ต้นฉบับภาษาอังกฤษ Being a godly man in a relationship
เอาล่ะ มาเข้าประเด็นกันเลยดีกว่า มันก็จะมีอยู่ไม่กี่เรื่องหรอกครับในชีวิตคริสเตียนเราที่จะทำให้เรารู้สึกดีได้มากๆ เหมือนความรู้สึกที่ได้ค้นพบ “ใครซักคนที่ใช่” ความรู้สึกแบบที่ได้คลิกกัน ได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น ได้มีประสบการณ์ชีวิตร่วมกัน หรือแค่ได้นั่งเอื่อยเฉื่อยอยู่ข้างๆ กัน
คุณอดยิ้มไม่ได้เพียงแค่ได้คิดถึงครั้งต่อไปที่จะได้เจอกัน และเมื่อพบเธอ หัวใจของคุณก็ตีลังกาประหนึ่งเล่นยิมนาสติก แล้วนาทีนั้นคุณก็ฝันไปว่ากำลังจะได้แต่งงานกัน แล้วโลกใบใหม่ก็จะเริ่มต้นขึ้น
แต่ทว่า ฉากมันกลับไม่ได้ตัดจบที่คำว่า “ตราบชั่วฟ้าดินสลาย” และครองรักกันอย่างมีความสุขตลอดไป ไม่ใช่อะไรแบบนั้นเลย เพราะนี่คือชีวิตคริสเตียนที่ยังต้องต่อสู้ดิ้นรนกับสงครามฝ่ายวิญญาณรอบตัวเรา ไม่เว้นแม้กระทั่งในชีวิตรักโรแมนติกของเราด้วย
แน่นอนว่าการที่เราได้คบหากับคริสเตียนด้วยกันช่างเป็นความรู้สึกที่แสนพิเศษ แต่ไม่ใช่เรื่องดีแน่ถ้าเรายอมปล่อยใจไปตามความรู้สึกทุกอย่าง การที่เราปล่อยให้ตัวเองถูกชักจูงไปตามอารมณ์และความปรารถนาเป็นเรื่องอันตรายเลยเชียวล่ะ โดยเฉพาะบรรดาชายหนุ่มที่กำลังตกอยู่ในความรักด้วยแล้วล่ะก็ การต้องเผชิญกับความกดดันเรื่องการวางตัวให้เหมาะสมและรักษาความคิดจิตใจให้บริสุทธิ์ในเวลาที่ต้องใกล้ชิดกับพวกสาวๆ นั้นเป็นเรื่องที่ไม่เคยง่ายเลย
ผมจึงพยายามให้คำแนะนำโดยหวังว่าข้อพระคัมภีร์เหล่านี้จะมากพอที่จะช่วยคุณได้ แต่ผมบอกไว้ก่อนเลยนะว่า นี่ไม่ใช่บทความประเภทข้อควรปฏิบัติที่คุณต้องทำตาม หรือเป็นแนวทางจากคนที่ชีวิตไม่ด่างพร้อยเลย ตรงกันข้าม นี่เป็นคำแนะนำที่มาจากประสบการณ์ตรงของคนที่เคยมีความสัมพันธ์แบบไม่สวย ซ้ำยังเคยทำผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่ามาก่อน
คุณต้องเป็นฝ่ายนำเธอ
ถ้าคุณเป็นหนุ่มคริสเตียนที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่ ขออนุญาตให้ผมเน้นย้ำกับคุณหน่อยว่า คุณน่ะเป็นผู้นำในความสัมพันธ์นี้ แม้ว่าการคบกันคือการเป็นทีมเดียวกันก็จริง แต่ความสัมพันธ์ที่เข้มแข็งโดยมีพระเจ้าเป็นศูนย์กลางนั้นจำต้องเริ่มต้นและจบลงที่คุณเท่านั้น อย่ามัวรอให้คู่ของคุณเป็นฝ่ายเริ่ม นี่เป็นหน้าที่ของคุณครับ
แต่ข้าพเจ้าต้องการให้พวกท่านเข้าใจว่า พระคริสต์ทรงเป็นศีรษะของชาย และชายเป็นศีรษะของหญิง
1 โครินธ์ 11:3
ผมทราบว่าข้อนี้กล่าวในบริบทของการแต่งงาน แต่เราสามารถใช้หลักการเดียวกันนั้นกับความสัมพันธ์ก่อนการแต่งงานได้ด้วย
พ่อแม่ของแฟนคุณก็เกี่ยวด้วยนะ
บางทีประเด็นนี้อาจเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคุณ แต่ผมอยากกล่าวถึงเรื่องนี้เพราะผมทำผิดพลาดมาก่อนแล้ว ผมคิดไปเองว่าการให้พ่อแม่ของแฟนเข้ามามีส่วนร่วมในความสัมพันธ์ของเรานั้นเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยสำคัญ แต่ไปเชิญพวกท่านมาเถอะ เพื่อจะได้มีโอกาสนั่งพูดคุยเปิดใจว่าว่าพวกเขาคาดหวังอะไรจากคุณบ้าง และคุณอยากให้ท่านมีส่วนร่วมอย่างไร เพราะยังไงซะคนที่คุณคบหาก็เป็นลูกสาวของท่าน หรือหากคุณสามารถคุยเป็นส่วนตัวกับคุณพ่อของเธอได้ก็จะยิ่งดีเลย นั่นหมายถึงว่าคุณย่อมต้องมีความใกล้ชิดกับพวกท่านมากพอที่จะมีปฏิสัมพันธ์กันได้เป็นประจำ
