EP.33

Malaysia รีวิวทริปเที่ยวฉบับขอบคุณพระเจ้า


“ดูเถิด ซึ่งพี่น้องอาศัยอยู่ด้วยกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

ก็เป็นการดี และน่าชื่นใจมากสักเท่าใด”

(สดุดี 133:1)

_______________

 

คำพยานอย่างสั้นนี้เริ่มต้นจากการที่ฉันเลื่อนดูราคาตั๋วเครื่องบินของประเทศใกล้เคียงในช่วงก่อนวันหยุดยาวแล้วตัดสินใจโทรศัพท์ชวนเพื่อนๆ ที่โบสถ์ก่อนจะกดจองกันอย่างกะทันหัน และด้วยภูมิศาสตร์ภาคเหนือของไทยที่เต็มไปด้วยภูเขาน้อยใหญ่ทำให้เราเห็นพ้องต้องกันว่าจะลงใต้ไปเปลี่ยนบรรยากาศกันบ้าง ประเทศมาเลเซียจึงได้กลายมาเป็นจุดหมายปลายทาง

 

ต่อไปนี้จะเป็นการรีวิวทริปเที่ยวมาเลเซียฉบับขอบคุณพระเจ้ากันค่ะ

มาดูกันว่าใน 5-6 วันนี้พระเจ้าจะอวยพรวันหยุดของพวกเราอย่างไรกันบ้าง

 

 

ขอบคุณพระเจ้า 1

สำหรับการมีที่นอนหมอนผ้าห่มพร้อม แล้วยังมีรถมารับที่สนามบินอีก!

 

ขอเท้าความเสียหน่อยว่าปีก่อนมีเพื่อนบางคนไปร่วมค่าย AOF (Angkor of Faith) ที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นค่ายที่รวบรวมคริสเตียนจากหลายประเทศให้มาทำกิจกรรมร่วมกัน ดังนั้นเราจึงพอมีสายสัมพันธ์กับพี่น้องที่โบสถ์ในมาเลเซียอยู่บ้าง (บางคน)

 

 

“Uncle Chong Fatt” เป็นชื่อที่เราเรียกคุณลุงใจดีผู้ขับรถมารับพวกเราที่สนามบิน พอทำความรู้จักกันเรียบร้อยจึงได้รู้ว่าลุงเป็นอาจารย์สอนพระคัมภีร์ และนักเทศน์ประจำที่โบสถ์ “Petaling Jaya Church of Christ” ซึ่งเป็นผู้มีอุปการะคุณเอื้อเฟื้อที่พักให้กับพวกเราใน 5 วันนี้

 

 

PJ Church of Christ เป็นโบสถ์ที่ตั้งตามชื่อเมือง Petaling Jaya ตั้งอยู่ใกล้กัวลาลัมเปอร์ ระยะทางประมาณ สยาม-บางนา อะไรแบบนั้น ลักษณะเหมือนบ้านสองชั้นขนาดปานกลางที่ข้างในเต็มไปด้วยห้องย่อยๆ ตามทางเดินแคบสลับซับซ้อนดูลึกลับน่าตื่นเต้น ทัศนียภาพโดยรวมคุมอยู่ในธีมสีฟ้า-น้ำเงิน

 

ฝั่งด้านข้างติดถนนใหญ่ทำให้เดินทางสะดวกมาก ออกมาก็เจอสะพานลอยและร้านอาหารชื่อดังตั้งเรียงรายอยู่อีกฟากฝั่ง หากใครต้องการแวะมาเยี่ยมเยียนก็เสิร์ชตาม google map มาเลย จะมาด้วยรถยนต์หรือรถไฟฟ้าก็ได้ ที่นี่เดินทางง่ายไม่ซับซ้อน

 

 

ขอบคุณพระเจ้า 2

สำหรับอาการป่วยที่เกือบจะหาย

 

ก่อนเดินทางมามีอาการเหมือนอาหารเป็นพิษค่ะ ทั้งคลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย ไข้ขึ้น จนกระทั่งวันเดินทางอยู่ๆ ไข้ก็หายเองเสียอย่างนั้น อาการคลื่นไส้ยังมีอยู่แต่หยุดอาเจียนและท้องเสียได้บ้างแล้ว แม้จะยังอาเจียนเล็กน้อยในวันแรก แต่รวมๆ แล้วก็นับว่าอาการดีกว่าตอนก่อนมาเยอะทีเดียว ขนาดว่าประเดิมมื้อแรกด้วยโรตีที่ซอสเครื่องเคียงฉุนกึกสไตล์เครื่องเทศแน่นก็ยังรอดมาได้ คลื่นไส้นิดหน่อย แต่อร่อยก็ยอม

 

 

มื้อต่อๆ มาก็ไม่ได้สดชื่นขึ้นเท่าไหร่ เพราะอาหารที่นี่ส่วนมากถ้าไม่ใช่เครื่องเทศเข้มๆ ก็จะเป็นอาหารจีนจืดๆ มันๆ

