ผู้เขียน : Steve Johnson
บทความต้นฉบับ : www.ps.edu
คนเรามีสิ่งที่ต้องตัดสินใจเลือกอยู่เสมอๆ
ไม่ว่าจะเลือกกระดาษหรือพลาสติก? ดื่มชาหรือกาแฟ? จะเป็นผู้ตามหรือเป็นผู้นำ? ใส่ส้นสูงหรือผ้าใบ? กินแมคโดนัลด์หรือเคเอฟซี? หรือแม้กระทั่ง ฉันควรเป็นวิศวกรหรือศิลปินดี? การตัดสินใจบางอย่างก็เห็นได้ชัดอยู่แล้วว่าทำได้ง่ายกว่าการตัดสินใจอื่นๆ และ ‘ความสำคัญ’ ของทุกๆ การตัดสินใจก็มีความแตกต่างกัน แผนผังข้างล่างนี้ผมเขียนให้ไว้เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจและแยกแยะว่าสิ่งไหนคือน้ำพระทัยพระเจ้ากันแน่?
เป็นเรื่องที่ถูกศีลธรรมไหม?
การตัดสินใจส่วนมากเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับศีลธรรม ยกตัวอย่างเช่น ฉันควรจะใส่เสื้อสีแดงหรือเสื้อสีขาวดี? เพราะที่จริงการตัดสินใจส่วนใหญ่ในชีวิตประจำวันมักจะอยู่ในหมวดหมู่ที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องผิด-ถูกทางศีลธรรมอยู่แล้ว ซึ่งคนที่ขี้ลังเลจะมีแนวโน้มเข้าใจผิดว่าพระเจ้าให้เสรีภาพกับเราในการแค่ตัดสินใจ ‘เลือก’ เมื่อเป็นเรื่องที่ไม่ผิดศีลธรรม
เป็นเรื่องสำคัญหรือไม่สำคัญ?
ถ้าเรื่องที่จะต้องตัดสินใจเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับศีลธรรม แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่สำคัญและมีผลกระทบต่อชีวิตมาก ตัวอย่างเช่น ฉันควรจะเรียนมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ หรือที่เชียงใหม่ดี? คนที่ขี้ลังเลมักจะคิดมากเกินไปในการตัดสินใจเรื่องที่ไม่ค่อยสำคัญ หรือคนที่ตัดสินใจเร็วอาจจะต้องพิจารณาให้รอบคอบมากขึ้น การจะให้น้ำหนักกับการตัดสินใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่งก็คือ ลองใคร่ครวญถึงผลกระทบในระยะยาวที่จะเกิดขึ้นทั้งต่อเราและคนรอบตัวเรา
เป็นสิ่งที่พระเจ้าเปิดเผยแล้วหรือยัง?
พระเจ้าได้บอกเราไว้ในพระคำของพระองค์อย่างชัดเจนในเรื่องนั้นๆ แล้วหรือยัง? ถ้าหากว่าคำถามเหล่านี้รวมอยู่ในหมวดหมู่ของน้ำพระทัยที่พระเจ้าได้บอกเราเอาไว้แล้ว เช่น ฉันควรซื่อสัตย์กับคู่สมรสของฉันหรือไม่? ฉันควรรักเพื่อนบ้านไหม? ฉันควรโกงภาษีหรือเปล่า? หรือฉันควรจะขอบพระคุณใช่ไหม? คำถามเหล่านี้ก็ไม่จำเป็นต้องอธิษฐานถามพระเจ้าแล้ว เพราะนี่เป็นสิ่งเราต้องเชื่อฟัง! (1 เธสะโลนิกา 4:3, มัทธิว 22:39, วิวรณ์ 19:11, 1 เธสะโลนิกา 5:18) ผมเคยได้ยินคนหนึ่งพูดว่า “ผมอธิษฐานถามพระเจ้าว่าดูหนังโป๊ได้ไหมและพระเจ้าไม่ได้บอกให้ผมหยุดนะ!” ผมว่านี่ถือเป็นเรื่องที่พลาดมาก คือเราสามารถอธิษฐานขอให้พระวิญญาณช่วยให้เรามีใจที่จะเชื่อฟังพระองค์ได้ด้วยอำนาจเหนือความเข้าใจของพระองค์ แต่การที่เราเพิกเฉยต่อสิ่งที่พระเจ้าบอกเราไว้อย่างชัดเจนในพระคำของพระองค์ ละเราดันไปสร้างเงื่อนไขในการเชื่อฟังให้ขึ้นอยู่กับการสำแดงของพระเจ้าทั้งๆ ที่พระองค์ได้บอกเราไว้อยู่แล้ว ผมว่านั่นเป็นเรื่องเย่อหยิ่งไปหน่อยนะครับ
