คำสารภาพของเพื่อนในจินตนาการ รีวิว

EP. 2

คำสารภาพของเพื่อนในจินตนาการ [อ่านมาเล่า]


ชื่อหนังสือ : คำสารภาพของเพื่อนในจินตนาการ (Confessions of an Imaginary Friend)

ผู้แต่ง: Michelle Cuevas

แนวหนังสือ: วรรณกรรมเยาวชน

ภาพประกอบจากหนังสือเรื่อง: คำสารภาพของเพื่อนในจินตนาการ (2017)

 


 

อ่านมาเล่า ชุด วรรณกรรมเยาวชน วันนี้ขอหยิบ…

Confessions of an Imaginary Friend หรือ คำสารภาพของเพื่อนในจินตนาการ ซึ่งเป็นวรรณกรรมที่ได้รับคัดเลือกจากนิตยสาร TIME ให้เป็น “1 ใน 10 วรรณกรรมเยาวชนที่ดีที่สุดของปี 2015” มีคุณค่าในการเยียวยาจิตใจทั้งกับเด็กและผู้ใหญ่ โดยเล่าเรื่องผ่านบันทึกความทรงจำของเด็กชาย มาเล่าให้ฟัง

 

*บทความนี้เป็นการวิเคราะห์หลังอ่าน จึงมีการเปิดเผยเนื้อหาของเรื่องเกือบทั้งหมด
ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการทราบรายละเอียดของเรื่อง

 

_________________________________

 

เรื่องย่อ:

 

ฌากส์ ปาปีเย เด็กชาย 8 ขวบ ผู้เป็นเจ้าของเรื่องรู้สึกว่าเขาไร้ตัวตนในสายตาของคนรอบข้าง ยกเว้นเพียงแค่แม่ พ่อ และพี่สาวฝาแฝด เพราะเขาไม่เคยถูกเลือกเข้าทีมคิกบอลที่โรงเรียน คุณครูไม่เรียกเขาตอบคำถามทั้งที่โบกมือไปมา คนขับรถปิดประตูใส่หน้า ฯลฯ

 

สถานการณ์ทั้งหลายทำให้ฌากส์เข้าใจว่าทุกคนบนโลกเกลียดเขา ยกเว้นก็แต่ เฟลอร์ พี่สาวฝาแฝดที่สนิทกับเขาที่สุด–สนิทกระทั่งเข้าใจความคิดของกันและกันโดยไม่ต้องพูด และเขาก็รู้สึกว่าเฟลอร์เป็นคนเดียวที่มองเห็นตัวเขาจริงๆ อย่างที่คนอื่นบนโลกมองไม่เห็น แต่แล้วเรื่องราวทั้งหมดก็เปลี่ยนไปเมื่อเขาแอบได้ยินพ่อกับแม่คุยกันว่าเฟลอร์มีเพื่อนในจินตนาการ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเรื่องที่เขาไม่รู้

 

ไม่นานนัก เขาได้พบกับเด็กผู้หญิงสวมชุดคาวบอยที่บอกว่าตัวเองเป็น “เพื่อนในจินตนาการ” ของเด็กอีกคนหนึ่ง และที่สำคัญคือเด็กหญิงคนนั้นบอกความจริงกับฌากส์ว่าเขาก็เป็นเพื่อนในจินตนาการเช่นกัน เมื่อฌากส์เข้าใจว่าตัวเองเป็นเพียงเพื่อนในจินตนาการที่ไม่มีตัวตนของเฟลอร์ เขาจึงขอให้เธอปลดปล่อยเขาเป็นอิสระเพื่อออกผจญภัยไปในโลกกว้าง และลงเอยกับ “เพื่อนเจ้าของจินตนาการ” หลายต่อหลายคน

 

จนในที่สุดเขาก็มองเห็น “ตัวตน” ของตัวเอง

 

_____________________________

ถ้าจะให้กล่าวถึงทุกประเด็นในหนังสือคงไม่อาจจบได้ในความยาวที่ถูกกำหนดไว้

ดังนั้นผู้เขียนจึงขอกล่าวถึงเพียงเรื่องที่สนใจโดยสังเขป

 

 

เพื่อนในจินตนาการ

 

