ที่มา: http://www.christianitytoday.com/iyf/advice/goodadvice/how-do-i-treat-gay-friends.html
คำถาม
ผมรู้นะครับว่าพระคัมภีร์บอกว่าการรักร่วมเพศเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง แต่ผมก็ไม่รู้ว่าจะวางตัวยังไงกับเพื่อนที่เป็นเกย์หรือเลสเบี้ยนดี และก็ไม่รู้ด้วยว่าจะอธิบายให้เพื่อนที่ไม่ได้เป็นคริสเตียนเข้าใจได้ยังไงว่าผมเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่ถูกต้องถูกมองว่าเป็นคนใจแคบ
_______________
คำตอบ
เรื่องนี้คงเป็นเรื่องที่คริสเตียนหลาย ๆ คนกลืนไม่เข้าคายไม่ออกกันเลยทีเดียว เพราะเราถูกเรียกให้ทำสองสิ่งด้วยกัน คือ
- รักผู้อื่น
- ยืนหยัดในสิ่งที่พระคัมภีร์บอก
ถ้าอย่างนั้น เราควรจะวางตัวอย่างไร
กับคนที่ไม่ได้ใช้ชีวิตในแบบที่พระเจ้าอยากให้พวกเราทุกคนเป็น?
จริงๆ แล้วสิ่งที่เราควรนั้นเรียบง่ายมาก คือเราต้องรักและเคารพเขาแบบเดียวกับที่พระคริสต์จะปฏิบัติต่อเขา เพราะถึงแม้ว่าพระเยซูไม่ได้ทรงโปรดปรานความบาป แต่พระองค์ก็ไม่ได้รังเกียจคนบาป เราทุกคนเองต่างก็ทำบาปด้วยกันทั้งนั้น แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเราไม่มีค่าในสายพระเนตรของพระเจ้า
ดังนั้น ไม่ว่าใครจะทำบาปอะไรมา พวกเขาก็ยังมีค่ามากพอที่จะได้รับความรักจากพระเจ้าเสมอ ถ้าเป็นผม ผมก็จะปฏิบัติต่อเพื่อนเกย์และเพื่อนเลสเบี้ยนเหมือนเขาเป็นเพื่อนผู้ชายและเพื่อนผู้หญิงตามเพศสภาพของเขานั่นแหละ เพราะเราสามารถรักพวกเขาได้ถึงแม้ว่าเราจะไม่เห็นด้วยกันสิ่งที่เขาทำทุกอย่างก็ตาม
ผมมีเพื่อนที่เป็นเกย์ชื่อบิล หลังจากที่บิลเปิดใจผมเรื่องรสนิยมทางเพศของเขา ผมก็ชวนเขาไปทานอาหารกลางวันด้วยกัน ถึงแม้ว่าผมจะไม่เห็นด้วยกับแนวทางในการใช้ชีวิตของเขา แต่ผมอยากให้เขารู้ว่าเรายังเป็นเพื่อนกันได้เหมือนเดิม ตอนที่บิลถามผมเรื่องความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องรักร่วมเพศ ผมได้แบ่งปันว่า ผมเชื่อว่าพระคัมภีร์เป็นพระวจนะคำของพระเจ้า และในพระคัมภีร์มีการกล่าวถึงความบาปในเรื่องเพศถึง 17 ครั้งด้วยกัน แล้วผมก็เลือกมา 3 ข้อเพื่อให้เขาดูว่าพระคัมภีร์พูดถึงความบาปในเรื่องรักร่วมเพศว่ายังไง
ถึงพระคัมภีร์จะพูดเรื่องนี้แค่ไม่กี่ครั้ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพระเจ้าไม่สนใจความบาปเรื่องรักร่วมเพศนะครับ แต่เพราะว่าสำหรับพระเจ้าแล้ว ความบาปเรื่องรักร่วมเพศไม่ได้เลวร้ายไปกว่าความบาปทางเพศเรื่องอื่นๆ เลย เพราะความบาปไม่ว่าจะเรื่องไหนก็เป็นความบาปทั้งหมดนั่นแหละ
