“เพราะเราทุกคนทำผิดพลาดไปหลายๆ อย่าง ถ้าผู้ใดมิได้ทำผิดทางวาจา
ผู้นั้นก็เป็นคนดีรอบคอบแล้ว” – (ยากอบ 3:2)
_____________________________________
ปลดกลางอวกาศ
เพิ่งสมัครงานผ่านยังไม่ทันได้เริ่มทำงานที่ฝันเลย … เรียกได้ว่าเป็นบทเรียนราคาแพงที่แสนเจ็บปวดสำหรับผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งซึ่งใช้ชื่อว่า Naomi H ที่ได้โพสต์ข้อความลงในทวิตเตอร์ส่วนตัวของเธอในช่วงกลางเดือนสิงหาคม 2018 หลังจากได้รับการตอบรับเข้าเป็นเจ้าหน้าที่ฝึกงานของ NASA (องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติอเมริกา) ต้นเหตุของเรื่องวุ่นวายนั้นเกิดจากการที่เธอโพสต์ข้อความที่ไม่ค่อยจะสู้ดีลงทวิตเตอร์ของเธอว่า
“Every one shut the f_ _ _ up I got accepted for NASA internship”
หรือแปลทำนองว่า “หุบปากไปซะ ฉันได้รับเข้าฝึกงานที่ NASA”
ไม่นานนักคำเปรี้ยวๆ ที่ดูเกรี้ยวกราดนี้ ก็ถูกคุณลุงคนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Homer Hickam
เข้ามาเขียนเตือนสั้นๆ ว่า “Language” หรือ “ระวังภาษาหน่อยนะ”
_____________________________________
“เขาผู้ยับยั้งริมฝีปากของตนเป็นผู้หยั่งรู้”
(สุภาษิต10:19)
_____________________________________
อาจเนื่องด้วยเธอมีความมั่นใจในสติสัมปชัญญะ ฮึกเหิม คึกคะนอง หรือเพราะเป็นทวิตส่วนตัวจึงต้องการปกป้องพื้นที่อย่างไรก็ไม่อาจทราบได้ เจ้าของโพสต์ซึ่งเป็นผู้หญิงโพสต์ตอบด้วยความคะนองเกี่ยวกับสิ่งบางสิ่งที่ผู้หญิงไม่มี ด้วยคำพูดคำจาที่หยาบคายไปอีกระดับ
หลังจากโพสต์ข้อความชวนขนลุกเสร็จหญิงสาวก็ทิ้งท้ายสวยๆ ด้วยคำว่า “…ฉันทำงานให้นาซ่านะเหวย” ทางด้านคุณลุงแปลกหน้าตอบกลับมานิ่งๆ แต่อ่านแล้วเจ็บจี๊ดว่า “ส่วนลุงอยู่ในสภาอวกาศที่ทำหน้าที่กำกับดูแลนาซ่าอีกทีน่ะ” (สภาอวกาศเป็นหนึ่งในสภาที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิที่ทำงานให้คำปรึกษากับประธานธิบดีสหรัฐฯ โดยตรง เพราะอเมริกาต้องการเป็นผู้นำทั้งในโลกและจักรวาล)
…และนั่นเป็นบทสนทนาสุดท้าย ก่อนที่จักรวาลของ Naomi H จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป…
________________________________________________________
“ถ่านเป็นเชื้อเพลิง และฟืนเป็นเชื้อไฟฉันใด
คนที่มักทะเลาะวิวาทก็เป็นเชื้อการวิวาทฉันนั้น”
(สุภาษิต 26:21)
________________________________________________________
เหตุการณ์ยิ่งเลวร้ายไปกว่านั้นเพราะบัญชีทวิตเตอร์ของ Naomi H มีผู้ติดตามเยอะอยู่พอสมควรเนื่องจากเธอเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้นิยมเฟอร์รี่ (Furry Fandom) กลุ่มโอตาคุแบบหนึ่งซึ่งชอบตัวการ์ตูนสัตว์มีขนที่มีลักษณะคล้ายมนุษย์ (นึกถึงโซนิคเจ้าเม่นสายฟ้า หรือสาวหูแมวก็แล้วกันครับ) พอเห็นเจ้าของโพสต์ตอบกลับคุณลุงจอมยุ่งไปดุเดือดแบบนั้นบรรดาผู้ติดตามของเธอจึงร่วมด้วยช่วยกันเข้าไปเย้ยหยัน ล้อเลียน และทำการกลั่นแกล้งผ่านโซเซียลมีเดีย (Cyber Bully) คุณลุงกันอย่างสนุกสนานจนเรื่องบานปลายไม่ต่างกับไฟลามทุ่ง
ไม่นาน Naomi H ก็ถูกปลดออกจากการฝึกงานที่ NASA