กำหนดขอบเขตขาว-ดำให้ชัดไปเลย ไม่ให้มีพื้นที่สีเทา
สิ่งที่บ่อนทำลายความสัมพันธ์ได้ร้ายแรงที่สุดอย่างหนึ่งไม่ใช่สิ่งที่คุณพูดออกมา แต่เป็นสิ่งที่คุณไม่ได้พูดคุยกันต่างหาก ขอบเขตเป็นเรื่องสำคัญนะครับ เราจำเป็นต้องกำหนดขอบเขต ถ้าคุณคิดว่า “พวกเราจะจัดการกับมันตอนที่เกิดปัญหา” หรือ “เราไม่มีทางตกหลุมแบบนั้นหรอก เพราะเราเป็นคริสเตียนที่เอาจริงเอาจัง” ขอให้คุณรู้ไว้เลยว่าคุณจะพลาดท่าแน่ๆ หนุ่มๆ ทั้งหลาย พวกคุณก็รู้ความคิดของคุณใช่ไหม? คุณรู้ใช่มั้ยว่าคุณต้องต่อสู้กับอะไร? และไม่มีการทดลองไหนที่ใหญ่ไปกว่าเรื่องเพศตรงข้าม ถ้าคุณกำลังคบกับสาวซักคนอยู่ คุณทั้งคู่จะมีแรงดึงดูดเข้าหากัน แล้วมันก็เป็นเรื่องธรรมชาติที่คุณอยากแสดงออกทางกายต่อกัน
ดังนั้นก็จะมีคำถามสุดฮิตตามมาว่า เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราวางตัวเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม ซึ่งเป็นคำถามที่ดีมากสำหรับคนที่อยากจะมีท่าทีที่ถูกต้องในความสัมพันธ์ แต่คำถามนี้ก็ยังปัญหาตรงที่ พระคัมภีร์เองก็ไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจนสำหรับเรื่องนี้ เราจึงคิดไปเองว่ามีหลายอย่างที่เราทำได้ เว้นไว้แค่การมีเพศสัมพันธ์ก็พอ พฤติกรรมที่ยังไม่ถึงขั้นการมีเพศสัมพันธ์ ก็ยังเป็นสีเทาๆ ไม่ขาวไม่ดำและขึ้นอยู่กับวิจารณญานส่วนบุคคล แต่เราลองมาดูข้อพระคัมภีร์เหล่านี้กันซักหน่อยนะ
ท่านทั้งหลายไม่ใช่เจ้าของตัวท่านเองเพราะว่าพระเจ้าทรงซื้อท่านไว้แล้วด้วยราคาสูง ฉะนั้น จงถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าด้วยร่างกายของพวกท่านเถิด
1 โครินธ์ 6:19-20
สุดท้ายนี้พี่น้องทั้งหลาย ขอจงใคร่ครวญดูสิ่งเหล่านี้คือ สิ่งที่เป็นจริง สิ่งที่น่านับถือ สิ่งที่ยุติธรรม สิ่งที่บริสุทธิ์ สิ่งที่น่ารัก สิ่งที่ควรแก่การสรรเสริญ รวมทั้งถ้ามีสิ่งใดที่ยอดเยี่ยม สิ่งใดที่น่ายกย่อง
ฟิลิปปี 4:8
เราได้รับการทรงเรียกให้เป็นประชาชาติบริสุทธิ์ ให้ถวายเกียรติแด่พระเจ้าด้วยร่างกายนี้ ดังนั้นผมขอถามก่อนว่า คุณจะเริ่มคิดเลยเถิดได้ตั้งแต่ตอนไหน? ซึ่งถ้าคุณเป็นเหมือนผม (ผมหวังว่าคุณจะไม่เหมือนนะ) สำหรับผม คือ หลังจาก 5 วินาทีแรกที่ผมเจอหน้าแฟนสาวของผม! พูดอย่างตรงไปตรงมาเลย ในสถานการณ์แบบนี้เราต้องต่อสู้เพื่อรักษาความคิดจิตใจให้บริสุทธิ์ มันเป็นเรื่องหนักหนาสาหัสทีเดียว และแน่นอนว่าเมื่อมีความคิดเช่นนั้นแล้ว การทดลองก็จะเกิดตามมา แล้วคุณคิดว่าจะสามารถหยุดตัวเองไว้ได้จริงๆ เหรอ ไม่ช้าก็เร็วคุณก็จะถลำลึกมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดที่คุณกลับตัวไม่ได้อีกต่อไป
เราจึงต้องเปลี่ยนจากคำถามที่ว่า เราจะทำได้แค่ไหนตราบเท่าที่ยังไม่มีเพศสัมพันธ์?
