Money Series : เรื่องเงินนี่…ซีเรียส
“
เนื้อเรื่อง โดย : นายคนนั้น
การ์ตูน โดย : ลาเบย หัวใจติ่ง
”
สวัสดีนะคะ ชาวชูใจ เราชื่อ ออม เป็นเพื่อนของเมย์ ช่วงนี้เมย์เค้าค่อนข้างอ่อนไหวง่าย ออมจะมาพูดคุยกับทุกคนแทนค่ะ
ออมว่าหลายคนคงเคยผ่านสถานการณ์ช็อตกันมาแล้ว หลายคนคงเคยเงินขาดมือ… และเวลาที่สภาพการเงินเริ่มตึงๆ อย่างนี้ เราก็มักจะนึกถึงคนที่เราเคยช่วยเหลือไว้ ใช่แล้วค่ะเหล่าลูกหนี้ที่รักไง… ตอนมายืม เราก็เป็นเหมือนเพื่อนรัก แต่พอไปทวงคืนแค่คนรู้จักก็ยังเป็นไม่ได้เล้ยยยย เดินสวนกันทำเป็นไม่เห็น ไปหาที่บ้านก็ปิดบ้านหนี แบบนี้ก็มีแฮะ!
ช่วงก่อนหน้านี้ เมย์เค้าเคยให้เงินเพื่อนคนนึงยืม เพื่อน ‘บางคน’ เค้ามาขอร้องเพราะมีปัญหาหมุนเงินไม่ทันจริงๆ เมย์เค้าพอมีเงินเก็บอยู่บ้างเลยช่วยเหลือไป แต่นี่ก็ 2-3 เดือนผ่านมาแล้ว ไม่รู้ทำไมเพื่อนคนนั้นหมุนเงินไม่เสร็จซักที
ทุกคนก็มีความจำเป็นทั้งนั้น ดังนั้นยืมก็ส่วนยืม ให้ก็ส่วนให้ ทำอะไรให้มันชัดเจนเถอะค่ะ จริงอยู่คริสเตียนหลายคนใจดี ให้ยืมไม่หวังผลตอบแทน แต่ให้ยืมก็คือให้ยืม… ถึงเวลาก็ต้องคืนนะคะ รออะไรกันอยู่ T^T
เรื่องราวความ Fail ของฉันในการใช้เงิน
ตอนที่ 2 : ยืมไม่ผิด…ผิดที่ไม่คืน
…
(แล้วเมย์ก็ได้รู้ว่า…ไม่ใช่แค่เจ้าหนี้คนนั้นที่โดนบล๊อก #ทีมเจ้าหนี้)
(ไม่อยากลงเอยแบบนี้ อ่านช่วง Money Tips สิคะ T^T)
ช่วง Money Tips : ข้อควรระวังก่อนตัดสินใจให้เงินใครยืม
“มีเงินเขานับว่าเป็นน้อง มีทองเขานับว่าเป็นพี่
แต่ถ้าเป็นหนี้ก็แทบไม่มีใครนับญาติ” – พี่แบงค์ได้กล่าวเอาไว้
ก่อนจะให้ใครยืมนั้นเราควรคิดก่อนว่า…
- เขาจำเป็นต้องใช้เงินนี้จริงรึเปล่า? แน่นอนว่าทุกคนที่มายืมก็มักจะอ้างอยู่แล้วว่าจำเป็น แต่คำว่าจำเป็นนั้นจำเป็นแค่ไหน? เราควรตั้งสติไตร่ตรองก่อน หากจะให้ก็ไม่ควรให้มากกว่าความจำเป็นจริงๆ
- ถ้าให้เขาไปแล้วเราต้องไม่เดือดร้อน ให้เท่าที่ช่วยได้ และเท่าที่เราสบายใจ
- ดูความสามารถในการใช้เงินคืนตามกำหนดเวลาที่เป็นไปได้
ให้ยืมยังไงให้ ไม่ผิดใจกันทีหลัง?
