“ผู้หญิงจะลืมบุตรที่ยังกินนมของนาง และจะไม่เมตตาบุตรชายจากครรภ์ของนางได้หรือ
แม้ว่าคนเหล่านี้ยังลืมได้ กระนั้นเราก็จะไม่ลืมเจ้า” – (อิสยาห์ 49:15)
นอกจาก “คุณแม่ออฟเดอะแม่” แห่งประชาชาติอย่างเอวา และมารีย์แม่ของพระเยซูคริสต์ที่ขึ้นแท่น Hall of frame เป็นแม่ตัวอย่างแล้ว ยังมีแม่ไหนบ้างที่มีความเป็นแบบอย่างหรือมีชีวิตที่แสดงถึงความรัก? วันนี้ชูใจพามารู้จักกับคุณแม่น่ากราบทั้ง 5 ท่านที่มีชีวิตน่าสนใจจากพระคัมภีร์กันแบบฉากต่อฉาก
_______________________________________
อันดับ 5 : โยเคเบด
คนเป็นแม่ยังไงก็อยากดูแลลูกให้ดีที่สุด (อพยพ 1-2)
“คนเป็นแม่ซ่อนอะไรก็ซ่อนได้แต่ซ่อนความรักที่มีต่อลูกไม่ได้”
เรียกว่าเป็นหนึ่งมหากาฬในหนังสืออพยพที่คริสเตียนทุกคนต้องรู้จัก คุณแม่ในตำนานคนนี้ยอมฝ่าฝืนคำสั่งของกษัตริย์และเสี่ยงชีวิตเพื่อที่จะรักษาชีวิตลูกชายตัวน้อยไม่ให้ถูกจับไปฆ่า เนื่องด้วยฟาโรห์แห่งอียิปต์ในสมัยนั้นต้องการควบคุมประชากรทาสชาวฮีบรูโดยออกคำสั่งให้ทำการสังหารเบบี้บอยชาวฮีบรูทุกคนที่เกิดใหม่โดยการทิ้งลงแม่น้ำไนล์
นางโยเคเบคก็เลยซ่อนเด็กชายโมเสสเอาไว้ จนวันหนึ่งเมื่อไม่สามารถซ่อนได้อีกต่อไป สิ่งที่เธอทำก็คือนำลูกน้อยไปลอยน้ำ… แต่ไม่ใช่เป็นการลอยแพลูกตัวเองไปตามยถากรรมนะ มีการสานต้นกกเป็นตะกร้าแถมลงน้ำยาเคลือบกันซึมอย่างดี โดยให้มีเรียมพี่สาวตัวน้อยของเด็กชายเดินตามไปสังเกตการณ์ห่างๆ ตะกร้าไหลไปทางที่ธิดาฟาโรห์กำลังเล่นน้ำกับข้าราชบริพาน เพราะว่าโมเสสน่ารักธิดาฟาโรห์จึงรับเป็นบุตรบุญธรรม และมีเรียมได้เสนอให้ธิดาฟาโรห์หาแม่นมมาดูแลเจ้าชายน้อยโมเสส ซึ่งก็คือคุณแม่ตัวจริงนั่นเองนี่แหละนะ ลูกก็ได้เลี้ยงแถมได้เบี้ยเลี้ยงอีกต่างหาก แบบนี้เข้าทำนองอัฐยายซื้อขนมยายเลยล่ะ
อันดับ 4 : ฮันนาห์ แม่ของซามูเอล
แม่ที่รักษาสัญญาและเสมอต้นเสมอปลาย (1 ซามูเอล 1:1-27)
“ฝากให้เธอ…ช่วยดูแล”