เป็นคำถามที่ว่า เราจะทำได้แค่ไหนโดยที่เราจะไม่คิดเลยเถิด?
ดังนั้น การกำหนดขอบเขตความสัมพันธ์จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก สำคัญเพราะจะช่วยให้เรารักษากายใจให้บริสุทธิ์ได้ตลอดช่วงที่คบหากัน ให้เรานั่งลงพูดคุยกับแฟนของเราอย่างเปิดใจว่าอะไรทำได้และอะไรทำไม่ได้ เช่น ถ้าคุณต้องต่อสู้กับใจตัวเองอย่างหนักตอนที่คุณไปไหนมาไหนกันสองต่อสอง ก็อย่าทำเช่นนั้น ถ้าการนอนเอกเขนกด้วยกันบนโซฟาด้วยกันจะสร้างปัญหาให้คุณ ก็จงหลีกเลี่ยงซะ แล้วถ้าการจูบกันหรือลูบไล้กันไปมาสร้างปัญหาด้วยล่ะ คุณคงไม่ต้องรอให้อัจฉริยะมาตอบคำถามเหล่านี้ให้หรอกในเมื่อคุณก็ตอบตัวเองได้ว่าต้องจัดการตัวเองอย่างไร
ผมรู้ว่าผมพูดเหมือนมารที่ทำลายความสุขของคุณ แต่เชื่อผมเถอะ การถูกเนื้อต้องตัวกันนิด จูบกันสักหน่อย เริ่มจากจุดเล็กๆ แล้วปัญหาใหญ่ก็จะตามมา ไม่ทันที่คุณจะรู้ตัว ความสัมพันธ์ของคุณก็ไม่ได้มีไว้เพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้าอีกต่อไป แต่เพื่อตอบสนองตัณหาราคะของคุณเองต่างหาก
“การรักษาความบริสุทธิ์นั้นเป็นจริยธรรมที่ได้รับความนิยมน้อยที่สุดในหมู่คริสเตียน”
(ซี เอส ลูอิส)
ใช้เวลาเฝ้าเดี่ยวด้วยกันสิ
ถ้าคุณรู้สึกว่าสิ่งที่ผมกล่าวมาข้างต้นมีแต่เรื่องที่คุณ ‘ไม่ควรทำ’ แล้วล่ะก็ ต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณทำได้และควรทำอย่างที่สุดจะช่วยให้คุณกระชับความสัมพันธ์ได้ดียิ่งขึ้น การศึกษาพระคัมภีร์และอธิษฐานด้วยกันเป็นสิ่งที่ต้องทำ ตอนช่วงเริ่มต้นมันอาจจะดูขัดเขินนิดหน่อย แต่ในฐานะที่คุณเป็นผู้ชายคุณควรเป็นฝ่ายเริ่มต้น การได้รับสิ่งใหม่จากพระเจ้าและพระคำของพระองค์เป็นเรื่องสำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคน การที่คุณทั้งคู่ได้เข้ามาอยู่ต่อเบื้องพระพักตร์ของพระเจ้าเพื่ออธิษฐานด้วยกันเป็นสิ่งที่มีคุณค่า พากันพูดคุยเรื่องพระเจ้า เรื่องชีวิตคริสเตียน เรื่องที่คุณต้องต่อสู้ และพระพรของพระเจ้าในชีวิตของคุณ
เมื่อคบกันแล้ว ความสัมพันธ์จึงไม่ควรเป็นแบบต่างคนต่างอยู่ ต่างมีประสบการณ์กับพระเจ้าเองอีกต่อไป แต่ควรเป็นคนสองคนที่ร่วมใจแสวงหาพระเจ้าด้วยกัน การอธิษฐานด้วยกันหมายความว่าคุณยอมเปิดเผยชีวิตฝ่ายวิญญาณต่อกัน คุณจะได้บอกถึงภาระหนักในใจด้วยกัน อยู่ต่อหน้าพระพักตร์ของพระเจ้าอย่างเปิดเผยด้วยกัน
หนุนใจเธอให้มีส่วนร่วมในการรับใช้พระเจ้า
ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหน แฟนของคุณควรจะร่วมรับใช้พระเจ้าไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แน่นอนว่าเมื่อความสัมพันธ์เริ่มจะจริงจังมากขึ้นเรื่อยๆ เรื่องอื่นๆ ก็อาจจะต้องเอาไว้ทีหลังและลำดับความสำคัญในชีวิตของคุณคงเปลี่ยนไปบ้าง แต่อย่าให้ความสัมพันธ์มาเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอต้องห่างจากการรับใช้พระเจ้า