 

 

ส่วนตัวแล้วชอบอาหารแบบอินเดียมากกว่าค่ะ แต่สภาพระบบทางเดินอาหารรอบนี้คงต้องขอลา กินได้ทีละนิดละหน่อย ขอบคุณพระเจ้าที่อาหารยังรับรสชาติได้ ผ่านปากเข้าท้องได้ โดยไม่ท้องเสียหรืออาเจียน

 

 

ขอบคุณพระเจ้า 3

สำหรับพี่น้องในพระคริสต์

 

ตรงกับวันอาทิตย์พอดีเลยมีโอกาสร่วมนมัสการกับที่โบสถ์ ที่นี่มีนมัสการ 2 ห้อง ห้องเล็กเป็นฉบับภาษาจีน อีกห้องเป็นฉบับภาษาอังกฤษ ตารางเริ่มเกือบ 10.00 น. ด้วยชั้นเรียนพระคัมภีร์ แล้วจึงตามด้วยโปรแกรมนมัสการชุดใหญ่ที่มีเพลงคั่นทุกช่วง

 

 

ขอบคุณพระเจ้าที่พี่น้องในโบสถ์ 3 เชื้อสายหลักของมาเลเซียใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารเป็นหลักเลยทำให้คุยกันเข้าใจได้บ้าง วันนี้ Uncle Chong Fatt เป็นคนเทศนา (อันที่จริงดูจากตารางหน้าโบสถ์คือลุงเทศน์ทุกอาทิตย์) แล้วยังได้รู้มาว่าพี่ในโบสถ์ที่ไทยหลายคนก็เคยเรียนพระคัมภีร์กับแกมาก่อน สมัยยังสอนอยู่ที่นิวซีแลนด์ ไม่แปลกใจเลยที่ห้องทำงานแกมีแต่กองหนังสือเต็มทุกผนัง

 

เลิกโบสถ์แล้วก็มีพี่น้องรุ่นราวคราวเดียวกันที่เคยเจอในค่าย AOF อาสาเป็นไกด์พาทัวร์กัวลาลัมเปอร์ เพราะมีรถยนต์ทำให้ประหยัดเวลาในการเดินทางไปแต่ละที่ได้มาก พวกเราเลยมีโอกาสเที่ยวรอบเมืองกัวลาลัมเปอร์

 

 

 

อากาศร้อนชื้นเพราะฝนตกเกือบตลอดวันทำให้สภาพจราจรไม่ค่อยคล่องตัวเท่าไรนัก ระหว่างติดฝนเราก็มองสองข้างทางไปเรื่อยจนสังเกตได้ว่าใจกลางเมืองเกือบทุกที่เต็มไปด้วยธงลายต่างๆ

 

 

เพื่อนนำเที่ยวของเรา ทั้ง Priscilla และ Naveen ก็อธิบายให้ฟังว่าก่อนหน้านี้ไม่นานมีประกาศยุบสภา ช่วงสองเดือนนี้มาเลเซียจึงกำลังจะมีเลือกตั้งรัฐบาลใหม่ โดยจะเป็นการแข่งขันกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคฝ่ายค้าน

 

 

อันที่จริงตั้งแต่เดินทางมาถึงก็ได้ยินหลายคนพูดถึงเรื่องความตึงเครียดทางการเมืองและเศรษฐกิจให้ได้ยินค่อนข้างหนาหู ซึ่งรายละเอียดที่เป็นประเด็นนอกจากการคอร์รัปชั่นก็คือประเด็นทางด้านชาติพันธุ์ จนได้มาเห็นแล้วก็พอเข้าใจ เพราะที่นี่มีประชากรหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งมาเลเซีย จีน และอินเดีย

 

ฟังแล้วก็หดหู่กับมนุษย์ที่พระเจ้าสร้างทุกคนด้วยความตั้งใจ

แต่เรากลับเลือกปฏิบัติและให้ความสำคัญไม่เสมอกันด้วยบรรทัดฐานทางสีผิว

 

ตอนนั้นเองที่ใจรู้สึกขอบคุณพระเจ้าเหลือเกินที่พี่น้องคริสเตียนเรารวมกันเป็น “พี่น้อง” ไม่ว่าจะต่างสีผิว ต่างสัญชาติ ต่างอาชีพ ต่างฐานะ ต่างเพศ ต่างวัย ซึ่งในความต่างนี้เองพระเจ้าบรรจงสร้างเราขึ้นด้วยสถานะเดียวกันคือลูกของพระองค์ เราเสมอภาคกันอย่างที่ อ.เปาโลได้เปรียบเรากับอวัยวะอันมีพระเยซูคริสต์เป็นศีรษะ

 