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 การให้ยืมเงินเกินกว่า 2,000 บาท นั้นต้องทำเป็นหนังสือสัญญามีลายลักษณ์อักษร (ถ้าไม่มีหลักฐานศาลท่านไม่รับฟ้องนะ)
- ลายลักษณ์อักษรนี้ ไม่จำเป็นต้องเป็นสัญญาพิมพ์ออกมาจากคอมก็ได้ อาจเป็นการเขียนแล้วลงลายมือชื่อกำกับ (ควรมีพยานในการทำสัญญาด้วย เพื่อความปลอดภัยในวันข้างหน้า)
- ไม่ควรยื่นเงินให้กันตรงๆ จากมือ แม้ว่าจะสนิทกันขนาดไหน เพราะการยื่นให้ตรงๆ มันล่องลอยไม่มีหลักฐาน อย่างน้อยที่สุดก็ควรโอนผ่านบัญชีธนาคาร เพราะมีการบันทึกและมีสลิปที่ออกโดยธนาคาร หรือไม่ก็จูงมือกันไปทำการโอนเงินที่เคาน์เตอร์ธนาคารเลย
- ข้อความทางเฟสบุ๊ค, ไลน์, แชท และอีเมล์ ไม่นับเป็นสัญญา และไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าได้มีการให้ยืมกันจริงไหม เป็นหลักฐานที่ไม่ค่อยมีน้ำหนักหากเกิดคดีความ
ยืมยังไงให้สบายใจ ไม่ต้องกังวล?
- ถ้ามีความจำเป็นต้องยืมจริงๆ ก็ให้เรากำหนดวันที่ต้องคืนให้ชัดเจน ตกลงกับผู้ให้ยืมอย่างตรงไปตรงมาเรื่องการคืนและการรักษาสัญญา เพราะการยืมแล้วไม่รักษาสัญญาสามารถก่อปัญหาบานปลายได้
- การคืนก็เช่นเดียวกัน ควรคืนผ่านระบบของธนาคาร หรือมีการจดบันทึกลงลายมือชื่อ เพราะความสับสนอาจเกิดขึ้นได้ทั้งกับผู้ให้ยืมและผู้ยืม หากเกิดปัญหาอะไรจริงๆ อย่างน้อยมีสลิป หรือ บันทึก ก็อาจจะช่วยเราในการไกล่เกลี่ยได้
- ไม่ควรปิดการยืมด้วยการไปยืมคนหนึ่งมาคืนอีกคนหนึ่ง เพราะเป็นการสร้างนิสัยที่ไม่ดี และก่อให้เกิดปัญหาตามมาได้
____________________________________
พระคัมภีร์พูดอย่างไรเกี่ยวกับการยืมและการคืน?
- พระคัมภีร์ไม่ได้ห้ามยืม แต่ถ้ายืมแล้วต้องคืน…
การคืนได้แล้วไม่คืน หรือการวางแผนตั้งแต่แรกว่าจะไม่ขึ้น คือ ความอธรรม
“คนอธรรมขอยืม และไม่คืน แต่คนชอบธรรมใจกว้างและแจกจ่าย” (สดุดี 37:21)
- อาจารย์เปาโลไม่อยากให้เป็นหนี้กัน…
เพราะผู้ยืมนั้นก็ตกเป็นทาสของคนให้ยืม โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเรากู้ยืมสถาบันการเงิน หรือกู้นอกระบบ สำหรับพี่น้องคริสเตียนหรือเพื่อนฝูงนั้น การยืมเงินจะทำให้รูปแบบความความสัมพันธ์เปลี่ยนแปลงไป จากมิตรภาพที่ดีกลายเป็นเจ้าหนี้และลูกหนี้ ซึ่งอาจทำให้ก่อเกิดความรู้สึกอื่นเข้ามาทำลายความรักที่มีต่อกัน เช่น ความโกรธ เกลียด แค้นเคือง น้อยใจ ฯลฯ