ฉะนั้นพี่น้องที่รักของข้าพเจ้า จงมั่นคงอยู่ อย่าหวั่นไหว จงทำงานขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้บริบูรณ์ทุกเวลา ท่านทั้งหลายพึงรู้ว่า ในองค์พระผู้เป็นเจ้า การตรากตรำของท่านจะไม่ไร้ประโยชน์
1 โครินธ์ 15:58
คุณจะหนุนใจเธออย่างไร คุณจะสนับสนุนเธออย่างไร ความสัมพันธ์ของคุณอาจจะมีปัญหาบ้าง แต่ชีวิตมันไม่ได้มีแค่เรื่องของ แล้วก็คงจะเป็นการเห็นแก่ตัวเหมือนกันถ้าจะคิดแบบนี้แทนคนอื่นด้วย
หาใครสักคนมาช่วยตรวจสอบชีวิตคุณ
ถ้าคุณหมายมั่นปั้นมือกับความสัมพันธ์ครั้งนี้แล้วล่ะก็ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งหากคุณจะหาผู้ใหญ่ที่เป็นคริสเตียนมาช่วยดูแลความสัมพันธ์ของคุณ ขอความช่วยเหลือจากพี่น้องคริสเตียนที่แต่งงานแล้วสักคู่ เป็นคนที่คุณวางใจและให้ความเคารพ และขอให้เค้าช่วยจับตาดูคู่ของคุณ ให้พวกเขาตรวจสอบชีวิตคู่ของคุณ คนที่คุณคิดว่าจะสามารถเล่าปัญหาให้พวกเขาฟังเพื่อขอคำแนะนำช่วยเหลือได้ (โดยที่คุณและแฟนต้องตกลงพูดคุยกันก่อนนะ)
และขอให้เราพิจารณาดูเพื่อจะปลุกใจกันและกันให้มีความรักและทำความดี
ฮีบรู 10:24
เพราะฉะนั้นจงหนุนใจกัน และต่างคนต่างจงเสริมสร้างกันขึ้น
1 เธสะโลนิกา 5:11
โห! นี่ผมเขียนเยอะกว่าที่ผมคิดซะอีก แต่อย่างที่ผมบอกผมเองก็ไม่ได้มีคำตอบที่สมบูรณ์หรอกนะครับ ผมก็แค่อยากจะหนุนใจในสิ่งที่ผมพอจะคิดได้จากประสบการณ์ของผมเท่านั้น
<3 พบกับ #LoveCoach และ #โค้ชเจเจ้ คอลัมน์ตอบปัญหาความรักในสไตล์คริสเตียนได้ทุกวัน อังคารสีชมพูววว์ หรือ ใครที่มีเรื่องความรักแน่นอก อยากให้พี่ชูใจช่วยยกออก ก็ Inbox เข้ามาได้จ้า <3
Related Posts
- Translator:
- Por Paula
- พอลล่า รักเด็กและหน้าก็เด็ก บุคลิกร่าเริงสดใสวัยรุ่นชอบ จึงคร่ำหวอดในงานพันธกิจวัยรุ่น ชอบเดินทางเน้นกินและถ่ายรูป มีความสามารถทั้งการเขียน การแปล เห็นงานชูใจเลยคันไม้คันมืออยากมาร่วมแจมกัน!
- Illustrator:
- Emma C.
- เด็กสาวหน้านิ่งจากเมืองกรุง มุ่งหน้าใช้ชีวิตในเมืองเหนือ พระเจ้านำให้ได้มาทำงานกับชูใจ เธอผู้นี้มีความสามารถหลากหลาย ทั้งวาดภาพ เขียน เรียบเรียง และเอาขามาพาดคอระหว่างนั่งทำงาน เธออินกับการสะกดคำให้ถูกต้องตามราชบันฑิตฯ และมีรสนิยมวินเทจผิดจากความเป็นเจนวาย เป็นหนึ่งใน Avenger ทีมบก.ที่จะมาช่วยชูใจผู้อื่นกัน
- Editor:
- W. Wanee
- นักแปลสาวสวยเสียงทอง ผู้ซึ่งอยากรับใช้พระเจ้าด้วยความสามารถด้านภาษาของเธอ งานใดที่ให้เธอรับผิดชอบ ไม่มีพลาดแน่นอน!