เชื่อเถอะว่าผู้หญิงในสมัยก่อนใครๆ ก็อยากมีลูกทั้งนั้นเพราะเค้าเชื่อว่าเป็นการอวยพรจากพระเจ้า แต่ในพระคัมภีร์ก็มีผู้หญิงหลายคนที่เป็นหมัน “ฮันนาห์” แม่ชองซามูเอลก็ไม่มีลูกและโดนเมียคู่ (สามีมีภรรยาสองคนแบบเสมอภาค) ของสามีถากถางทุกปีเวลาเดินทางไปนมัสการพระเจ้าที่เมืองชิโลห์ พอโดนเข้าบ่อยๆ นางก็น้อยเนื้อต่ำใจจึงอธิษฐานขอลูกจากพระเจ้าฟูมฟายทั้งน้ำตา พระคัมภีร์บอกว่านางนอยมากอธิษฐานเหมือนคนเมาเหล้าเลย จนเอลีมหาปุโรหิตต้องเข้ามาถามว่า “เมาป่าว” เป็นอะไรมากไหม เธอสัญญากับพระเจ้าว่าจะถวายลูกให้ปรนนิบัติพระเจ้าเมื่อลูกโตขึ้นและเอลีก็อวยพรเธอ แถ่นแท้น!!!… คุณได้ลูกชาย ตั้งชื่อไปเลยว่า ซามูเอล แปลว่า “ทูลขอมาจากพระยาห์เวห์”
เธอดูแลลูกชายอย่างดีและใช้เวลาในวัยแรกเกิดกับเขาอย่างเต็มที่จนหลังจากหย่านม (ประมาณ 3 ขวบ) เด็กน้อยซามูเอลจึงได้มาปรนนิบัติพระเจ้าและคอยดูแลเอลีมหาปุโรหิตในเต้นท์ของพระเจ้า ทุกปีหลังจากนั้นเธอจะเดินทางมาเยี่ยมและนำเสื้อผ้าอาหารมาให้ลูกชายอย่างสม่ำเสมอไม่ขาด ในที่สุดก็ซามูเอลก็ได้กลายเป็นผู้เผยวัจนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของอิสราเอล
“แม้ว่าฮันนาห์จะไม่ได้อยู่กับลูกตลอดเวลา แต่เธอก็ใช้ทุกเวลาที่มีอย่างเต็มที่ และเสมอต้นเสมอปลายจนซามูเอลไม่ได้รู้สึกขาดความรัก และโตมาเป็นคนดียยยยย์ของสังคม”
อันดับ 3 : นาโอมี
แม่ที่มีความหวังดีแก่ลูกเสมอ (นางรูธ 1 : 6-22)
“เรื่องของแม่สามีกับลูกสะใภ้ ใครว่ามันจะต้องขุ้นข้องหมองใจกันล่ะ”
นาโอมี มีลูกชาย 2 คนแต่ช่างอาภัพนัก ทั้งสามีและลูกชายตายหมด แม้ว่านาโอมีและลูกสะใภ้ทั้ง 2 คนจะสูญเสียสามีและดำรงตำแหน่งแม่ม่ายไร้ที่พึ่งแต่นาโอมีก็แฟร์ๆ ยอมให้ลูกสะใภ้ทั้ง 2 คนกลับไปบ้านเกิดเพื่อแต่งงานเริ่มต้นชีวิตใหม่จะได้ไม่ต้องมาลำบากดูแลเธอ ด้วยความนางเอกนางรูธเลือกที่จะอยู่ดูแลแม่สามี
แม้นาโอมีกับนางรูธจะไม่ใช่แม่ลูกกันจริงๆ แต่ในพระคัมภีร์บอกกับเราเลยว่านางรูธรักนับถือนาโอมีเหมือนแม่แท้ๆ รวมทั้งนับถือพระเจ้าของนาโอมีให้เป็นพระเจ้าของตนเองด้วย แต่เพราะหญิงม่ายสมัยนั้นทำงานหาเลี้ยงตัวเองลำบากนางรูธก็เลยไปอาศัยเก็บรวงข้าวที่ตกในนาของเศรษฐีหนุ่มคนนึงชื่อโบอาสเพื่อประทังชีวิต
ทีแรกนางรูธก็ไม่ได้สนใจจะมีคนดูใจอะไรเพราะช่วงนี้ขอโฟกัสกับงานก่อน แต่คุณแม่นาโอมีเธอก็ตัดสินใจเลือกสิ่งดีๆ ให้กับนางรูธ และแล้วเรื่องราวโศกนาฏกรรมระทมขมชีวิตก็พลิกล็อคกลายเป็นหนังมนต์รักลูกทุ่งไปในทันใด“เชื่อแม่ ๆ แล้วมันจะดี”
อันดับ 2 : สองคุณแม่โสเภณีโนเนมแย่งกันเคลมว่านี่ลูกใคร?