ยิ่งเราคุ้นเคยกับพระคำของพระเจ้า เราก็จะยิ่งแยกแยะได้ว่าอะไรคือน้ำพระทัยพระเจ้าจริงๆ แต่ก็ยังมีหลายส่วนในชีวิตของเราที่พระเจ้าอาจจะยังเงียบอยู่หรือดูไม่ค่อยจะชัดเจน ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้เราก็ไม่ควรดื้อรั้นตีความพระคัมภีร์ไปเอง ในสถานการณ์เทาๆ ไม่ชัดเจนแบบนี้ ผมมักจะขอคำแนะนำจากคนอื่นเพื่อค้นหาน้ำพระทัยที่ยังไม่ถูกเปิดเผย โดยใช้ต้นแบบวงกลม 3 วงที่ทับซ้อนกันดังต่อไปนี้
1. ที่ปรึกษาที่ให้คำแนะนำในทางพระเจ้า
การเสาะแสวงหาคำแนะนำในทางของพระเจ้าถือเป็นหัวใจสำคัญของพระธรรมสุภาษิต ‘คนมีปัญญาจะได้ยินและเพิ่มพูนการเรียนรู้ และคนที่มีความเข้าใจจะได้การชี้แนะ’ (สุภาษิต 1:5) ‘เมื่อไม่มีการชี้แนะ ประชาชนก็ล้มลง แต่โดยมีที่ปรึกษามาก ก็มีความปลอดภัย’ (สุภาษิต 11:14) คำแนะนำในทางพระเจ้ามีเพื่อเพิ่มมุมมองและสติปัญญาในด้านที่แตกต่างจากประสบการณ์อันจำกัดของเรา ในการค้นหาคำแนะนำในทางของพระเจ้านั้น ผมไม่แนะนำให้ไปหาจากคนใกล้ตัว หรือคนที่คล้ายคุณมากๆ เพียงอย่างเดียว เช่น ศิษยาภิบาลหนุ่มอายุ 25 ปีก็ไม่ควรหาคำแนะนำจากศิษยาภิบาลหนุ่มที่อายุ 25 ปีเหมือนกันเท่านั้น แต่เริ่มด้วยการพาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางเพื่อนหรือที่ปรึกษาที่จะช่วยให้คำแนะนำที่หลากหลายในทางพระเจ้าให้กับคุณได้ด้วย
2. อธิษฐาน
ในยากอบเขียนไว้ชัดเจนว่า ‘แต่ถ้าใครในพวกท่านขาดสติปัญญา ให้คนนั้นทูลขอจากพระเจ้า ผู้ประทานให้กับทุกคนด้วยพระทัยกว้างขวางและไม่ทรงตำหนิ แล้วเขาก็จะได้รับตามที่ทูลขอ’ (ยากอบ 1:5) คำอธิษฐานของยากอบมักนำไปสู่การทำสิ่งที่สำคัญด้วยความมานะบากบั่นและวินัย แสวงหาพระองค์อย่างแรงกล้าและอดทน เพราะต่อจำเพาะพระพักตร์พระองค์ความเห็นแก่ตัวของเราจะถูกเปิดเผยออกมา และเราจะได้ใส่มุมมองใหม่ๆ ที่สำคัญในการตัดสินใจในฐานะที่เป็นลูกของพระเจ้าจอมกษัตริย์ ในขณะเดียวกันเราต้องคอยเตือนตัวเองด้วยว่าพระองค์เป็น ‘พ่อของเรา’ (มัทธิว 6:9) เราไม่ขาดแคลนสิ่งดีใดๆ (สดุดี 23:1) ดังนั้นให้เราปล้ำสู้กับการ ‘การอธิษฐานอย่างไม่ลดละ’ (1 เธสะโลนิกา 5:16) เพื่อจะรู้น้ำพระทัยพระองค์
3.โอกาส
