สาวน้อยคนหนึ่งเขียนข้อความมาถึงพี่สาวว่า…
“เขาเข้ามาจีบ มาขอเป็นแฟน
พอคบกันซักพักเขาบอกว่าที่ผ่านมาเข้าใจผิด เขาไม่ได้รัก (#อ่าวเห้ย ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หว่า)
ก่อนรู้จักกันเราก็อยู่ได้มีความสุขดี แต่ทำไมพอเขาเข้ามาในชีวิตแล้วหายไป เรากลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้…
คนเราหมดรักได้ด้วยเหรอคะ? หรือที่จริงไม่ได้รักกันตั้งแต่แรก?”
____________________
เมื่อเราพูดกันเรื่องอกหัก รักไม่สมหวัง รักแล้วเลิกอย่างของสาวน้อยคนนี้ ฟังเแล้วค่อนข้างใกล้เคียงกับเรื่องของอัมโนนกับทามาร์เลย หลายคนอาจแปลกใจว่าเรื่องอกหักดราม่ามีในพระคัมภีร์ด้วยเหรอ อ๊ะๆๆ ถ้าไม่อ่านพระคัมภีร์ก็ไม่รู้สิจ๊ะ มาๆ พี่สาวจะเล่าให้ฟัง แต่กลับไปอ่านด้วยตัวเองจะยิ่งดีคูณสามไปอีก
ใน 2 ซามูเอล บทที่ 13 อัมโนนหนึ่งในโอรสของกษัตริย์ดาวิด หลงรักทามาร์
ซึ่งเป็นน้องสาวคนละแม่กัน ขนาดที่ว่าหลงรักจนล้มป่วยกันเลยทีเดียว
“ข้าแต่ราชโอรสของพระราชา ไฉนทูลกระหม่อมจึงซมเซาอยู่ทุกเช้าๆ จะไม่บอกให้เกล้าฯทราบบ้างหรือ”
อัมโนนตอบเขาว่า “เรารักทามาร์น้องหญิงของอับซาโลมอนุชาของเรา” (ข้อ 4)
และเมื่อทำอุบายหลอกล่อได้ครอบครองทามาร์สมใจแล้ว กลับทอดทิ้งเธอ
ทำให้ทามาร์ทั้งเสียใจ และอับอายเป็นอย่างยิ่ง บร๊ะ! ทำไมเป็นคนอย่างนี้
ต่อมาอัมโนนก็เบื่อหน่าย และเกลียดชังเธอยิ่งนัก ความเกลียดชังครั้งนี้ก็มากยิ่งกว่าความรัก
ซึ่งท่านได้รักเธอมาก่อน ดังคำที่เธอพูดกับอัมโนนเมื่อท่านขับไล่เธอว่า
“อย่าเลยพระเชษฐา ที่จะขับไล่หม่อมฉันไปครั้งนี้นั้นก็เป็นความผิดใหญ่ยิ่งกว่าที่พระเชษฐาได้ทำกับน้องมาแล้ว”
.
