เด็กฝึกงานนาซ่าถูกปลด

EP. 64

ทวิตพลาดชีวิตพัง : บทเรียนของสาวนาซ่าจากโลกโซเชียล


 

“เพราะเราทุกคนทำผิดพลาดไปหลายๆ อย่าง ถ้าผู้ใดมิได้ทำผิดทางวาจา

ผู้นั้นก็เป็นคนดีรอบคอบแล้ว”  – (ยากอบ 3:2)

_____________________________________

 

ปลดกลางอวกาศ

เพิ่งสมัครงานผ่านยังไม่ทันได้เริ่มทำงานที่ฝันเลย … เรียกได้ว่าเป็นบทเรียนราคาแพงที่แสนเจ็บปวดสำหรับผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งซึ่งใช้ชื่อว่า Naomi H ที่ได้โพสต์ข้อความลงในทวิตเตอร์ส่วนตัวของเธอในช่วงกลางเดือนสิงหาคม 2018 หลังจากได้รับการตอบรับเข้าเป็นเจ้าหน้าที่ฝึกงานของ NASA (องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติอเมริกา) ต้นเหตุของเรื่องวุ่นวายนั้นเกิดจากการที่เธอโพสต์ข้อความที่ไม่ค่อยจะสู้ดีลงทวิตเตอร์ของเธอว่า

 

“Every one shut the f_ _ _  up I got accepted for NASA internship”

หรือแปลทำนองว่า  “หุบปากไปซะ ฉันได้รับเข้าฝึกงานที่ NASA”

 

Naomi H

 


ไม่นานนักคำเปรี้ยวๆ ที่ดูเกรี้ยวกราดนี้ ก็ถูกคุณลุงคนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Homer Hickam

เข้ามาเขียนเตือนสั้นๆ ว่า “Language” หรือ “ระวังภาษาหน่อยนะ”

 

 

_____________________________________

เขาผู้ยับยั้งริมฝีปากของตนเป็นผู้หยั่งรู้

(สุภาษิต10:19)

_____________________________________

 

 

อาจเนื่องด้วยเธอมีความมั่นใจในสติสัมปชัญญะ ฮึกเหิม คึกคะนอง หรือเพราะเป็นทวิตส่วนตัวจึงต้องการปกป้องพื้นที่อย่างไรก็ไม่อาจทราบได้ เจ้าของโพสต์ซึ่งเป็นผู้หญิงโพสต์ตอบด้วยความคะนองเกี่ยวกับสิ่งบางสิ่งที่ผู้หญิงไม่มี ด้วยคำพูดคำจาที่หยาบคายไปอีกระดับ

 

NASA Internship

 

หลังจากโพสต์ข้อความชวนขนลุกเสร็จหญิงสาวก็ทิ้งท้ายสวยๆ ด้วยคำว่า “…ฉันทำงานให้นาซ่านะเหวย” ทางด้านคุณลุงแปลกหน้าตอบกลับมานิ่งๆ แต่อ่านแล้วเจ็บจี๊ดว่า  “ส่วนลุงอยู่ในสภาอวกาศที่ทำหน้าที่กำกับดูแลนาซ่าอีกทีน่ะ” (สภาอวกาศเป็นหนึ่งในสภาที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิที่ทำงานให้คำปรึกษากับประธานธิบดีสหรัฐฯ โดยตรง เพราะอเมริกาต้องการเป็นผู้นำทั้งในโลกและจักรวาล)

 

…และนั่นเป็นบทสนทนาสุดท้าย ก่อนที่จักรวาลของ Naomi H จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป…

 

________________________________________________________

“ถ่านเป็นเชื้อเพลิง และฟืนเป็นเชื้อไฟฉันใด
คนที่มักทะเลาะวิวาทก็เป็นเชื้อการวิวาทฉันนั้น” 

(สุภาษิต 26:21)

________________________________________________________

 