ในหนังสือให้คำนิยาม “เพื่อนในจินตนาการ” ว่า บุคคลที่คุณชอบและมีความสุขที่ได้อยู่ด้วย แต่ไม่มีตัวตนจริง หรือบุคคลที่ช่วยเหลือหรือสนับสนุนใครบางคน มีตัวตนอยู่แค่ในจิตใจหรือจินตนาการเท่านั้น

 

ในทางจิตวิทยา การสร้างเพื่อนในจินตนาการมักเกิดขึ้นกับเด็กก่อนวัยเรียนซึ่งกำลังมีพัฒนาการด้านต่างๆ แม้จะไม่ใช่เด็กทุกคนที่ทำ แต่การสร้างเพื่อนในจินตนาการก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด ซึ่งสาเหตุของการสร้างเพื่อนไร้ตัวตนขึ้นมามักเกิดจากการได้รับความอบอุ่นไม่เพียงพอจากครอบครัว การเป็นลูกคนเดียว ลูกคนโต หรือเด็กที่มีพี่น้องอายุห่างกันมาก จึงสร้างเพื่อนเพื่อเติมเต็มบางสิ่งบางอย่าง

 

เฟลอร์ ก็เช่นกัน เธอเติบโตมาเป็นลูกคนเดียวในครอบครัวที่พ่อแม่ต่างก็ยุ่งอยู่กับการทำงานทำให้ความต้องการความรักความเข้าใจจากใครสักคนสะท้อนออกมาผ่านตัวตนของฌากส์–เพื่อนในจินตนาการที่เธอกำหนดให้ “เพื่อนตาย” คนนี้เป็นพี่น้องฝาแฝดผู้มีความคิดความรู้สึกเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งถึงกัน

 

“เพื่อนเที่ยวก็มี แต่เพื่อนตายที่สนิทยิ่งกว่าพี่น้องก็มี”

(สุภาษิต 18:24)

 

ตามพระคัมภีร์ ความรักเป็นสิ่งพื้นฐานที่มนุษย์ต่างโหยหา ทั้งนี้ก็เพราะพระเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้นเป็นคู่ (ปฐมกาล 2:18) และให้อยู่ร่วมกันเป็นสังคม (ปฐมกาล 1:27) ดังนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหากเด็กจะใช้จินตนาการเติมเต็มความปรารถนาในรูปแบบของเพื่อนสมมติ ไม่ใช่เรื่องที่ควรเป็นกังวลแต่อย่างใดเพราะตามปกติแล้วการมีเพื่อนสมมตินี้จะหายไปเองเมื่อตัวเด็กโตขึ้น

 

มิตรสหายก็มีความรักอยู่ทุกเวลา – สุภาษิต 17:17

 

 

ปก คำสารภาพของเพื่อนในจินตนาการ

 

เพื่อนที่มองไม่เห็น แต่สัมผัสได้

 

“แค่เพราะเธอไม่มีตัวตนจริง ไม่ได้หมายความว่าเธอไม่ได้มีจริงนะ”

 

คล้ายกับอากาศที่มองไม่เห็น จับต้องไม่ได้ แต่สัมผัสรับรู้ได้ว่ามีอยู่จริง ประโยคคำพูดข้างต้นนี้พยายามเปรียบเทียบให้ผู้อ่านเข้าใจว่าเพื่อนในจินตนาการมีจริง อย่างน้อยก็ในจินตนาการของคนคนหนึ่ง

 

ในมุมมองของคริสเตียน พระเจ้าก็เป็นอย่างนั้น (มองไม่เห็น แต่สัมผัสได้) เพียงแต่พระองค์ไม่ใช่ในจินตนาการของใครสักคน พระองค์ทรงเป็นอยู่ และแม้มนุษย์จะไม่สามารถมองเห็น แต่ก็ยังสามารถใช้ “ตาใจ” ในการสัมผัสรับรู้ถึงพระองค์ได้ (เอเฟซัส 1:18)

 

 

 

เพื่อนที่ดี

 

“เหล็กลับเหล็กได้ คนหนึ่งก็ลับเพื่อนของตนได้”

(สุภาษิต 27:17)

 

จากในหนังสือ ฌากส์ออกผจญภัยด้วยการเปลี่ยนเจ้าของจินตนาการไปเรื่อยๆ ซึ่งมิเชลล์ผู้เขียนหนังสือกำหนดให้เด็กแต่ละคนมีบุคลิกลักษณะและสิ่งที่จำเป็นต้องพัฒนาแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาทางด้านอารมณ์ การเข้าสังคม หรือความรับผิดชอบ โดยให้ฌากส์เป็นผู้ช่วยในการพัฒนาเหล่านั้น