แต่อัมโนนยังคงให้มหาดเล็กไล่เธออกมา (ใจร้ายมากเลย ขอบอก)
เชื่อว่า ความรู้สึกของน้องคงไม่ต่างจากทามาร์เท่าไหร่ ที่เสียใจที่ถูกเทจากชายที่เคยหลงใหลในตัวเอง แถมยังขับไล่ไสส่งเราไปให้พ้นๆ ทามาร์ถึงกับฉีกเสื้อ เดินเอามือปิดหน้าร้องห่มร้องไห้ฮึกๆ ไปตลอดทาง
“ทามาร์จึงเอาขี้เถ้าใส่ที่ศีรษะของเธอและฉีกเสื้อคลุมยาวมีแขนที่เธอสวมอยู่นั้นเสีย
เอามือกุมศีรษะเดินพลางร้องครวญไปพลาง”
ความรู้สึกทามาร์ในเวลานั้นคงไม่รู้จะไปไหน ไปหาใครดี แต่ยังดีที่ทามาร์มีสติ #ชีวิตแค่โดนทำร้าย ไม่ได้ทำอะไรให้เรื่องมันแย่ลงไปอีก เช่น ทำร้ายตัวเอง หรือฆ่าตัวตาย พระคัมภีร์บันทึกว่า เธอเลือกที่จะเดินกลับไปหาครอบครัว กลับไปหาอับซาโลมผู้เป็นพี่ชายและพักทำใจอยู่ในวังของท่าน (ข้อ 20) ส่วนดาวิดผู้เป็นบิดาเมื่อทราบเรื่องแล้วก็โกรธมาก (ซึ่งที่จริงเหตุการณ์เหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นของคำทำนายของนาธัน ต่อครอบครัวของดาวิดว่า ลูกๆ ของดาวิดจะทำศึกสายเลือดกันเอง โอ้ว น่ากลัว!)
นั่นแสดงให้เห็นว่า ทามาร์ ยังมีคนที่รักจริงและพร้อมที่จะดูแลเธอในยามที่เธอโศกเศร้าอ่อนแอ ซึ่งก็คือคนในครอบครัวของเธอนั่นเอง การกลับไปหาครอบครัวที่รักเรา พร้อมจะดูแลเราอยู่เสมอ นับเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดนะจ๊ะ ขอบอกเลย
และสำหรับความเศร้ากับรักที่เพิ่งผ่านพ้นไป โดยเฉพาะความรักที่เราไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มต้นด้วยซ้ำ คงจะมีคำถามมากมายที่อยากได้คำตอบ และคงอยากจะถามเค้าเหลือเกินว่า #หยั่งงี้ก็ได้เหรอ หรือบ้างก็เริ่มสงสัยในความงามและคุณค่าของตน หาเรื่องอัพหน้า ลดหุ่น ฉีดโบท๊อกซ์ สร้างซิกซ์แพ็คกันไป ด้วยหวังว่า สิ่งเหล่านี้จะทำให้ใครคนนั้นหันกลับมามองเรา หรือได้เจอรักใหม่ที่แท้ทรูกว่าเดิม
ซึ่งอยากจะบอกว่า สำหรับคนที่รักเราจริง รูปร่างหน้าตา สถานะ หรือแม้แต่ทักษะนู่นนี่นั่น ไม่ใช่ตัวแปรที่สำคัญขนาดนั้นอ่ะ แม้กระทั่งทามาร์ที่สวยเลือกได้ ไฮโซโบว์ใหญ่เป็นถึงราชธิดาของกษัตริย์ เป็นแม่ศรีเรือนทำอาหารก็ได้ยังโดนเทได้เลย เทออกจากวังซะด้วย ดังนั้นแล้ว อย่าด่วนสรุปว่า เค้าไม่รักเราเพราะเราไม่มีดี เพราะนั่นไม่ใช่ความจริงและไม่ใช่ความรักที่แท้ทรู
และแน่นอนที่สุด ความรักที่เพิ่งผ่านพ้นไปนี้ แตกต่างอย่างยิ่งกับความรักของพระเจ้าที่ทรงมีให้กับเรา พระองค์ทรงรักเรา “ก่อน” ที่เราจะรักพระองค์ซะอีก (1 ยอห์น 4:19) พระองค์ทรงรักเราอย่างปราศจากเงื่อนไข จนได้ประทานพระบุตรมาไถ่เราให้ได้รับความรอด (ยอห์น 3:16) และเพื่อให้เราได้มีชีวิตที่ครบบริบูรณ์อีกด้วย (ยอห์น 10:10) พระเจ้ารักเรา “แม้ว่า” เราเป็นคนบาป ไม่ใช่รัก “เพราะว่า” ความดีงามของเรา