เหตุการณ์ยิ่งเลวร้ายไปกว่านั้นเพราะบัญชีทวิตเตอร์ของ Naomi H มีผู้ติดตามเยอะอยู่พอสมควรเนื่องจากเธอเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้นิยมเฟอร์รี่ (Furry Fandom) กลุ่มโอตาคุแบบหนึ่งซึ่งชอบตัวการ์ตูนสัตว์มีขนที่มีลักษณะคล้ายมนุษย์ (นึกถึงโซนิคเจ้าเม่นสายฟ้า หรือสาวหูแมวก็แล้วกันครับ) พอเห็นเจ้าของโพสต์ตอบกลับคุณลุงจอมยุ่งไปดุเดือดแบบนั้นบรรดาผู้ติดตามของเธอจึงร่วมด้วยช่วยกันเข้าไปเย้ยหยัน ล้อเลียน และทำการกลั่นแกล้งผ่านโซเซียลมีเดีย (Cyber Bully) คุณลุงกันอย่างสนุกสนานจนเรื่องบานปลายไม่ต่างกับไฟลามทุ่ง

 

Furry NASA

 

ไม่นาน Naomi H ก็ถูกปลดออกจากการฝึกงานที่ NASA

 

ส่วน Hoomer Hickam ก็ได้โพสต์ลง Blog ส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยว่าเขาไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในการปลด Naomi H ออกจากงานเลย อันที่จริงเพิ่งมารู้ทีหลังด้วยซ้ำ ทั้งนี้หน้าที่ตำแหน่งของเขาไม่มีความเกี่ยวข้องกับการรับสมัครหรือปลดเจ้าหน้าที่คนใดใน NASA และได้ลองสอบถามไปยังผู้เกี่ยวข้องจึงทราบว่าคนใน NASA ตามไปเจอ Tag ใน Twitter เอง จึงได้ดำเนินการปลดเธอออกจากการฝึกงาน เรียกว่าเป็นการวางยาตัวเองแท้ๆ

 

ใครมันจะไปรู้เล่าว่า …

 

คุณลุง Hoomer Hickam นั้นไม่ใช่แค่ผู้ทรงคุณวุฒิในวงการอวกาศและการบินของอเมริกาเท่านั้น แต่เขาคือวิศวกรในตำนาน “October sky” ของนาซ่า ที่เริ่มต้นความสนใจเรื่องอวกาศโดยการสร้างจรวดที่สวนหลังบ้านของเขา กลุ่มของเขาถูกเรียกว่าเป็น Rocket boys เรื่องราวของเขาเคยถูกทำเป็นภาพยนตร์มาแล้วในปี 1999 และอัตชีวประวัติของเขายังเป็นหนังสือขายดีของเดอะนิวยอร์กไทม์เบสเซลเลอร์อีกด้วย (แต่คนในนาซ่าหลายคนน่าจะรู้นะ)

 

October Sky movie

October Sky Hoomer Hickamภาพจากหนังเรื่อง October sky (1999) ซึ่งได้ เจค จิลเลินฮาล มารับบทเป็น Hoomer Hickam
ผู้คลั่งไคล้การสร้างจรวด นักเรียนที่มีพ่อเป็นคนงานเหมืองซึ่งต่อสู้เพื่อให้ได้ทุนวิทยาศาสตร์

 

เรียกว่าพังในพังทีเดียวสำหรับ Naomi H ที่เจอแจ๊คพอตซะแล้วแหละ

 

ใน blog ส่วนตัวของลุงในหัวข้อชื่อ Social Media ยังเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและบอกว่า เขาไม่ได้ติดใจเรื่องคำว่า F _ _ _ แต่อย่างไร เพราะเขาเคยเป็นหนึ่งในทหารสงครามเวียดนามและแน่นอนว่าคำแบบนี้ไม่ได้ส่งกระทบต่อเขา เพียงแต่การเขียนข้อความสั้นๆ นั้นก็เพื่อเตือนว่ามันจะไม่เป็นการดีต่อผู้โพสต์หากมีใครในองค์กรมาเห็น เพราะมีคำๆ นั้นกับคำว่า NASA อยู่ด้วยกัน หลังจากโพสต์แล้วเขาก็ทิ้งข้อความไว้อย่างนั้นไม่ได้สนใจอะไร เพิ่งมารู้ทีหลังว่าเธอถูกไล่ออก