ส่วน Hoomer Hickam ก็ได้โพสต์ลง Blog ส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยว่าเขาไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในการปลด Naomi H ออกจากงานเลย อันที่จริงเพิ่งมารู้ทีหลังด้วยซ้ำ ทั้งนี้หน้าที่ตำแหน่งของเขาไม่มีความเกี่ยวข้องกับการรับสมัครหรือปลดเจ้าหน้าที่คนใดใน NASA และได้ลองสอบถามไปยังผู้เกี่ยวข้องจึงทราบว่าคนใน NASA ตามไปเจอ Tag ใน Twitter เอง จึงได้ดำเนินการปลดเธอออกจากการฝึกงาน เรียกว่าเป็นการวางยาตัวเองแท้ๆ
ใครมันจะไปรู้เล่าว่า …
คุณลุง Hoomer Hickam นั้นไม่ใช่แค่ผู้ทรงคุณวุฒิในวงการอวกาศและการบินของอเมริกาเท่านั้น แต่เขาคือวิศวกรในตำนาน “October sky” ของนาซ่า ที่เริ่มต้นความสนใจเรื่องอวกาศโดยการสร้างจรวดที่สวนหลังบ้านของเขา กลุ่มของเขาถูกเรียกว่าเป็น Rocket boys เรื่องราวของเขาเคยถูกทำเป็นภาพยนตร์มาแล้วในปี 1999 และอัตชีวประวัติของเขายังเป็นหนังสือขายดีของเดอะนิวยอร์กไทม์เบสเซลเลอร์อีกด้วย (แต่คนในนาซ่าหลายคนน่าจะรู้นะ)
ภาพจากหนังเรื่อง October sky (1999) ซึ่งได้ เจค จิลเลินฮาล มารับบทเป็น Hoomer Hickam
ผู้คลั่งไคล้การสร้างจรวด นักเรียนที่มีพ่อเป็นคนงานเหมืองซึ่งต่อสู้เพื่อให้ได้ทุนวิทยาศาสตร์
เรียกว่าพังในพังทีเดียวสำหรับ Naomi H ที่เจอแจ๊คพอตซะแล้วแหละ
ใน blog ส่วนตัวของลุงในหัวข้อชื่อ Social Media ยังเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและบอกว่า เขาไม่ได้ติดใจเรื่องคำว่า F _ _ _ แต่อย่างไร เพราะเขาเคยเป็นหนึ่งในทหารสงครามเวียดนามและแน่นอนว่าคำแบบนี้ไม่ได้ส่งกระทบต่อเขา เพียงแต่การเขียนข้อความสั้นๆ นั้นก็เพื่อเตือนว่ามันจะไม่เป็นการดีต่อผู้โพสต์หากมีใครในองค์กรมาเห็น เพราะมีคำๆ นั้นกับคำว่า NASA อยู่ด้วยกัน หลังจากโพสต์แล้วเขาก็ทิ้งข้อความไว้อย่างนั้นไม่ได้สนใจอะไร เพิ่งมารู้ทีหลังว่าเธอถูกไล่ออก
โลกโซเชียลนั้นไม่ใช่จะเขียนอะไรลงไปก็ได้นะ เพราะมันมีความเป็นสาธารณะอยู่ ใครเขาจึงเรียกกันว่าโลก Social (สังคม) ไม่ใช่โลก Private (ส่วนบุคคล) ไงล่ะดังนั้นต้องรอบคอบเรื่องการแสดงออกให้ดี
หลังเหตุการณ์ทั้งหมด Naomi H และคุณลุง Hoomer ได้ทำการติดต่อและพูดคุยขอโทษซึ่งกันและกัน ถึงจะเป็นคำขอโทษที่ไม่ได้มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว แต่คุณลุงก็ไม่ได้ผูกใจเจ็บอะไรเลย อีกทั้งหลังได้ดูใบสมัครงานของเธอแล้วยังกล่าวอีกว่า “หลังจากผมได้เห็นประวัติของเธอแล้วผมบอกได้เลยว่าความสามารถของเธอเหมาะสมทุกประการที่จะทำงานวิศวกรรมการบินและอวกาศ และผมจะพยายามช่วยให้เธอได้รับมากกว่าในสิ่งที่เธอต้องเสียไป” และเขายังช่วยพูดคุยกับผู้เกี่ยวข้องให้เธอไม่ต้องถูกบันทึกเรื่องนี้ให้เสียประวัติ อย่างไรก็ตามความหวังในการได้ทำงานใน NASA ของ Naomi H ครั้งนี้ก็ต้องถูกพับไปและอาจไม่เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ แม้ว่าอนาคตอาจมีคำตอบใหม่ให้ แต่ Naomi H ก็คงได้เรียนรู้อะไรอีกหลายอย่างและไม่มีวันลืมเหตุการณ์ในครั้งนี้แน่ๆ
ทั้งนี้ Naomi H ได้ทำการปิดบัญชีทวิตเตอร์ดังกล่าว และตัดสินใจทิ้งบรรดาผู้ติดตามที่มีส่วนสร้างความพังในเหตุการณ์นี้ไว้เบื้องหลัง #ขอให้เธอสู้ต่อไปนะ #Fighting!