“ที่จริงอวัยวะที่เราเห็นว่าอ่อนแอ เราก็ขาดเสียไม่ได้ และอวัยวะที่เราถือว่ามีเกียรติน้อย เราก็ยังทำให้มีเกียรติยิ่งขึ้น และอวัยวะที่ไม่น่าดูนั้น เราก็ทำให้น่าดูยิ่งขึ้น เพราะว่าอวัยวะที่น่าดูแล้ว ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องตกแต่งอีก แต่พระเจ้าได้ทรงให้อวัยวะของร่างกายเสมอภาคกัน ทรงให้อวัยวะที่ต่ำต้อยเป็นที่นับถือมากขึ้น เพื่อไม่ให้มีการแก่งแย่งกันในร่างกาย แต่ให้อวัยวะทุกส่วนพะวงซึ่งกันและกัน ถ้าอวัยวะอันหนึ่งเจ็บ อวัยวะทั้งหมดก็พลอยเจ็บด้วย ถ้าอวัยวะอันหนึ่งได้รับเกียรติอวัยวะทั้งหมดก็พลอยชื่นชมยินดีด้วย”
(1 โครินธ์ 12:22-26)

 

 

สรุปโดยรวมคือภาพที่คิดก่อนมาผิดจากความจริงมาก อากาศไม่ดีเลย ร้อน ชื้น ฝนตกเกือบตลอดเวลา บรรยากาศอวลไปด้วยกลิ่นเครื่องเทศ เช้าๆ ก็หอมดี พอตกบ่ายจะเริ่มน่าเวียนหัว รายละเอียดย่อยๆ ยังมีความทุลักทุเลแบบคนเดินทาง ทั้งตกเครื่องบินตอนไปปีนัง โดนรถบัสเทกลางทาง ไปเที่ยวหลายที่ก็เข้าไม่ได้เพราะฝนตก ทะเลที่ตั้งใจไปก็ไม่ได้ไปด้วยความผิดพลาดเรื่องเวลา อาหารที่นอกจากโรตีก็ไม่มีอะไรที่ว้าวเท่าไหร่ ฯลฯ

 

บางสถานการณ์เป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกแบบไม่ไหวแล้วในตอนนั้น (เช่น กลิ่นบนรถตู้ประจำทาง) แต่พอผ่านมันมาได้ทุกอย่างก็กลายเป็นประสบการณ์เรื่องเล่าที่สนุกสนานไปเสีย

 

 

และสำหรับคนเรื่องมากที่กินอยู่ลำบากอย่างเรา ถ้าจะถามว่าประทับใจอะไรที่สุดก็ตอบได้แทบจะทันทีเลยว่าไม่ใช่เรื่องสถานที่ แต่เป็นพี่น้องที่ได้ใช้เวลาด้วยกันต่างหาก ทั้งคนที่รู้จักกันมาก่อนและเพิ่งจะมารู้จักกันที่นี่ พอใช้คำว่า “พี่น้อง” แล้ว เราก็ดูแลกันและกันอย่างนั้นจริงๆ ขอบคุณพระเจ้าผู้เป็นศูนย์กลางของสายสัมพันธ์ ขอบคุณพระองค์สำหรับวันหยุดที่เต็มไปด้วยความทรงจำนี้ค่ะ 🙂


#ชูใจชวนแชร์ เพราะเรารู้ว่าทุกคนมีเรื่องเล่า… ชูใจจึงชวนมา ‘ส่งต่อ’ เรื่องราวที่พระเจ้าทรงทำในชีวิตของคุณเพื่อ ‘ชูใจ’ คนอื่นต่อไป ( <3 อ่านรายละเอียดได้ที่ >> https://choojaiproject.org/choojai-forward/ )


Previous Next

  • Author:
  • เด็กสาวหน้านิ่งจากเมืองกรุง มุ่งหน้าใช้ชีวิตในเมืองเหนือ พระเจ้านำให้ได้มาทำงานกับชูใจ เธอผู้นี้มีความสามารถหลากหลาย ทั้งวาดภาพ เขียน เรียบเรียง และเอาขามาพาดคอระหว่างนั่งทำงาน เธออินกับการสะกดคำให้ถูกต้องตามราชบันฑิตฯ และมีรสนิยมวินเทจผิดจากความเป็นเจนวาย เป็นหนึ่งใน Avenger ทีมบก.ที่จะมาช่วยชูใจผู้อื่นกัน
  • Illustrator:
  • Emma C.
  • เด็กสาวหน้านิ่งจากเมืองกรุง มุ่งหน้าใช้ชีวิตในเมืองเหนือ พระเจ้านำให้ได้มาทำงานกับชูใจ เธอผู้นี้มีความสามารถหลากหลาย ทั้งวาดภาพ เขียน เรียบเรียง และเอาขามาพาดคอระหว่างนั่งทำงาน เธออินกับการสะกดคำให้ถูกต้องตามราชบันฑิตฯ และมีรสนิยมวินเทจผิดจากความเป็นเจนวาย เป็นหนึ่งใน Avenger ทีมบก.ที่จะมาช่วยชูใจผู้อื่นกัน