 

ทางจิตวิทยาพบว่า การมีเพื่อนในจินตนาการในวัยที่เหมาะสมมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย จุดเด่นของข้อดีในการพัฒนาศักยภาพด้านต่างๆ คือจะช่วยให้ตัวเด็กสามารถจัดการกับประสบการณ์ต่างๆ ในชีวิตได้โดยมีเพื่อนอยู่เคียงข้างและทำให้รู้สึกสบายใจ

 

“สองคนดีกว่าคนเดียวด้วยว่าถ้าคนหนึ่งล้มลง อีกคนหนึ่งจะได้พยุงเพื่อนของตนให้ลุกขึ้น”

(ปัญญาจารย์ 4:9-10)

 

 

เพื่อนที่มองดูเราอยู่เสมอ

 

“นี่เป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ต้องการ การมีคนรู้จักในลักษณะนั้น มีคนมองเห็น

ผมไม่ได้หมายถึงผมเผ้าหรือเสื้อผ้าของเรา

ผมหมายถึง “เห็น” ในสิ่งที่เราเป็นจริงๆ

เราทุกคนอยากเจอหนึ่งเดียวคนนั้นที่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเรา

ความเพี้ยนนานัปการของเรา และยังคงเข้าใจเราอยู่ดี

คุณเคยมีใครที่เห็นคุณหรือยัง

เห็นส่วนที่ถ่องแท้ที่สุด ลึกล้ำที่สุด

ซึ่งดูเหมือนคนอื่นๆ ที่เหลือบนโลกจะมองไม่เห็นเลย”

 

นี่คือส่วนลึกจากความปรารถนาของฌากส์ที่ต้องการความรัก การยอมรับ และความเข้าใจในการเป็นตัวเอง ซึ่งเป็นประเด็นหลักของหนังสือที่ต้องการจะสื่อถึงการค้นหาตัวตน

 

ผู้เขียนบทความเองก็เชื่อว่าในส่วนลึกของมนุษย์ทุกคนล้วนต้องการการมองเห็นและการยอมรับ ไม่เพียงในวัยเด็ก แต่ความต้องการนี้จะยังคงอยู่ไปจนโต และวันหนึ่งเพื่อนในจินตนาการก็ไม่อาจเติมเต็มความต้องการของเราอีกต่อไปได้

 

อันที่จริง พระเจ้า เป็นผู้เดียวที่มีคุณสมบัติครบถ้วนอย่างที่มนุษย์ต้องการ ทั้งการรู้จักโดยไม่ตัดสิน ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งยิ่งกว่าที่มนุษย์ผู้นั้นจะเข้าใจ และมองเห็นในส่วนที่ถ่องแท้ที่สุด ลึกล้ำที่สุด อย่างที่ไม่มีใครบนโลกจะทำได้

 

กล่าวได้ว่าพระเจ้าคือเพื่อนที่มองดูเราอยู่เสมอ และพระองค์รู้จักตัวตนของเราเป็นอย่างดี

 

“เราจะแนะนำและสอนเจ้าถึงทางที่เจ้าควรจะเดินไป

เราจะให้คำปรึกษาแก่เจ้าด้วยจับตาเจ้าอยู่”

(สดุดี 32:8)

 

______________________________

 

“เราไร้คนมองเห็นแค่เท่าที่ตัวเราเองรู้สึก ไม่ว่าเราจะเป็นจินตนาการหรือไม่ก็ตาม”

 

ประโยคหลังปกของหนังสือเล่มนี้ที่ว่าเราไร้คนมองเห็นแค่เท่าที่ตัวเราเองรู้สึกนั้นไม่ได้เกินจริงแต่อย่างใด หลายครั้งที่คริสเตียนเองก็อาจรู้สึกไร้ตัวตน สิ่งนี้เกิดขึ้นกับมนุษย์แทบทุกคนเป็นเรื่องปกติ แต่ผู้เขียนขอหนุนใจให้พึงตระหนักอยู่เสมอว่า เราไม่ไร้ตัวตนเลยในสายตาของพระเจ้าผู้มองดูและอยู่เคียงข้างเราเสมอ 

 