 

โลกโซเชียลนั้นไม่ใช่จะเขียนอะไรลงไปก็ได้นะ เพราะมันมีความเป็นสาธารณะอยู่ ใครเขาจึงเรียกกันว่าโลก Social (สังคม) ไม่ใช่โลก Private (ส่วนบุคคล) ไงล่ะดังนั้นต้องรอบคอบเรื่องการแสดงออกให้ดี

 

หลังเหตุการณ์ทั้งหมด Naomi H  และคุณลุง Hoomer ได้ทำการติดต่อและพูดคุยขอโทษซึ่งกันและกัน ถึงจะเป็นคำขอโทษที่ไม่ได้มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว แต่คุณลุงก็ไม่ได้ผูกใจเจ็บอะไรเลย อีกทั้งหลังได้ดูใบสมัครงานของเธอแล้วยังกล่าวอีกว่า “หลังจากผมได้เห็นประวัติของเธอแล้วผมบอกได้เลยว่าความสามารถของเธอเหมาะสมทุกประการที่จะทำงานวิศวกรรมการบินและอวกาศ และผมจะพยายามช่วยให้เธอได้รับมากกว่าในสิ่งที่เธอต้องเสียไป” และเขายังช่วยพูดคุยกับผู้เกี่ยวข้องให้เธอไม่ต้องถูกบันทึกเรื่องนี้ให้เสียประวัติ  อย่างไรก็ตามความหวังในการได้ทำงานใน NASA ของ Naomi H ครั้งนี้ก็ต้องถูกพับไปและอาจไม่เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ แม้ว่าอนาคตอาจมีคำตอบใหม่ให้ แต่ Naomi H ก็คงได้เรียนรู้อะไรอีกหลายอย่างและไม่มีวันลืมเหตุการณ์ในครั้งนี้แน่ๆ

 

ทั้งนี้ Naomi H ได้ทำการปิดบัญชีทวิตเตอร์ดังกล่าว และตัดสินใจทิ้งบรรดาผู้ติดตามที่มีส่วนสร้างความพังในเหตุการณ์นี้ไว้เบื้องหลัง #ขอให้เธอสู้ต่อไปนะ #Fighting!

 

เหตุการณ์แบบนี้มีให้เราเห็นกันบ่อยๆ ทั้งเรื่องของคำพูดหรือการพิมพ์ และไม่ว่าจะเกิดในโลกจริงหรือโลกโซเชียลมันก็มักย้อนกลับมาส่งผลกับเราเสมอ ไม่มีใครที่จะทำให้เราเสียหายหรือเป็นพยานปรักปรำเราได้เท่ากับคำพูดของเราเอง  ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ผู้กำกับ gadian of the galaxy ถูกปลดก่อนหน้านี้เพราะเคยโพสต์ข้อความมุกตลกใต้สะดือเกี่ยวกับเด็กและการข่มขืนเมื่อหลายปีก่อนที่โดนขุดขึ้นมา หรือกรณีอื่นๆ มากมาย

 