สิ่งที่ผมประทับใจมากที่บิลขอให้ผมหาข้อพระคัมภีร์ 3 ข้อนั้นให้เขาดู (โรม 1:18-32, 1 โครินธ์ 6:9-11 และ 1 ทิโมธี 1:9-11) เพื่อที่เขาจะได้เอาไปอ่านต่อ หลังจากที่อ่านแล้ว เขาอยากจะนัดคุยเรื่องนี้กับผมอีก ถึงบิลจะยังไม่ได้เปลี่ยนรสนิยมของเขา แต่เขาก็รู้ว่าผมให้ความสำคัญกับมิตรภาพของเรา เขารู้ว่าจุดยืนของผมคืออะไรและเขาก็ยังเต็มใจที่จะคุยเรื่องนี้กับผมเพราะเขารู้ว่าผมเป็นห่วงเขา
นอกจากน้องจะสำแดงมิตรภาพและความรักของพระเจ้าแก่เพื่อนของน้องแล้ว ผมแนะนำให้น้องบอกเรื่องนี้กับคริสเตียนที่เป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณเพื่อ…
- น้องจะได้รู้ว่าจะจัดการเรื่องนี้อย่างคนที่มีวุฒิภาวะและมีความรักอย่างไร
- และเผื่อว่าน้องจะช่วยอะไรเขาได้อีก เช่นว่า ผมมักจะแนะนำให้คนที่รู้สึกสับสนเรื่องรสนิยมของตัวเองให้ไปหาผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษาที่เป็นคริสเตียนที่ไว้ใจได้ เพราะบางครั้งเพื่อนหลายคน ๆ คิดว่าเขาเป็นพวกรักร่วมเพศ แต่ที่จริงเขาแค่สับสนในความรู้สึกทางเพศเท่านั้น ผมพบว่าหลายคนที่เคยถูกละเมิดทางเพศ หรือมาจากครอบครัวที่เหยียดเพศ และครอบครัวที่ไม่มีพ่อ มักจะสับสนเรื่องนี้กับปัญหาอื่น ๆ ในชีวิตของพวกเขา
บางครั้งน้องอาจจะไม่ได้สบายใจที่จะช่วยเพื่อนในทันที ซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไร เพราะจริงๆ แล้วแค่น้องเป็นเพื่อนกับเขาและซื่อสัตย์ต่อความเชื่อของน้องเอง เท่านั้นก็ดีที่สุดแล้ว และที่จริงน้องจะเอาแนวคิดนี้ไปประยุกต์ใช้กับความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ที่ไม่ได้เป็นคริสเตียนก็ได้ด้วยนะครับ
<3 พบกับ #LoveCoach และ #โค้ชเจเจ้ คอลัมน์ตอบปัญหาความรักในสไตล์คริสเตียนได้ทุกวัน อังคารสีชมพูววว์ หรือ ใครที่มีเรื่องความรักแน่นอก อยากให้พี่ชูใจช่วยยกออก ก็ Inbox เข้ามาได้จ้า <3
Related Posts
- Translator:
- Aui Wijitra
- ผู้แปลอาสาฯ จากเมืองเจียงฮาย ผู้เชี่ยวชาญร้านบุฟเฟ่ต์ทั่วเมืองเชียงรายและปริมณฑล และถึงแม้งานประจำจะล้นมือแค่ไหน แต่ก็ไม่อยากวางมือจากการเป็นผู้แปลให้ชูใจ โอ้ย ขอมงให้นางด้วยค่ะ!
- Editor:
- Jick
- บก.ชูใจ ผู้ใฝ่ฝันจะชูใจน้องๆ จากความพลาดของตัวเอง
- Editor:
- เอล Elsa
- สาวน้อยเอกภาษาหน้าแฉล้มจากรั้วจามจุรี (แอร๊ย น่าหยิกแก้มมาก) อยากรับใช้พระเจ้าด้วยสกิลทางภาษาที่มี เลยอาสามาช่วยชูใจกัน แต่เธอเป็นคนตอบไลน์ช้ามากนะ บอกไว้ก่อน!