เลิฟเดอะเทอทีน รีวิว

EP. 8

Love the Thirteen เลิฟในเดอะพระคัมภีร์ตีความใหม่ใส่สตอรี่ใหม่ ไปดูกัน! [ชูโรง]


ชื่อหนัง : เลิฟเดอะเทอทีน (2018)
ประเภท : รัก / ดราม่า / วัยรุ่น
*บทความนี้ใช้เวลาอ่านประมาณ 7 นาที และมีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วน*


.

เข้าเรื่องเลยนะครับ! อาทิตย์ที่ผ่านมาผมมีโอกาสได้ดูหนังเรื่อง เลิฟเดอะเทอทีน (Love the thirteen) ซึ่งจริงๆ คือหนังสั้น 5 เรื่องที่สร้างจาก concept เดียวกัน ในแต่ละเรื่องจะหยิบข้อพระคัมภีร์จาก 1 โครินธ์ บทที่ 13 ออกมาตีความและสร้างออกมาเป็นเรื่องราวชีวิตของคนปัจจุบัน แต่ละตอนก็จะพูดถึงนิยามความรักจากพระคัมภีร์เรียงตามลำดับข้อไปเป็นข้อ ๆ คุณจะได้เห็นความรักหลายรูปแบบ หลากหลายมุมมอง สมกับที่ความรักนั้นแทรกซึมอยู่ในทุกหนแห่ง และเนื่องจากพี่ชูใจบอกว่าห้ามสปอยผมก็จะพยายามเล่าคร่าวๆ ให้พอเห็นภาพนะครัช

หนังคริสเตียน

 

“ถ้าเรามองว่าความรักนั้นเป็นสากล หนังเรื่องนี้ก็ไม่ใช่หนังคริสเตียนครับ
แต่เป็นหนังดีที่เล่าเรื่องความรัก อย่างครบรส”

__________________________

 

1.
Unfriend

เรื่องย่อ: ฝุ่นและพลอย เพื่อนสนิทที่ต้องมา unfriend กันในโลก online เพียงเพราะเรื่องของความอิจฉา

หนังเรื่อง Unfriend

 

เคยอิจฉาเพื่อนมั้ยครับ? ใครๆ ก็น่าจะเคย แต่จะอิจฉาออกนอกหน้านอกตาแค่ไหนอันนั้นก็อีกเรื่อง ฮ่าๆๆ เปิดเรื่องมาแรกๆ ส่วนตัวอาจรู้สึก งงๆ นิดหน่อย ผู้กำกับตั้งใจทำให้ตอนนี้เป็นเหมือนจิกซอที่จะสมบูรณ์เมื่อเราดูจบ ประทับใจไอเดียการเล่าเรื่องของตอนนี้  เพราะในความจริงความสัมพันธ์นั้นไม่ได้เป็นเส้นตรงมันมีความปะติดปะต่อกัน ดูแล้วเห็นภาพความสัมพันธ์แบบ “เพื่อน” สมัยนี้ที่มันเป็นแบบนั้นจริงๆ ส่วนตัวชอบตัวละครฝุ่น-พลอย มากๆ เพราะเขาดูมีลักษณะเฉพาะตั้งแต่หน้าตา ไปถึงการแต่งตัว ทำให้นึกถึง บรรยากาศ ตอนอยู่กับเพื่อนๆ ถ้าคุณมีเพื่อนสนิทที่รู้ไส้รู้พุงคุณหมดแล้วแนะนำให้ยกไปดูด้วยกันเลย ฮ่าๆ

 

2.
ชิน
Love 13.5

เรื่องย่อ : คู่รักที่ชีวิตคู่กำลังมาถึงจุดเปลี่ยน เมื่อฝ่ายหนึ่งลืมสัญญาที่ให้ต่อกันทั้งคู่ต้องเลือกว่าจะคบกันต่อหรือจะเลิกกัน

ชิน Love 13.5

 