เหตุการณ์แบบนี้มีให้เราเห็นกันบ่อยๆ ทั้งเรื่องของคำพูดหรือการพิมพ์ และไม่ว่าจะเกิดในโลกจริงหรือโลกโซเชียลมันก็มักย้อนกลับมาส่งผลกับเราเสมอ ไม่มีใครที่จะทำให้เราเสียหายหรือเป็นพยานปรักปรำเราได้เท่ากับคำพูดของเราเอง ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ผู้กำกับ gadian of the galaxy ถูกปลดก่อนหน้านี้เพราะเคยโพสต์ข้อความมุกตลกใต้สะดือเกี่ยวกับเด็กและการข่มขืนเมื่อหลายปีก่อนที่โดนขุดขึ้นมา หรือกรณีอื่นๆ มากมาย
- เราทุกคนต่างต้องรับผิดชอบกับคำพูดทุกอย่างที่เราพูดหรือพิมพ์ออกไป ไม่มีสิ่งใดที่จะถูกปิดซ่อน และเราจะต้องรับผิดชอบต่อทุกสิ่งที่เราได้ทำหรือพิมพ์
- คำเดียวอาจส่งผลทั้งชีวิต แม้ประโยคๆ เดียวหรือคำเดียวที่ถูกกาลเทศะหรือผิดกาลเทศะก็ทำให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปได้
- ลิ้นและนิ้วมือเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ #โลกโซเชียลก็เช่นกัน เราคุมอะไรไม่ได้เลยแม้กระทั่ง Follower ของเราก็ตาม
- แต่ในทุกบทเรียนราคาแพงอาจมีโอกาสซ่อนอยู่ ไม่ใช่ทุกคนที่จะดีกับเราเมื่อเราทำไม่ดีกับเขา Hoomer อาจตั้งต้นมาจากคนที่มีความฝันเรื่องอวกาศและการบิน เขาจึงเข้าใจหัวอกของ Naomi H และช่วยเหลือเธอ อาจมีคนอีกมากมายที่ใช้อำนาจในการลบเธอจากวงการนี้ แต่ไม่ใช่กับเขา และ Naomi ก็มีด้านน่าชื่นชมที่เธอยอมรับผิด ทั้งยังพยายามแก้ไขปรับปรุงในสิ่งที่ได้ทำลงไป
ชูใจอยากให้ทุกคนใช้โซเชียลมีเดียอย่างมีสติ และเกิดประโยชน์ เพราะเราต้องไม่ลืมว่า สิ่งที่เราพูดหรือพิมพ์ออกไปนั้นมันจะส่งผลย้อนกลับมาหาเราแน่นอน เหมือนที่พระคัมภีร์ได้บอกเอาไว้ว่า “เพราะเราทุกคนทำผิดพลาดไปหลายๆ อย่าง ถ้าผู้ใดมิได้ทำผิดทางวาจา ผู้นั้นก็เป็นคนดีรอบคอบแล้ว และสามารถบังคับทั้งตัวไว้ได้ด้วย … เช่นนั้นแหละ ลิ้นเป็นอวัยวะเล็กๆ ด้วย และพูดอวดอ้างการใหญ่ จงดูเถิดไฟนิดเดียวอาจเผาไหม้มากเท่าใด และลิ้นนั้นก็เป็นไฟ” – (ยากอบ 3 : 2,5-6)
“ความตายความเป็นอยู่ที่อำนาจของลิ้น และบรรดาผู้ที่รักมันก็จะกินผลของมัน” – (สุภาษิต 18:21)
อ้างอิง :
– บล็อกของ คุณ Hoomer Hickam : https://homerhickamblog.blogspot.com/2018/08/social-media.html?m=1
– ข่าวเรื่องการปลดเจ้าหน้าที่ฝึกงานนาซ่า : http://observer.com/2018/08/nasa-internship-homer-hickam-twitter/
– ข่าวการปลดผู้กำกับฮอลลีวูด : https://news.thaiware.com/14309.html
Related Posts
- Author:
- Blogger ผู้มากความสามารถในงานเขียน เป็นคริสเตียนที่เรียนสังคมวิทยา ฯ มาอย่างโชกโชน สเตตัสปัจจุบันเป็นนักเขียนอิสระ และ รับใช้พระเจ้าไปด้วย :)
- Illustrator:
- Perapat T.
- Blogger ผู้มากความสามารถในงานเขียน เป็นคริสเตียนที่เรียนสังคมวิทยา ฯ มาอย่างโชกโชน สเตตัสปัจจุบันเป็นนักเขียนอิสระ และ รับใช้พระเจ้าไปด้วย :)
- Editor:
- Emma C.
- เด็กสาวหน้านิ่งจากเมืองกรุง มุ่งหน้าใช้ชีวิตในเมืองเหนือ พระเจ้านำให้ได้มาทำงานกับชูใจ เธอผู้นี้มีความสามารถหลากหลาย ทั้งวาดภาพ เขียน เรียบเรียง และเอาขามาพาดคอระหว่างนั่งทำงาน เธออินกับการสะกดคำให้ถูกต้องตามราชบันฑิตฯ และมีรสนิยมวินเทจผิดจากความเป็นเจนวาย เป็นหนึ่งใน Avenger ทีมบก.ที่จะมาช่วยชูใจผู้อื่นกัน