ห้องตรวจหมายเลข 8 (Me & Another Me)

EP. 1/6

ห้องตรวจหมายเลข 8 (me & another me) – EP. 1/6


บทความนี้ใช้เวลาอ่านประมาณ 5 นาที
อ่านตอนอื่นๆ ในซีรีส์นี้ได้ทาง : https://choojaiproject.org/category/articles/life-series/me-and-another-me/


 

***เรื่องราวในตอนนี้เกิดขึ้นก่อนที่ผู้เขียนจะรู้จักกับพระเจ้า
การบรรยายความคิดและความรู้สึกเป็นไปตามสถานการณ์ของผู้เขียนที่กำลังเผชิญขณะนั้น***

 

 

 

ห้องตรวจหมายเลข 8

ฤดูฝน, 2553

 

เช้านี้รถไม่ค่อยติดเท่าไหร่ทำให้ฉันมาถึงก่อนเวลา

 

ป้าพยาบาลที่โต๊ะประชาสัมพันธ์เอ่ยทักทายฉันด้วยชื่อจริงทั้งที่ยังไม่ยื่นใบนัด ประหลาดใจนิดหน่อยเพราะชื่อที่ใครๆ ก็บอกว่าแปลกและอ่านยากจนไม่ค่อยมีคนจำได้ถูกเรียกด้วยน้ำเสียงเป็นมิตรสนิทสนม

 

มองอีกมุมก็ไม่แปลก ในเมื่อฉันเป็นคนเดียวที่ถูกจำกัดอายุอยู่ในขอบเขตของคำว่า “เยาวชน” แต่กลับเดินทางมารับการรักษาที่แผนกจิตเวชโดยลำพัง และคงด้วยเครื่องแบบนักเรียนเอกชนที่ใส่มาเป็นประจำทุกอาทิตย์นี่แหละที่ทำให้วัยรุ่นอย่างฉันเป็นที่จดจำทั้งกับลุงยาม ป้าพยาบาล คุณหมอ และเพื่อนคนไข้ด้วยกัน

 

ระเบียงที่นั่งหน้าแผนกค่อนข้างแออัด คนไข้ที่มาประจำส่วนมากก็คุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่ เจ้าของที่นั่งบนเก้าอี้ถัดจากฉันคือ “พี่อารมณ์ดี”  พี่ที่ฉันถือวิสาสะตั้งชื่อให้ตั้งแต่เจอกันครั้งแรก เขาเป็นชายวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่จนเรียกได้ว่าโดดเด่นและมักจะเดินทักทุกคนด้วยรอยยิ้มกว้าง บางครั้งก็สร้างความวุ่นวายด้วยการวิ่งเล่นตรงโถงทางเดินหรือแอบปิดไฟแผนกบ้าง แต่ด้วยความอ่อนโยนประหนึ่งเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ ลุงยามก็จะเดินมาดุแค่พอเป็นพิธีด้วยสีหน้ารักใคร่ดั่งญาติมิตร

 

อันที่จริง สังคมเล็กๆ อย่างนี้ก็น่าอยู่ดีนะ

 

คิดอะไรเพลินๆ สักพักก็มีเสียงประกาศเรียกให้ฉันไปนั่งรอตรวจเป็นคิวที่ 3 ตรงหน้าห้องตรวจหมายเลข 8

 

___________________________

 

ฉันจำได้ดี ห้องตรวจหมายเลข 8 เป็นห้องที่ฉันมาเข้ารับการตรวจครั้งแรก และการตรวจในครั้งนั้นก็ทำให้ฉันกลายเป็นผู้ป่วยประจำแผนกจิตเวชไปโดยปริยาย

 

ไม่เคยคิดมาก่อนเหมือนกันว่าตัวเองจะมีวันนี้ วันที่ต้องมาพบแพทย์ พูดคุย ทำจิตบำบัด และรับยาทุกอาทิตย์

 

ราวสิ้นเดือนกรกฎาคมเป็นช่วงที่ฉันตัดสินใจว่าจะลองไปตรวจที่โรงพยาบาล เพราะอาการนอนไม่หลับเรื้อรังมันกำลังส่งผลกระทบกับชีวิตประจำวันของฉันมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดที่คิดได้ว่าต้องทำอะไรสักอย่าง

 

ตอนแรกก็แค่ตั้งใจจะหาข้อมูลเกี่ยวกับอาการนอนไม่หลับ แต่พออ่านไปถึงหัวข้อ “สาเหตุที่พบบ่อย” แล้วก็พบว่าสาเหตุที่เข้าข่ายกับกรณีของตัวเองที่สุดคือความแปรปรวนของจิตใจ ซึ่งในนั้นเขียนบอกว่าอาจนำไปสู่ ภาวะเครียดหรือภาวะซึมเศร้า และ “โรคซึมเศร้า” ก็เป็นบทความถัดไปในหน้าเว็บไซต์เดียวกัน

 

เคยได้ยินเรื่องโรคซึมเศร้ามาน้อยครั้ง อ่านแล้วก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่นัก แต่พอจะจับใจความได้ว่า ภาวะซึมเศร้ากับโรคซึมเศร้าไม่เหมือนกัน ภาวะอาจเกิดจากอารมณ์ เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนในบางช่วงของชีวิต ไม่ต้องใช้ยารักษา แต่โรคซึมเศร้าเกิดจากระดับของสารเคมีในสมองที่ผิดปกติ ต้องใช้ยารักษา