ตัวหนังเล่าถึงความสัมพันธ์แบบคนรัก ไม่ใช่ตอนที่คบกันหวานๆ แต่เลือกที่จะเล่าในช่วงที่ความรักเดินทางมาถึงจุดหักเห ตอนนี้ดูแล้วน้ำตารื้นเลย ได้คิดถึงมุมมองชีวิตของการแคร์ใครสักคนหนึ่งในชีวิต การให้อภัย ให้โอกาส การเปิดใจพูดคุยกัน ไม่คิดไปเอง และการไม่จดจำความผิด ขึ้นชื่อว่าคู่รัก ไม่ว่าคู่ไหนๆ ก็ต้องเจอกับความไม่เข้าใจ ความผิดพลาด อย่างแน่นอน เพราะคนเราแตกต่างกันไง แต่ก็ความรักนั่นแหละที่จะทำให้ความแตกต่างประสานกันได้ เมื่อเราเปิดใจให้กว้างและยอมรับฟังกันและกันด้วยความจริงใจ  ในตอนนี้ ย้ำเตือนผมถึงข้อพระคัมภีร์ที่ว่า“ดังนั้นยังตั้งอยู่สามสิ่ง คือความเชื่อ ความหวังใจ ความรัก แต่ความรักใหญ่ที่สุด 1 โครินธ์ 13:13”

 

3.
MUTE

เรื่องย่อ : เรื่องราวของครูแตง ข้าราชการครูในโรงเรียนชนบทห่างไกลที่อยากให้โอกาสทางการศึกษากับ หมี เด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน

หนังเรื่อง MUTE

ตอนนี้ชื่อว่า MUTE แต่หนังไม่เงียบนะครัช 555+ อันนี้จะสปอยนิดๆ นะครับ หัวใจของความเป็นครูนั้น ไม่ใช่แค่เพียงความรักของครูที่มีต่อเด็ก แต่ครบคลุมไปถึงความรักของครูทีมีต่อความเป็นครู  ผมรู้สึกประทับใจตัวครูแตงที่มีใจอยากช่วยเด็กคนนึง แม้สุดท้ายอาจจะไม่ได้เป็นไปอย่างที่หวัง

สุดท้ายแล้ว กลับมาคิดถึงในชีวิตตัวเอง ก็มีหลายอย่างที่ไม่เป็นดั่งใจ ในเรื่องตอนที่ ครูแตง ต้องบอกลา หมี เธอพูดแค่เพียงว่า พระเจ้าอวยพร” อาจเป็นเหมือนคำธรรมดาสำหรับเราที่เป็นคริสเตียน แต่เชื่อไหมครับว่ามันได้หลอมรวมเรื่องราวทั้งหมดเอาไว้ และ หมี จะเข้าใจถึงความรักทั้งหมดที่ครูมีโดยไม่ต้องสรรหาคำบอกลาใดๆ เลย

ผมว่าครูแตงทำสำเร็จนะสิ่งที่เธอพยายามทำอาจไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ภายนอก แต่มันส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงข้างในหัวใจของหมีแน่นอน

 

 4.
รัก
(ไม่)เก่า

เรื่องย่อ : เรื่องราวของพ่อลูก ที่พ่อจมอยู่กับความทรงจำที่ว่าภรรยาของตนเองยังไม่ตาย เพียงเพราะอยากเก็บโกยความสุขและความทรงจำดีๆเอาไว้ แต่ลูกสาวไม่เข้าใจ

หนังเรื่อง รักไม่เก่า

ตอนนี้เป็นตอนที่ผมชอบมากที่สุด บีบหัวใจมากที่สุด ผู้กำกับ เล่าเรื่องราวผ่านครอบครัวนี้ได้ดีมากๆๆๆ นักแสดงก็เข้าถึงบทดีเหลือเกิน  ประกอบกับเพลงประกอบที่จี้ใจแล้ว ยิ่งซึ้งน้ำตาไหลเข้าไปใหญ่ เป็นตอนที่ไม่อยากสปอยอะไรเลย ไปดูเองเถอะครับ ไม่แน่คุณอาจจะเข้าใจมากขึ้นว่า “สันติสุข” นั้นรู้สึกยังไง ^^ เลิฟๆ

 

5.
Look for Me at Dusk : ลับขอบฟ้า

 

