ผู้เขียน: Ms.Kusuma
ที่มา: https://storylog.co/story/5a05632c8c77141934894940
“ถ้าสมมติว่าเรามีชีวิตอยู่ได้ซัก 50 ปี
ตอนนี้อายุ 26 ปี ก็นับว่านี่เป็นครึ่งชีวิตของเราแล้ว”
เริ่มต้นบรรทัดแรกก็ทักทายด้วยการพูดถึงความตาย (ช่างดูเป็นบทความที่ไม่น่าอภิรมย์เอาซะเลย)
ช่วงชีวิตที่ผ่านมาเราเติบโตโดยไม่มีปัญหาอุปสรรคอะไร ไม่เคยคิดถึงเรื่องของความตายมาก่อน คิดแค่ว่าชีวิตต้องดำเนินต่อไปได้จนเราแก่ แต่หลังจากผ่านเหตุการณ์เลวร้ายในช่วงหนึ่งมา ความคิดเหล่านี้ก็เปลี่ยนแปลงไป
_____________________
เริ่มจาก… อกหักครั้งแรก
โลกที่เราอยู่มันแสนโหดร้ายนะ ความพังพินาศในชีวิตเริ่มต้นเมื่อสองปีที่แล้ว หัวใจอ่อนแอที่สุดจากการบอกเลิกความสัมพันธ์ไม่ชัดเจน ตอนนั้นอายุย่างเข้า 24 มีความสัมพันธ์แบบไม่มีชื่อเรียกกับชายหนุ่มรูปหล่อผู้เป็นจูบแรกของเรา ผู้ชายที่อยู่ในสเป๊กที่ไม่ได้มีแค่ในความฝันแต่ดันต้องเลิกลากันไป เพราะเขาไม่ได้มีเราแค่คนเดียว แถมยังโดนตัวจริงของเขาปรับทัศนคติให้อีก โอ้ย! เกิดมาก็เพิ่งเคยเจอเรื่องแบบนี้ นึกว่ามีแต่ในละคร เสียเวลาชีวิตไปตั้ง 3 ปี แล้วยังจบไม่สวยอีก บ้าเอ๊ย!
ตามมาด้วย… ความสัมพันธ์แสนอ่อนไหวกับคนในออฟฟิศ
จบเรื่องคนแรกไปแบบที่หัวใจอึนๆ ชาๆ ไปหมด ก็ตามมาด้วยความสัมพันธ์ไม่ชัดเจนรอบสองกับผู้ชายออฟฟิศเดียวกันที่ดันมีแฟนซึ่งคบกันมาแล้ว 12 ปี อยู่ดีๆ ก็เกิดอ่อนไหวกับเรา แล้วเป็นไง ความอ่อนไหวกับความอ่อนแอมาเจอกัน
พังสิ! จะไปเหลืออะไรอีก… เราคุยกันแบบไม่มีสถานะกันพักใหญ่ จนเขาเลิกกับแฟน สุดท้ายเราก็ได้คบกัน แต่ลงเอยได้ไม่ถึงเดือนแฟนเก่าเขาเกิดป่วยหนักเข้าโรงพยาบาลช่วงที่เรากลับบ้านต่างจังหวัดพอดี เหตุการณ์วันนั้นคือตอนเรากลับบ้านแม่ก็ถามว่ามีแฟนแล้วเหรอ นี่ก็ตอบว่าใช่ พอตกเย็นผู้ชายโทร.มา บอกว่า
“ขอเลือกดูแลแฟนเก่านะ”
ซึ่งอยู่ในสถานการณ์ที่พวกเขาอยู่ด้วยกันแล้วโทร.มาแบบเปิด Speaker เพื่อบอกเลิก โอ้โห ความรู้สึกตอนนั้นคือหน้าชา พูดอะไรไม่ออก จุกมาก ได้แต่ตอบกลับไปว่า
“เลือกแล้วนะ ถ้าจะไป ไปแล้วไปให้ลับนะ ไม่ต้องกลับมาอีก”
พีคในพีคไหมล่ะ? ความเจ็บเดิมยังไม่ทันหายก็โดนซ้ำลงไปอีก ตามมาติดๆ ด้วยอาการเครียดลงกระเพาะ อาเจียนไปยกใหญ่ ต้องกินยาไปอีกเป็นเดือน และยังมีผลกระทบมาจนผ่านไปปีกว่าก็ยังคงเป็นโรคกระเพาะอยู่
นี่เป็นเรื่องความสัมพันธ์สุดพังที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องแย่ที่สุดเท่าที่เคยมีชีวิตมา ถ้ามีกราฟวัดความหายนะ 100 เรื่องนี้เกิน 100 ไปอีกแน่! รู้สึกชีวิตไม่มีคุณค่าอะไร ช่วงนั้นมีความคิดว่าอยากตายไปเลย การมีชีวิตอยู่พร้อมความเจ็บปวดใจมันยากเกินไปจริงๆ
อีกเรื่อง… ก้อนเนื้อปริศนามาพร้อมกับความกังวลใจ
จบเรื่องความพังของความสัมพันธ์ก็ยังมีเรื่องก้อนเนื้อในเต้านม ซึ่งหมอบอกเป็นก้อนเนื้อฮอร์โมน มีโอกาสหายเองได้ตอนแก่ ไม่ต้องผ่า
Follow up มา 6 เดือนผ่านไปแล้วก็ยังไม่มีปัญหาอะไร แต่ก็ต้อง Follow up ต่อเนื่องอีก 1 ปี ใจก็คิดอยู่นะว่ามันมีโอกาสเป็นมะเร็งได้ คือแบบ…เชื่อแล้วว่าเวลามีเรื่องแย่ๆ เข้ามาจะเหมือนมันนัดกันมา มาทีเดียวพร้อมกันแบบตั้งสติแทบไม่ทัน!!