  • เราทุกคนต่างต้องรับผิดชอบกับคำพูดทุกอย่างที่เราพูดหรือพิมพ์ออกไป ไม่มีสิ่งใดที่จะถูกปิดซ่อน และเราจะต้องรับผิดชอบต่อทุกสิ่งที่เราได้ทำหรือพิมพ์ 
  • คำเดียวอาจส่งผลทั้งชีวิต แม้ประโยคๆ เดียวหรือคำเดียวที่ถูกกาลเทศะหรือผิดกาลเทศะก็ทำให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปได้  
  • ลิ้นและนิ้วมือเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ #โลกโซเชียลก็เช่นกัน เราคุมอะไรไม่ได้เลยแม้กระทั่ง Follower ของเราก็ตาม 
  • แต่ในทุกบทเรียนราคาแพงอาจมีโอกาสซ่อนอยู่ ไม่ใช่ทุกคนที่จะดีกับเราเมื่อเราทำไม่ดีกับเขา Hoomer อาจตั้งต้นมาจากคนที่มีความฝันเรื่องอวกาศและการบิน เขาจึงเข้าใจหัวอกของ Naomi H และช่วยเหลือเธอ อาจมีคนอีกมากมายที่ใช้อำนาจในการลบเธอจากวงการนี้ แต่ไม่ใช่กับเขา และ Naomi ก็มีด้านน่าชื่นชมที่เธอยอมรับผิด ทั้งยังพยายามแก้ไขปรับปรุงในสิ่งที่ได้ทำลงไป

 

ชูใจอยากให้ทุกคนใช้โซเชียลมีเดียอย่างมีสติ และเกิดประโยชน์ เพราะเราต้องไม่ลืมว่า สิ่งที่เราพูดหรือพิมพ์ออกไปนั้นมันจะส่งผลย้อนกลับมาหาเราแน่นอน เหมือนที่พระคัมภีร์ได้บอกเอาไว้ว่า “เพราะเราทุกคนทำผิดพลาดไปหลายๆ อย่าง ถ้าผู้ใดมิได้ทำผิดทางวาจา ผู้นั้นก็เป็นคนดีรอบคอบแล้ว  และสามารถบังคับทั้งตัวไว้ได้ด้วย … เช่นนั้นแหละ ลิ้นเป็นอวัยวะเล็กๆ ด้วย และพูดอวดอ้างการใหญ่ จงดูเถิดไฟนิดเดียวอาจเผาไหม้มากเท่าใด และลิ้นนั้นก็เป็นไฟ” – (ยากอบ 3 : 2,5-6)

 

ชูใจ

ความตายความเป็นอยู่ที่อำนาจของลิ้น และบรรดาผู้ที่รักมันก็จะกินผลของมัน” – (สุภาษิต 18:21)

 


 

อ้างอิง :

– บล็อกของ คุณ Hoomer Hickam : https://homerhickamblog.blogspot.com/2018/08/social-media.html?m=1

– ข่าวเรื่องการปลดเจ้าหน้าที่ฝึกงานนาซ่า : http://observer.com/2018/08/nasa-internship-homer-hickam-twitter/

– ข่าวการปลดผู้กำกับฮอลลีวูด : https://news.thaiware.com/14309.html


Previous Next

  • Author:
  • Blogger ผู้มากความสามารถในงานเขียน เป็นคริสเตียนที่เรียนสังคมวิทยา ฯ มาอย่างโชกโชน สเตตัสปัจจุบันเป็นนักเขียนอิสระ และ รับใช้พระเจ้าไปด้วย :)
  • Illustrator:
  • Perapat T.
  • Blogger ผู้มากความสามารถในงานเขียน เป็นคริสเตียนที่เรียนสังคมวิทยา ฯ มาอย่างโชกโชน สเตตัสปัจจุบันเป็นนักเขียนอิสระ และ รับใช้พระเจ้าไปด้วย :)
  • Editor:
  • Emma C.
  • เด็กสาวหน้านิ่งจากเมืองกรุง มุ่งหน้าใช้ชีวิตในเมืองเหนือ พระเจ้านำให้ได้มาทำงานกับชูใจ เธอผู้นี้มีความสามารถหลากหลาย ทั้งวาดภาพ เขียน เรียบเรียง และเอาขามาพาดคอระหว่างนั่งทำงาน เธออินกับการสะกดคำให้ถูกต้องตามราชบันฑิตฯ และมีรสนิยมวินเทจผิดจากความเป็นเจนวาย เป็นหนึ่งใน Avenger ทีมบก.ที่จะมาช่วยชูใจผู้อื่นกัน