ไม่มีแม่ที่ไหนอยากให้ลูกต้องเจ็บ (1พงศ์กษัตริย์3:16-28)
“เด็กคนนี้ลูกฉัน ลูกหล่อนน่ะตายแล้ว! ”
“ไม่ๆ ไม่จริงลูกฉันยังไม่ตาย ลูกเธอนั่นแหละตาย”
“ผ่าแบ่งกันเลย เอาไปคนละครึ่ง”
สมัยนั้นมันไม่มีตรวจ DNA นี่นา … เรื่องมีอยู่ว่ามีหญิงงามเมืองสองนาง อาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน เนื่องด้วยอาชีพชูวีดูวับของพวกเธอพวกเธอจึงท้องไม่มีสามี เรียกว่าเป็นซิงเกิ้ลมัมเต็มตัว ทีนี้ต่างคนก็ต่างคลอดลูกในเวลาไล่เลี่ยกันและมีคนไหนก็ไม่รู้ในสองคนนี้นอนเพลินทับลูกตัวเองตาย ทีนี้ก็ไม่รู้ว่านึกเสียดายหรืออะไรก็เลยสลับลูกกับอีกคน เรื่องก็เลยแดงร้อนไปถึงหูของกษัตริย์ซาโลมอนให้ช่วยตัดสินคดีให้ ต่างคนต่างเคลมว่าเด็กเป็นลูกของตัวเอง ซาโลมอนก็เลยสั่งให้คนไปเอาดาบมาผ่าแบ่งกันซะเลย (เป็นแผนพิสูจน์รักแท้) แม่ตัวจริงก็เลยร้องขอไว้ชีวิตเด็กเพราะสงสารลูก ส่วนแม่ตัวปลอมก็สวมบทบาทรักความยุติธรรม เรียกร้องให้แบ่งๆ ให้เท่าเทียมกันซะอย่างนั้น ลูกนะไม่ใช่เค้กจะตัดให้แบ่งๆ กันมันไม่ได้!
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คนเป็นแม่ถึงยังไงก็ไม่อยากให้ลูกเจ็บ แม้ว่าแม่จะจนหรือมีอาชีพอะไรแม่ก็รักของเข้าใจบ้างมั้ยแม่มีสิทธิ์จะรักไม่ผิดใช่มั้ย เหมือนโดนกรีดหัวใจถ้าเธอแย่งไปครอง…พอ!
อันดับ 1 : คุณแม่ชาวชูเนม
แม่ที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อลูก (2 พงศ์กษัตริย์ 4)
ผ่านไปหลายแม่แล้วที่ยอมทุกอย่างเพื่อให้ลูกของตัวเองไม่ต้องตาย แต่ถ้าลูกของตัวเองต้องตายล่ะคุณแม่ชาวชูเนมจะทำอย่างไร?
อันดับ 1 นี้เรียกว่าชีวิตดราม่าสุดขั้วหัวใจ เธอเป็นสตรีสูงศักดิ์ นิสัยดี คอยดูแลต้อนรับผู้รับใช้พระเจ้าอย่างเต็มที่ ดูเผินๆ ชีวิตนี้คงไม่ขาดอะไรยกเว้นเพียงแต่ไม่มีลูกชาย … ด้วยความซึ้งใจในมาตรฐานการบริการระดับ 5 ดาวของครอบครัวเธอ เอลีชาห์จึงอวยพรให้เธอและสามีให้มีลูกชาย
ยินดีด้วยคุณได้ลูกชาย!