หน้าที่การงานที่ต้องเปลี่ยน…
Freelancer อาชีพในฝันที่ไม่มีตังค์กินข้าว
หลังจากออกจากที่ทำงานเก่าก็มาเป็น Freelancer เต็มตัว อาชีพในอุดมคติของหลายๆ คน ที่เขาว่ากันว่าสบาย บอกเลยนะว่าไม่ใช่ ช่วงแรกไม่มีงานทำเลย 4 – 5 เดือนผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้ทำงาน เอาเงินที่ไหนกินข้าวล่ะ! แย่ขนาดที่มีงานอะไรก็ต้องทำนะตอนนั้น งานหนักมากช่วงต้นปี ไปออกกองตอนกลางคืนถึงเช้า เวลาชีวิตรวนไปหมด ขอเงินแม่เปลี่ยนแบตโทรศัพท์อีก คือมันรู้สึกผิดกับตัวเองมากที่โตขนาดนี้ยังขอเงินแม่ เข้าใจเราไหม! ไม่ค่อยได้ไปโบสถ์ เพราะทำงานวันอาทิตย์ ไปเป็นสตาฟที่ต้องยืนตลอด 12 ชั่วโมง ไปทำงานยืนรับแขกในอีเว้นท์ กินข้าวแบบเลือกไม่ได้ มีอะไรให้กินก็ต้องกินที่เขามีให้ ช่วงนั้นการมีข้าวกินแต่ละมื้อมันพิเศษมากๆ เลยล่ะ จากตอนที่ทำงานประจำเราไม่เคยใส่ใจเลยว่าการมีข้าวกินแต่ละมื้อสำคัญขนาดไหน ตอนนี้เราเข้าใจมากๆ เพราะมันหมายถึงเราจะยังสามารถมีชีวิตต่อได้
เข้าใจคำว่า “รอดตายไปอีกมื้อ” ก็ตอนนี้แหละ
_____________________
จากเหตุการณ์พังพินาศทั้งหลายทำให้เราพร้อมจะตายได้ตลอดเวลา เป็นช่วงชีวิตที่ไม่พร้อมกับอะไรทั้งนั้น อารมณ์อ่อนไหวมาก ร้องไห้ได้ตลอดเวลา ร้องจนหลับไปเลยก็มี บางทีก็อยากนอนแล้วไม่ต้องตื่นขึ้นมาอีก อยากให้หนึ่งวันหมดไปไวๆ ให้มันเอาความเศร้าเสียใจไปด้วย
จะเป็นมะเร็งเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ จะตายเพราะหิวตอนไหนก็ไม่รู้ จะตายเพราะปวดใจแล้วกลั้นหายใจตายไปเลยเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ มันแย่มากจนรู้สึกอยากเข้าใกล้ความตายในทุกลมหายใจ แต่ที่เข้าใจไปมากกว่านั้นก็คือ…
เราไม่ได้ตายเมื่อไหร่ไม่รู้นะ เราตายเมื่อไหร่ก็ได้ต่างหาก
ขนาดพร้อมจะตายจริงๆ แต่พระเจ้าก็ยังไม่ให้เราไป ต้องอดทนกับความเจ็บปวดในทุกวันที่ตื่นมา แต่สิ่งหนึ่งที่เราได้เห็นคือการ “มีชีวิต” มีค่ามากสำหรับเรา
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้เป็นเหตุมาจากการไม่เชื่อฟังพระเจ้าของเราเอง
ในช่วงเวลานั้นมีหลายคนเตือนเราแล้ว แต่ไม่ฟังไง! รู้สึกตัวเองเป็นคนเก่ง ต้องควบคุมสถานการณ์ได้สิ แล้วไงล่ะ…
จนถึงจุดที่ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีชีวิตไปทำไม ชีวิตดูไม่มีค่าสำหรับใครเลย มองไปทางไหนก็ดูเป็นคนเลว จึงได้ขอบคุณพระเจ้าสำหรับพี่เลี้ยงมากๆ ที่แม้เราจะทำผิดพลาดแต่ก็ยังอยู่ข้างๆเราเสมอ พี่เลี้ยงของเราพูดว่า “เรามีพระเจ้านะ และพระเจ้ารักเรา”