“อย่าเป็นหนี้อะไรใครเลย นอกจากความรักซึ่งมีต่อกัน เพราะว่าผู้ที่รักคนอื่น
ก็ได้ปฏิบัติตามธรรมบัญญัติครบถ้วนแล้ว” (โรม 13:8)
- อย่าคิดดอกเบี้ยหรือเอาผลประโยชน์จากคนขัดสน…
พระคัมภีร์ไม่ได้ห้ามคิดดอกเบี้ยจากการลงทุน อย่างเช่นเศรษฐีในเรื่องเล่าของพระเยซูก็ต้องการดอกเบี้ยจากเงินฝากธนาคาร ถ้าการกู้ยืมนั้นทำเพื่อการลงทุน ผู้ให้ยืมก็สามารถได้รับผลตอบแทนอันเป็นดอกเบี้ย หรือค่าเสียโอกาส หรือเงินตอบแทนใดๆ ก็ตามสมควรแต่ตกลงกัน
“เพราะฉะนั้นเจ้าควรเอาเงินของเราไปฝากกับนายธนาคาร เมื่อเรามาก็จะได้รับเงินทั้งดอกเบี้ยด้วย” (มัทธิว 25:27)
แต่พระคัมภีร์ไม่สนับสนุนให้ขูดรีดเอากับคนขัดสน ไม่เอาส่วนเกินกับคนยากจน แถมยังสนับสนุนให้เลี้ยงดู และหยิบยื่นน้ำใจแก่กันและกันด้วย
“ถ้าพี่น้องของเจ้ายากจนลงและเลี้ยงตัวเองอยู่กับเจ้าไม่ได้ เจ้าจะต้องเลี้ยงดูเขา ให้เขาอยู่กับเจ้าอย่างคนต่างด้าวและคนที่อาศัยอยู่ อย่าเอาดอกเบี้ยหรือเงินเพิ่มอะไรจากเขาแต่จงยำเกรงพระเจ้า เพื่อว่าพี่น้องของเจ้าจะอยู่ใกล้ชิดกับเจ้าได้ เจ้าอย่าให้เขายืมเงินด้วยคิดดอกเบี้ย หรือขายอาหารด้วยเอากำไรจากเขา” (เลวีนิติ 25:35-37 ฉบับ 1971)
(เรื่องราวการเงินของเมย์จะเป็นยังไงต่อไป ติดตามตอนหน้านะคะ)
ติดตาม Money Series : เรื่องเงินนี่…ซีเรียส! Ep. ต่อไปได้ในวันพฤหัสหน้า แล้วเรามาร่วมลุ้นกันว่าหนูเมย์จะทำยังไงต่อไป พร้อมกับ Money Tips ที่จะช่วยให้เราจัดการการเงินได้ดีขึ้นจ้าาาาาา ^^
Related Posts
- Author:
- Blogger ผู้มากความสามารถในงานเขียน เป็นคริสเตียนที่เรียนสังคมวิทยา ฯ มาอย่างโชกโชน สเตตัสปัจจุบันเป็นนักเขียนอิสระ และ รับใช้พระเจ้าไปด้วย :)
- Illustrator:
- ลาเบย (Labiere)
- จับงานวาดมาตั้งแต่มัธยม จบออกแบบมาก็ยังวาดไม่ยั้ง ยังอยู่ร่วมกันในแวดวงงานรับใช้ไม่เคยหาย พร้อมๆกับความฝันในงานมิชชั่นนารี
- Editor:
- Emma C.
- เด็กสาวหน้านิ่งจากเมืองกรุง มุ่งหน้าใช้ชีวิตในเมืองเหนือ พระเจ้านำให้ได้มาทำงานกับชูใจ เธอผู้นี้มีความสามารถหลากหลาย ทั้งวาดภาพ เขียน เรียบเรียง และเอาขามาพาดคอระหว่างนั่งทำงาน เธออินกับการสะกดคำให้ถูกต้องตามราชบันฑิตฯ และมีรสนิยมวินเทจผิดจากความเป็นเจนวาย เป็นหนึ่งใน Avenger ทีมบก.ที่จะมาช่วยชูใจผู้อื่นกัน