย
.
บ้านเป็นแบบตึกแถวสองชั้น
ข้างล่างเป็นร้านขายของ
แอบคิดในใจ ข้างบนจะเป็นไงว๊าา
.
ก้าวขึ้นมาบนบ้าน โอ้โหวววว!
ไม่ใช่บ้านร้านขายของอย่างที่คิด
สภาพเหมือนบ้านชั้นเดียว
มีพรมอย่างดี สะอาดสะอ้านใช้ได้
แถมห้องเราคือห้องใหญ่ เตียงใหญ่
ด้วยราคาที่ถูกกว่าที่อื่นที่ดูในเน็ตมา
บวกกับจากบ้านเราเดินไปโรงเรียนได้ประมาณ 15 นาที
มีซุปเปอร์มาร์เก็ตกับร้านซักผ้าอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วย
เห็นป่ะล่ะ! การจัดเตรียมของพระเจ้าดีกว่าที่เราคิดไว้เสมอ
.
ค่ำคืนแรกในสถานที่ต่างแดนตัวคนเดียว
รู้สึกแปลกๆเนอะ
ไม่น่าเชื่อว่าจะได้มาอยู่ที่นี่จริงๆ ตั้ง 2 ปี
จากความคิดที่ดูเป็นไปไม่ได้เลย
แต่ตอนนี้ฉันซุกตัวอยู่ในผ้าห่ม ณ ประเทศที่ชื่อว่านิวซีแลนด์แล้วจริงๆ
หวังว่าทุกอย่างจะค่อยๆ ผ่านไปด้วยดี
ขอบคุณนะคะพระเจ้า 🙂
_______________
2 April,
.
พรุ่งนี้ไปโรงเรียนวันแรก
เอาจริงๆ ความรู้สึกไม่ต่างอะไรกับการเริ่มไปโรงเรียนตอนเด็กๆ
จำได้ว่าร้องไห้ตั้งแต่อนุบาลยันประถม
วันนี้คงไม่ไปแอบร้องไห้ในห้องน้ำ แต่ความประหม่าของคนขี้กลัวไม่เคยหายไป
โอ๊ยยยยย จะไปเริ่มต้นหาเพื่อนยังไง ทำหน้ายังไง ต้องคุยอะไร ทำอะไรบ้าง
ก็ไม่ชอบการเข้าสังคม กลัวการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงนี่นะ
เด็กน้อยข้างในคนนั้น… ไม่เคยเปลี่ยนเลย
.
แต่ก็นั่นแหละ พระเจ้ารู้จักส่วนที่เปราะบางและอ่อนแอที่สุดของเรา
ขอพระเจ้าเดินจูงมือเราไปส่งที่โรงเรียนเหมือนที่แม่ทำตอนเด็กๆ หน่อยนะคะ
.
เอาวะ ยังไงก็ต้องไปอ่ะ ก็มาถึงนี่แล้วไงงงง
เดี๋ยวมันก็ผ่านไปจ่ะ
เดี๋ยววันนี้มันก็ผ่านไป ………
_______________
3 April,
.
ด.ญ.นาวากลับมาจากโรงเรียนแล้วจ้าาา
ก็ดีกว่าที่คิดอีกตามเคย
พระเจ้าไม่เคยปล่อยให้เราฝ่าอะไรโดยลำพังเลยจริงๆ
มีเพื่อนคนแรกเป็นคนจีนจ้าา
ซึ่งไม่เคยคิดเลยเนอะว่าชีวิตนี้จะมีเพื่อนเป็นคนจีน (โปรดให้อภัยทัศนคตินี้)
เป็นมิตรภาพแรกที่ซาบซึ้งก็เพราะตัวเราเป็นคนไม่เริ่มคุยกับใคร
จะให้ชวนคนอื่นคุย สร้างเพื่อน ไม่รู้ทำไมมันย๊ากกยาก
แต่เพื่อนคนนี้กลับเข้ามาหยิบยื่นความเป็นเพื่อนให้กับเราก่อน
แถมยังเลี้ยงน้ำเป็นการฉลองมิตรภาพด้วย
รู้สึกเหมือนได้ของขวัญวันเปิดเทอม
ขอบคุณพระเจ้าที่ส่งคนมาช่วยชีวิตในวันนี้
_______________
10 April,
.