อะไรคือโอกาสที่พระเจ้าวางไว้ตรงหน้าคุณ? อะไรคือประตูบานที่เปิดออกอยู่? “ค้นหาว่าพระเจ้าทำงานที่ไหนและเข้าร่วมกับพระองค์” ตลอดช่วงชีวิตของเรา เราจะได้ ‘ปฏิเสธ’ กับโอกาสมากกว่าที่จะตอบ ‘ตกลง’ เสียอีก สมมุติว่าถ้าผมขอคำปรึกษาจากคนรอบข้างที่เป็นผู้ใหญ่ทางความเชื่อและอธิษฐานแล้ว พระเจ้าเรียกให้ผมเป็นนักเทศน์ ผมก็จะตอบ ‘ตกลง’ สำหรับโอกาสต่างๆ ที่จะช่วยให้ผมไปถึงเป้าหมายนั้น (เช่น การเข้าโรงเรียนพระคริสต์ธรรม) และ ‘ปฏิเสธ’ กับโอกาสต่างๆ ที่จะทำให้ผมหันเหออกจากเป้าหมาย (เช่น การเลือกเรียนทันตแพทย์) ไม่ใช่แค่การตัดสินใจในเรื่องใหญ่ๆ หรือเรื่องที่เกี่ยวกับอาชีพของเราเท่านั้น แต่มันยังรวมไปถึงโอกาสเล็กๆ ในชีวิตประจำวันของเราด้วย ถ้าพระคัมภีร์เรียกอย่างชัดเจนให้ผมมีชีวิตที่ ‘บริสุทธิ์’ (1เปโตร 1:16) ผมก็จะตกลง ฝึกฝนให้สิ่งนี้กลายเป็นชีวิตของผม และ ‘ปฏิเสธ’ ที่จะไม่ระมัดระวัง หรือทำตามใจตัวเอง
…..
แต่นี่เป็นเพียงแค่ตัวอย่างเท่านั้น
เพราะสุดท้ายแล้ว เราแต่ละคนต้องแสวงหาที่จะใช้ชีวิตในการเชื่อฟังพระคัมภีร์ และพึ่งพาพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่จะช่วยให้เราแยกแยะและเข้าใจสิ่งต่างๆ ผ่านการอธิษฐานร่วมกับพระองค์ให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ ความมั่นใจในตัวเองที่มากเกินไปคืออาการของความไร้ประสบการณ์ ‘ความจองหองมาก่อนการถูกทำลาย และใจผยองก็มาก่อนการล้ม’ (สุภาษิต 16:18)
รูปแบบที่ผมยกมาเป็นเพียงแค่ตัวช่วยเท่านั้น เพราะที่จริงแล้วชีวิตมันยุ่งยากมากกว่าที่เราคิด และการที่จะต้องตัดสินใจในสิ่งที่น้ำพระทัยพระเจ้ายังไม่เปิดเผยนั้นก็มักไม่ได้เป็นเรื่องถูก-ผิด ขาว-ดำเสมอไป แล้วจากแผนผังมีอะไรที่ทำให้คุณสะดุดใจบ้างไหม? หรือคุณได้เรียนรู้วิธีอื่นๆ ในการแยกแยะว่าสิ่งใดคือน้ำพระทัยพระเจ้าบ้าง? ลองมาแชร์กันได้นะครับ
การระมัดระวังอุปนิสัยของเราในทุกๆ วัน
มีพลังมากที่จะสร้างเราให้เป็น “คนที่เหมือนพระคริสต์” มากขึ้น
Related Posts
- Translator:
- Kawin B.
- "วินวิน" เด็กสาวเจน Z ที่ออกจาก comfort zone มาลองฝึกงานกับพี่ๆ ทีมชูใจไกลถึงเชียงใหม่ เธอผู้ไม่เคยใช้ชีวิตนอกกรุงเทพมหานครมาก่อน กำลังจะได้เผชิญโลกกว้าง และ explore การรับใฃ้ในรูปแบบอื่นๆ ที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน เป็นกำลังใจให้วินวินผ่านแคมเปญนี้ไปให้ได้ด้วยนะคะ!
- Illustrator:
- Emma C.
- เด็กสาวหน้านิ่งจากเมืองกรุง มุ่งหน้าใช้ชีวิตในเมืองเหนือ พระเจ้านำให้ได้มาทำงานกับชูใจ เธอผู้นี้มีความสามารถหลากหลาย ทั้งวาดภาพ เขียน เรียบเรียง และเอาขามาพาดคอระหว่างนั่งทำงาน เธออินกับการสะกดคำให้ถูกต้องตามราชบันฑิตฯ และมีรสนิยมวินเทจผิดจากความเป็นเจนวาย เป็นหนึ่งใน Avenger ทีมบก.ที่จะมาช่วยชูใจผู้อื่นกัน
- Editor:
- Jick
- บก.ชูใจ ผู้ใฝ่ฝันจะชูใจน้องๆ จากความพลาดของตัวเอง