เฮ้ย!!! มันเหมือนมีแสงสว่างโผล่ออกมาบ้างในเวลานั้น
ขณะที่เรากำลังเสียใจมากๆ เจ็บมากๆ เราลืมพระเจ้าไปแล้ว
พอกลับมาทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น ความเป็นจริงที่ต้องยอมรับคือไม่มีงาน ไม่มีเงิน และทำยังไงผู้ชายคนนั้นก็ไม่กลับมา ความจริงเหล่านี้ทำให้เห็นว่ามนุษย์ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้พึ่งตัวเอง แต่ให้พึ่งพาพระเจ้า ทำไงต่อล่ะ อธิษฐาน! สารภาพบาป! เริ่มต้นใหม่! ฟังดูง่ายเนอะ แต่ในทางปฏิบัติยากมาก แต่อยากจะบอกว่าเราฝ่าฟันความเจ็บปวดมาได้ด้วยการเยียวยาจากพระเจ้า
ช่วงเวลานึงที่เราไม่มีงานทำ พระเจ้าก็ส่งงานใหญ่มาให้ ขณะที่เราไม่ได้อธิษฐานถึงเรื่องงานเลยด้วยซ้ำไปเพราะคิดแค่จะเอาอะไรกินในแต่ละมื้อ แต่พระเจ้าทรงแสนดีก็จัดเตรียมงานที่ดีเอาไว้ให้ เราน้ำตาซึมขณะขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับอาหารทุกมื้อ รู้สึกซาบซึ้งกับการจัดเตรียมของพระเจ้าจริงๆ
ก่อนนอนเราอธิษฐานสารภาพบาปกับพระเจ้า จนหลับไปพร้อมกับคราบน้ำตาและเสียงสะอื้นในทุกคืน เราร้องไห้วิงวอนพระเจ้าขอพระองค์ยกโทษในสิ่งที่เราเคยผิดพลาด สิ่งที่เราไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้ ความรู้สึกผิดที่เกิดขึ้นทำให้เรากลัวที่จะขออะไรมากไปกว่าการอภัยจากพระเจ้า
เราสมควรตายไปกับบาปที่เราได้ทำ แต่พระเจ้าไม่ให้เป็นไปแบบนั้น
.
ในทุกเช้าที่เราได้ลืมตาตื่นมาจะระลึกถึงพระเจ้าเสมอ
พระเจ้าที่ให้โอกาสเราได้มีชีวิตอยู่
“พระยาเวห์ เป็นพระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยพระกรุณาและพระคุณ พระองค์กริ้วช้า ทรงบริบูรณ์ด้วยความรักมั่นคง และความสัตย์จริง ผู้ทรงสำแดงความรักมั่นคงจนถึงพันๆ ชั่วอายุคน ผู้ประทานอภัยการล่วงละเมิด การทรยศและบาป”
(อพยพ 34:6-7)
เราเข้าใจว่าพระเจ้าอภัยโทษเราได้จริงๆ แต่สิ่งที่เราทำเราก็ต้องรับผิดชอบ
ในเวลาที่แย่มากๆ พระเจ้ายังให้อภัยและให้โอกาสเรามีชีวิตใหม่ ไม่รู้ว่าจะต้องอธิบายสิ่งนี้ยังไง แต่มันเป็นสันติสุขที่เกิดขึ้นแล้วกับเรา เป็นสันติสุขที่เราวางใจพระเจ้าได้ กลับมาหาพระเจ้าได้เสมอ เพราะพระเจ้ามองลึกลงไปข้างใน เยียวยารักษาเราให้หายด้วยพระเมตตาและพระคุณของพระองค์ที่มีมากยิ่งกว่าบาปที่เราทำ ทำให้เรามีความหวังในทุกวันที่เราได้ตื่นมา
เมื่อเราสารภาพบาปและพระเจ้าซื้อบาปของเราไว้แล้วนั้น เรากลายเป็นคนใหม่ในพระเจ้าผ่านทางพระเยซู
เมื่อก่อนเราเป็นทาสบาป แต่ตอนนี้เราเป็นไทแล้ว
เราเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่ไม่ใช่เพื่อตัวเองอีกแล้ว เรามีชีวิตเพื่อพระคริสต์ อยู่เพื่อรับใช้ แสวงหาน้ำพระทัยของพระเจ้าที่มีอยู่ในชีวิต ตอนนี้เราเจอพระพรที่พระเจ้าให้มา เจอสิ่งที่เราอยากจะพัฒนาให้ดีขึ้นเพื่อพระองค์ ซึ่งเราเชื่อจริงๆ ว่าพระองค์จะใช้ให้เกิดผล เพราะเราเป็นผู้รับใช้เต็มเวลาไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม
…แต่แม้ว่าเราจะได้รับความหวังใหม่ มีชีวิตใหม่ สิ่งที่เราเคยกระทำก็ยังคงตามหลอกหลอนอยู่เสมอ เรื่องความผิดบาปที่เคยทำมักจะกลับมาในยามที่เราอ่อนกำลัง นั่นยิ่งทำให้เราต้องพึ่งพาพระเจ้า เพราะรู้แล้วว่าตัวเองอ่อนแอ
_____________________
เราไม่มีทางรู้เลยว่าจะมีชีวิตได้อีกนานแค่ไหน เราจะตายเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะฉะนั้นในทุกวันที่เรายังมีชีวิตอยู่ ยังหายใจอยู่ “ชีวิตเป็นสิ่งมีค่ามากๆ”
เรายังสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้
เรายังได้รับการอภัยเสมอจากพระเจ้าเมื่อเราสารภาพ
เราพลาดได้ แต่ก็เริ่มใหม่ได้เช่นกัน
ขอให้ชีวิตเรานั้นอยู่ในการทรงนำและแผนการของพระองค์ เรียนรู้จากความผิดพลาดและเชื่อวางใจในทิศทางที่พระเจ้ามีต่อชีวิตของเรา เมื่อเดินไปกับพระเจ้าก็ไม่ต้องกลัวเลยว่าจะล้มเมื่อไหร่ แค่รู้ว่าทุกครั้งที่ล้มลงพระเจ้าจะยื่นมือมาดึงเราขึ้นและจูงให้เดินต่อไปได้เสมอ
#ชูใจชวนแชร์ เพราะเรารู้ว่าทุกคนมีเรื่องเล่า… ชูใจจึงชวนมา ‘ส่งต่อ’ เรื่องราวที่พระเจ้าทรงทำในชีวิตของคุณเพื่อ ‘ชูใจ’ คนอื่นต่อไป ( <3 อ่านรายละเอียดได้ที่ >> https://choojaiproject.org/choojai-forward/ )
Related Posts
- Author:
- โปรดิวเซอร์สาวฟรีแลนซ์ มุ่งมั่นในการสร้างภาพยนตร์อิสระ รับแต่งหน้าเจ้าสาว หลงรักหม่าล่าและหนังสั้นพอๆ กัน ส่วนพระเจ้านั้นรักที่สุดอยู่แล้วล่ะ!
- Illustrator:
- Emma C.
- เด็กสาวหน้านิ่งจากเมืองกรุง มุ่งหน้าใช้ชีวิตในเมืองเหนือ พระเจ้านำให้ได้มาทำงานกับชูใจ เธอผู้นี้มีความสามารถหลากหลาย ทั้งวาดภาพ เขียน เรียบเรียง และเอาขามาพาดคอระหว่างนั่งทำงาน เธออินกับการสะกดคำให้ถูกต้องตามราชบันฑิตฯ และมีรสนิยมวินเทจผิดจากความเป็นเจนวาย เป็นหนึ่งใน Avenger ทีมบก.ที่จะมาช่วยชูใจผู้อื่นกัน
- Editor:
- Emma C.
- เด็กสาวหน้านิ่งจากเมืองกรุง มุ่งหน้าใช้ชีวิตในเมืองเหนือ พระเจ้านำให้ได้มาทำงานกับชูใจ เธอผู้นี้มีความสามารถหลากหลาย ทั้งวาดภาพ เขียน เรียบเรียง และเอาขามาพาดคอระหว่างนั่งทำงาน เธออินกับการสะกดคำให้ถูกต้องตามราชบันฑิตฯ และมีรสนิยมวินเทจผิดจากความเป็นเจนวาย เป็นหนึ่งใน Avenger ทีมบก.ที่จะมาช่วยชูใจผู้อื่นกัน