เรื่องย่อ : การเดินทางเอาชีวิตรอดของสองพ่อลูก ที่ต้องหนีอุกกาบาตลูกใหญ่พร้อมกับความสัมพันธ์ที่ไม่ลงรอยกันของทั้งสอง การเดินทางนี้จะกลายเป็นเส้นทางไปสู้ความแตกแยกด้วยความเกลียดชัง หรือ ความรัก

หนังเรื่อง ลับขอบฟ้า

ปิดท้ายด้วยตอนนี้ Surprise มาก!!! เป็นหนังไทยเรื่องแรกที่เล่นแนว Sci-Fi (ดูแล้วเชื่อ) แถมเป็นหนังคริสเตียนไทยอีก ตอนนี้ฉีกอารมณ์ออกจาก 4 ตอนก่อนหน้าเลย เพราะมาในรูปแบบหายนะของมนุษยชาติ  สนุก ตื้นเต้นมากๆ คาดไม่ถึงจริงๆ ตอนนี้มีการใช้ Visual Effect เข้ามาในเรื่องทำให้ดูสมจริง ลูกไฟตกจากฟ้า บ้านไฟไหม้ ระเบิดบึ้มมมม ตูมตามๆ ระหว่างการหนีตายของสองพ่อลูกเราจะได้พบกับผู้คนมากมาย และเรื่องราวของคนที่ต้องตกระกำลำบาก ในขณะที่สองเท้าวิ่งหนีไป บางทีหัวใจก็วิ่งหนีความจริงบางอย่างไปด้วยนี่สิ เอาเป็นว่าต้องไปดูครัช โดยเฉพาะชาวเชียงใหม่ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำ

 

 

สรุปแล้ว :

5 เรื่องมีครบรสมาก ทั้งการแสดง เนื้อหา มุมกล้องที่ดีมากๆ ลำดับภาพสวย ต่างๆ นานา  etc. ได้ทั้งความฮา ความซึ้ง ความลุ้น ไม่รู้จะพูดไรแล้ว อย่าพลาดนะ ที่เราเห็นใน ตัวอย่างหนังอะ แค่น้ำจิ้มจริงๆ สุดท้ายใบ้ให้ สังเกต END CREDIT กันดีๆนะ แล้วคุณจะอดดีใจไม่ได้ 555+ โดยส่วนตัวผมประทับใจตั้งแต่ก่อนเข้าโรงหนังเลย เพราะก่อนเข้ามีการสัมภาษณ์ผู้กำกับและนักแสดง ประทับใจที่ทีมงานเกือบทั้งหมด เป็นคริสเตียน พอเรารวมตัวกันทำอะไรที่มันดีๆ แบบนี้ ออกมาผมน้ำตาจะไหล

 

ชูใจ

หนังเข้าโรงแล้ว ที่ Major ทุกสาขารีบชวนคนที่คุณรักไปดูกันนะครับชาวชูใจ ^^

#ด้วยรักและชูโรง

 


Previous Next

  • Author:
  • เด็กหนุ่มผู้รักการขีดๆ เขียนๆ เรียนๆ เล่นๆ เป็นชีวิต จิตใจ เป็นเด็กใต้ ที่พระเจ้านำมาอยู่เหนือ แต่พูดกลาง งงเล้ยยย พี่ชูใจเห็นใสๆ ใจดี แบบนี้เลยชวนมาวาดภาพประกอบให้ชูใจ
  • Illustrator:
  • Jostar
  • พี่ชายผู้อบอุ่นละมุนละไม เวลาใส่หมวกกันน๊อคแล้วนั่ลล๊าคดั่ง Pororo อดีตมาสเซอร์วิชาสอนศิลปะ ปัจจุบันถวายตัวรับใช้ที่โบสถ์สไตล์ลอฟๆ ชอบขีดๆ เขียนๆ วาดๆ
  • Editor:
  • Perapat T.
  • Blogger ผู้มากความสามารถในงานเขียน เป็นคริสเตียนที่เรียนสังคมวิทยา ฯ มาอย่างโชกโชน สเตตัสปัจจุบันเป็นนักเขียนอิสระ และ รับใช้พระเจ้าไปด้วย :)