เวลาผ่านไป วันดีคืนดีคุณชายน้อยก็วิ่งไปหาพ่อในทุ่งข้าวแล้วร้องว่า “เจ็บหัวจังๆ” แล้วก็ล้มลงไป ด้วยการป่วยไม่มีสาเหตุรวยแค่ไหนก็รักษาไม่ได้ คุณแม่ชาวชูเนมคนนี้ทำได้เพียงให้ลูกนั่งอยู่บนตักจนเวลาเที่ยงวันลูกชายของเธอก็มือหล่นหมดลมหายใจ ถ้าเป็นละครเพลงประกอบก็จะชะงักไปแล้วภาพจะสโลว์
เธอรีบขอสามีให้คนรับใช้ให้เตรียมลา แล้วควบลาตรงดิ่งไปหาเอลีชาห์โดยไม่รีรอ ไม่แม้จะห่วงว่าตัวเองจะเจ็บจากการเดินทางเต็มสปีด ขอให้ไปถึงให้ไวที่สุด เมื่อไปถึงเธอโผไปกอดขาผู้รับใช้พระเจ้าแล้วตัดพ้อว่าเธอไม่ได้ขอให้มีลูกทำไมมาอวยพรให้มีแล้วมาพรากไปแบบนี้ เธอบอกว่าเธอจะไม่ยอมไปไหนจนกว่าจะเอลีชาห์จะไปหาลูกไปกับเธอ สุดท้ายเพราะเหตุการณ์นี้เป็นมาจากพระเจ้าลูกชายของเธอจึงฟื้นขึ้น เธอทรุดลงแทบเท้าคนของพระเจ้าอีกครั้งและกราบแทบเท้าของเอลีชาห์
เพื่อช่วยชีวิตของลูกผู้หญิงคนนึงอาจยอมทำได้ทุกอย่าง แม้ว่าจะต้องขอร้องอ้อนวอนเธออย่าไป ทิ้งตัวลงคุกเข่ากอดขาเธอเอาไว้ พนมสองมือขึ้นกราบกรานใครก็ตาม นี่แหละเนื้อเพลงคุกเข่า … ไม่ใช่! นี่แหละหัวอกคนเป็นแม่ล่ะ
ไม่ว่าจะยังไง…อันดับที่ 1 ในใจเราทุกคน ก็คงเป็นคุณแม่ของเรานั่นเอง แน่นอนว่าแม่ทุกคนเป็นมนุษย์ อาจมีความผิดพลาด หรือขาดตกบกพร่อง แต่ด้วยหัวใจของคนเป็นแม่นั้นก็ยังเต็มล้นไปด้วยความรัก แม้ว่าท่านอาจจะมีข้อจำกัดที่ไม่เหมือนกัน
“แม่ทุกคนก็ย่อมรักลูกของตนในแบบที่ตัวเองสามารถทำได้อย่างดีที่สุด”
#ด้วยรักและรักแม่
Related Posts
- Author:
- Blogger ผู้มากความสามารถในงานเขียน เป็นคริสเตียนที่เรียนสังคมวิทยา ฯ มาอย่างโชกโชน สเตตัสปัจจุบันเป็นนักเขียนอิสระ และ รับใช้พระเจ้าไปด้วย :)
- Illustrator:
- Wilah
- เด็กสาวขี้อาย ชอบนอน รักแมว และมีภารกิจแจกความแฮปปี้ผ่านเพจ HappyHoly ของเธอ ลายเส้นภาพการ์ตูนที่สวยสะดุดตา ทำให้ต้องจีบมาร่วมชูใจกันนนน ขอแค่เลี้ยงชาเขียวก็พอ อะไรจะใจดีขนาดนี้ๆๆๆ