“พระเจ้าทรงเป็นเพื่อนแท้ที่มีอยูู่จริง ไม่ใช่เพียงในจินตนาการ”

 

ทั้งนี้ก็เพราะเขาเป็นเพื่อนสนิทที่ฉันไว้ใจได้ (มาลาคี 3:6) เรียกหาได้ทุกเมื่อกระทั่งยามลำบาก (สดุดี 46:1) รู้จักฉันดียิ่งกว่าที่ฉันรู้จักตัวเอง (สดุดี 139:1-10) เขาคอยรับฟังทุกอย่าง (สดุดี 55:17) และเข้าใจทุกอย่าง (สดุดี 139:23) อีกทั้งยังคอยตักเตือนเสมอ (สุภาษิต 3:12) ดูแลปกป้องด้วยความห่วงใยเสมอ (1 เปโตร 5:7) เพื่อนสนิทคนนี้ให้อภัยฉันทุกเรื่อง แม้ในขณะที่ฉันไม่สามารถให้อภัยตัวเอง (1 ยอห์น 1:9) เขาทำให้ฉันมั่นใจได้ว่าเขาจะอยู่เคียงข้าง จะไม่มีวันจากไปไหน (ฮีบรู 13:5) ที่สำคัญคือ เขาเป็นเพื่อนที่รักฉันอย่างที่จะไม่มีใครบนโลกนี้รักได้อีก (ยอห์น 3:16) และเขาเป็นตัวเลือกเดียวของความสัมพันธ์ที่ไม่มีวันหมดอายุ แต่จะคงอยู่ตลอดไป (โรม 8:38-39)

 

 

ที่ ฌากส์ เล่าในหนังสือว่าเราทุกคนอยากเจอหนึ่งเดียวคนนั้นที่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเรา
…ความจริงเราทุกคนก็มีคนๆ นั้นอยู่ในใจ และเค้าไม่ได้อยู่ในจินตนาการ

 

__________________________________

 

บทความอ้างอิง:

 

 


พบกันทุกวันพฤหัสฯต้นเดือนกับ คอลัมน์อ่านมาเล่า:ชุดวรรณกรรมเยาวชน คอลัมน์วิพากษ์หลังอ่านที่จะหยิบยกหนังสือสำหรับผู้ใหญ่วัยเยาว์มาเปิดกว้างโลกทรรศน์เพื่อส่งเสริมการใช้วิจารณญาณและการคิดวิเคราะห์แยกแยะตามหลักพระคัมภีร์ ให้คริสเตียนไทยใช้ชีวิตบนโลกปัจจุบันได้อย่างเข้าใจและเปิดกว้าง <3


Previous Next

  • Author:
  • เด็กสาวหน้านิ่งจากเมืองกรุง มุ่งหน้าใช้ชีวิตในเมืองเหนือ พระเจ้านำให้ได้มาทำงานกับชูใจ เธอผู้นี้มีความสามารถหลากหลาย ทั้งวาดภาพ เขียน เรียบเรียง และเอาขามาพาดคอระหว่างนั่งทำงาน เธออินกับการสะกดคำให้ถูกต้องตามราชบันฑิตฯ และมีรสนิยมวินเทจผิดจากความเป็นเจนวาย เป็นหนึ่งใน Avenger ทีมบก.ที่จะมาช่วยชูใจผู้อื่นกัน
  • Illustrator:
  • Emma C.
  • เด็กสาวหน้านิ่งจากเมืองกรุง มุ่งหน้าใช้ชีวิตในเมืองเหนือ พระเจ้านำให้ได้มาทำงานกับชูใจ เธอผู้นี้มีความสามารถหลากหลาย ทั้งวาดภาพ เขียน เรียบเรียง และเอาขามาพาดคอระหว่างนั่งทำงาน เธออินกับการสะกดคำให้ถูกต้องตามราชบันฑิตฯ และมีรสนิยมวินเทจผิดจากความเป็นเจนวาย เป็นหนึ่งใน Avenger ทีมบก.ที่จะมาช่วยชูใจผู้อื่นกัน
  • Editor:
  • Perapat T.
  • Blogger ผู้มากความสามารถในงานเขียน เป็นคริสเตียนที่เรียนสังคมวิทยา ฯ มาอย่างโชกโชน สเตตัสปัจจุบันเป็นนักเขียนอิสระ และ รับใช้พระเจ้าไปด้วย :)