ผ่านพ้นไปหนึ่งอาทิตย์อย่างรวดเร็ว ไม่น่าเชื่อ!
รู้สึกว่าไม่ได้ขาดจากความรักของพระเจ้าเลย
เราได้รู้จักเพื่อนที่ดีอีกหลายคน ส่วนใหญ่คือคนจีนและอินเดีย
เป็นเรื่องที่ไม่คาดฝันเอาซะเลย
ก็คิดว่าจะมาอยู่ในประเทศฝรั่ง ได้ฝึกภาษาอังกฤษนี่นา
ทำไมกลับต้องมาเจอเอเชียอีกเนี่ย
แถมเป็นประเทศที่ พูดตรงๆ เราก็มีอคติที่ไม่ดีกับคนสองประเทศนี้เลย
.
แต่หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านไป เราได้กลับมาทบทวนตัวเองใหม่
ตอนนี้มีเพื่อนคนจีน เค้าก็ช่วยขับรถมาส่งบ้านในบางวันที่ฝนตก
เพื่อนคนจีนอีกคน เดินกลับบ้านด้วยกันทุกวัน เป็นคนที่คอยไปส่งเราทำธุระทุกอย่าง
เพราะเค้ารู้ว่าเราไม่อยากไปคนเดียว โดยที่เราไม่ต้องเอ่ยขอด้วยซ้ำ
หรือบางวันถ้าต้องเดินกลับมืดๆคนเดียว เพื่อนอินเดียก็อาสามาส่ง
ความจริงน่าตกใจเหมือนกันเนอะ แทนที่เราเองจะสำแดงความรักของพระเจ้าต่อเค้า
คนพวกนี้เองต่างหากที่ทำให้เรามองเห็นชัดขึ้นว่าความรักของพระเจ้าควรจะเป็นยังไง!
.
นี่คงเป็นบทเรียนแรกที่พระเจ้าสอนให้เราเข้าใจมากขึ้นตั้งแต่มาถึงที่นี่
กลับใจใหม่เลยล่ะ > <
ต่อไปนี้อยากจะใช้ความรักของพระเจ้าให้มากขึ้นและไม่ตัดสินคนอื่นอีกแล้ว!
(ติดตามอ่าน New Me in New Zealand ภาค2 ตอนต่อไปได้
ในวันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน 2561 ทางเว็บไซด์ www.choojaiproject.org หรือ
กดติดตามทางเพจเฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/choojaiproject/)
Related Posts
- Author:
- หนึ่งในทีมผู้แปลชูใจ ผู้สืบทอดกิจการสายไหมของครอบครัว จบศึกษาอิงค์ แต่ไม่ได้อยากเป็นครูในระบบ มีความมุ่งมั่นที่จะตามหาฝันไปไกลถึงเมืองที่มีแกะมากกว่าประชากรในประเทศ
- Illustrator:
- tumtim
- เด็กสาววัยรุ่นพึ่งจบจิตวิทยามาหมาดๆ แต่มุ่งมั่นตั้งใจจะทำงานสายกราฟิก เธอผู้ยังหาค้นหาตัวเองคนนี้มีความสามารถมากมายที่ตัวเองไม่มั่นใจอยู่ตลอดเวลา เลยเจอพี่ชูใจจับมาใช้งานให้มั่นใจซักทีว่าตัวเองมีของ
- Editor:
- Jick
- บก.ชูใจ ผู้ใฝ่ฝันจะชูใจน้องๆ จากความพลาดของตัวเอง