สำหรับหลายคนแล้ว ช่วงเวลาที่ทุกข์ใจ กลับกลายเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด ที่จะได้สัมผัสถึงการทรงสถิตของพระเจ้าในก้าวเล็ก ๆ ที่เราค่อย ๆ ฟื้นขึ้นมาในแต่ละวัน
“ไม้อ้อช้ำแล้วท่านจะไม่หัก ไส้ตะเกียงเป็นควันจวนดับแล้วท่านจะไม่ดับ”
(มัทธิว 12:20)
ดังนั้นอย่าให้วิกฤตความรักที่เกิดขึ้น ทำให้เราพลาดโอกาสที่จะได้เจอความรักที่แท้ทรูจากพระเยซูคริสต์นะคะ
____________________
เอาล่ะค่ะท่านผู้ชม ตอนนี้เชื่อว่า ในไม่ช้าน้องน่าจะลุกขึ้น สะบัดบ็อบ เดินสวย ๆ ออกไปใช้ชีวิตได้แล้ว แต่เพื่อไม่ต้องเจ็บซ้ำ ๆ ความรักครั้งใหม่ควรจะเป็นยังไงดีน้อ? คำตอบในใจคงไม่พ้น 1 โครินธ์ 13:4-7 อ่ะ ยกมาให้อ่านอีกทีกันลืมละกันเนอะ
“ความรักนั้นก็อดทนนานและกระทำคุณให้ ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด แต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบ ความรักทนได้ทุกอย่างแม้ความผิดของคนอื่น และเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ และมีความหวังอยู่เสมอ และทนต่อทุกอย่าง”
ไม่ว่ากับใคร ที่ไหน ยังไง ถ้าเค้าคนนั้นดูแล้วมีคุณสมบัติเหล่านี้อยู่ แล้วมาวอแวกับเราแล้วล่ะก็ อธิษฐานกับพระเจ้าด่วนเลยค่ะ ว่าใช่เค้ามั้ย? ถ้าใช่ คบกันถึงขั้นแจกการ์ดเมื่อไหร่ อย่าลืมชวนพี่ ๆ แถวชูใจไปแสดงความยินดีด้วยนะจ๊ะ
.
พี่สาวยุค ‘90
<3 พบกับ #LoveCoach และ #โค้ชเจเจ้ คอลัมน์ตอบปัญหาความรักในสไตล์คริสเตียนได้ทุกวัน อังคารสีชมพูววว์ หรือ ใครที่มีเรื่องความรักแน่นอก อยากให้พี่ชูใจช่วยยกออก ก็ Inbox เข้ามาได้จ้า <3
Related Posts
- Author:
- พี่สาวหัวใจยังใสคนนี้ นอกจากเป็นผู้รับใช้เต็มเวลาที่พึ่งเรียนจบพระคริสตธรรมมาหมาดๆ แล้วก็ยังเป็นพี่สาวที่เข้าใจว่าเป็นวัยรุ่นคริสเตียนในเวลานี้ มันอยู่ยาก มันเหนื่อย เลยอยากมาแบ่งปันให้น้องๆ เห็นว่า พระเจ้าเข้าใจทุกสถานการณ์ พระเจ้าไม่เชยนะ พระคัมภีร์ contemporary มากกว่าที่น้องคิดนะจร้าาาา
- Illustrator:
- tumtim
- เด็กสาววัยรุ่นพึ่งจบจิตวิทยามาหมาดๆ แต่มุ่งมั่นตั้งใจจะทำงานสายกราฟิก เธอผู้ยังหาค้นหาตัวเองคนนี้มีความสามารถมากมายที่ตัวเองไม่มั่นใจอยู่ตลอดเวลา เลยเจอพี่ชูใจจับมาใช้งานให้มั่นใจซักทีว่าตัวเองมีของ
- Editor:
- Jick
- บก.ชูใจ ผู้ใฝ่ฝันจะชูใจน้องๆ จากความพลาดของตัวเอง