 

อ่านจบแล้วก็คิดเอาเองว่าตัวเองอยู่ในภาวะซึมเศร้า เลยเข้าไปทำแบบทดสอบออนไลน์ของโรงพยาบาล แล้วผลก็ออกมาว่า “ควรพบแพทย์โดยเร่งด่วน”

 

ลองไปดูก่อนคงไม่มีอะไรเสียหาย ถ้าไม่เป็นอะไรก็ถือว่าโชคดี แต่ถ้าเป็นก็จะได้รู้ตัวไว้เสียแต่เนิ่นๆ

 

ตั้งใจจะไปโรงพยาบาลที่เพิ่งกดเข้าไปทำแบบทดสอบเมื่อครู่นี้แหละ พอลองโทรไปถามจึงรู้ว่าแผนกจิตเวชสำหรับเด็กและวัยรุ่นเปิดให้รักษาเฉพาะวันจันทร์, อังคาร และพฤหัสบดี ตั้งแต่เช้าถึงประมาณเที่ยงเท่านั้น กะไว้ว่าโดดเรียนคาบเช้าของพฤหัสฯ ไปตรวจดูสักวันคงไม่เป็นไร จนกระทั่งได้พบหมอครั้งแรกจึงรู้ว่ามันจะต้องมีการขาดเรียนครั้งต่อๆ ไปเกิดขึ้น

 

___________________________

 

 

การวินิจฉัยของหมอ…

 

ภายในห้องตรวจหมายเลข 8 ฉันแนะนำตัวคร่าวๆ พูดถึงอาการนอนไม่หลับของตัวเอง แล้วตอบหมอสัก 3-4 คำถาม ก่อนจะได้ทำแบบทดสอบในรูปแบบการเขียนคะแนนเป็นตัวเลขกรอกลงตามตารางถี่ยิบประมาณ 3 หน้ากระดาษ A4 พอทำจนเสร็จแล้วก็ยื่นให้หมอเช็กดู จากนั้นจึงดูรูปภาพจำนวนหลายสิบรูปที่หมอเลือกหยิบมาเพื่อจะตอบว่า “เห็นอะไรในภาพ?”

 

จนตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจว่าการดูรูปแล้วตอบที่ทำไปครั้งนั้นจะบอกอาการอะไรได้นอกจากตาบอดสี แต่สรุปแล้วผลวินิจฉัยจากการพูดคุย ทำแบบทดสอบ และตอบคำถามจากภาพ ออกมากลายเป็นว่า “ฉันเป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรงที่ต้องได้รับการรักษาอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง”

 

ตั้งแต่นั้นมาทุกวันพฤหัสบดีเวลาราว 9.30 น. แผนกจิตเวชก็ได้กลายเป็นที่ประจำของฉัน รวมถึงหมอผู้หญิงที่สวยที่สุดในแผนกก็กำลังจะกลายมาเป็นบุคคลสำคัญในชีวิตของฉันเช่นกัน

 

 

พอไม่ได้จดบันทึกก็ลืมรายละเอียดไปเสียเกือบหมด น่าเสียดายที่ไม่ได้เขียนมาตั้งแต่แรก ไม่อย่างนั้นเธอคงอยู่ในรูปบันทึกการรักษาที่สมบูรณ์กว่านี้

 

.

ถึงคิวต่อไปแล้ว อีกสักพักป้าพยาบาลคงเดินมาเรียกให้เข้าห้อง

ไว้จะมาคุยด้วยใหม่นะไดอารี่

 

 


ข้อมูลเพิ่มเติม :

 


Previous Next

  • Author:
  • เด็กผู้หญฺิงธรรมดาที่พบว่าตัวเองป่วยเป็น โรคซึมเศร้า เมื่อคุณหมอบอกให้การบ้านเป็นการเขียนไดอารี่ จึงเกิดเรื่องราวใน Me AND ANOTHER ME ขึ้นมา เคยเชื่อว่ามนุษย์นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่งดงาม จนได้มาเจอพระเจ้าผู้สมบูรณ์แบบ
  • Illustrator:
  • Emma C.
  • เด็กสาวหน้านิ่งจากเมืองกรุง มุ่งหน้าใช้ชีวิตในเมืองเหนือ พระเจ้านำให้ได้มาทำงานกับชูใจ เธอผู้นี้มีความสามารถหลากหลาย ทั้งวาดภาพ เขียน เรียบเรียง และเอาขามาพาดคอระหว่างนั่งทำงาน เธออินกับการสะกดคำให้ถูกต้องตามราชบันฑิตฯ และมีรสนิยมวินเทจผิดจากความเป็นเจนวาย เป็นหนึ่งใน Avenger ทีมบก.ที่จะมาช่วยชูใจผู้อื่นกัน
  • Editor:
  • Perapat T.
  • Blogger ผู้มากความสามารถในงานเขียน เป็นคริสเตียนที่เรียนสังคมวิทยา ฯ มาอย่างโชกโชน สเตตัสปัจจุบันเป็นนักเขียนอิสระ และ รับใช้พระเจ้าไปด้วย :)