Q1 แตะเนื้อต้องตัวกันได้มากแค่ไหน?
Q2 ห้ามใจไม่ไหว ทำยังไงดี?
เมื่อเป็นแฟนกันให้เย็นใจแล้วววล่ะก็ มันก็ยังงงงงง ยังอีกกกกก ยังไม่จบ เรื่องที่ตามมาที่ยากยิ่งกว่าตามหาเข็มในมหาสมุทรสุดทะเลและขอบฟ้านั้นแล้วก็คือ “การทดลอง” เรื่องนี้มีสารเคมีหลายอย่างมาผสม พระเจ้าทดลองเราเหรอ? หรือเราเองที่เอาตัวไปอยู่ในความยากลำบากแบบนั้นที่กระท่อมปลายนากันสองคน? แท้จริงแล้วพระเจ้าไม่ได้จงใจจะแกล้งเรานะ พระองค์มีพระประสงค์อันดี ความรักและเพศสัมพันธ์ในการสมรสคือพระประสงค์ แต่มนุษย์ที่ร่วงหล่นจากความรักแท้ของพระเจ้า บางทีก็เบลอว่าเพศสัมพันธ์จะช่วยให้พบรักแท้ หรือเป็นจุดสูงสุดของความรัก…
ฉันสัมผัสเพราะฉันกำลังบอกว่ารักเธอ!
เป็นแฟนกันแล้วก็ไม่แคล้วอยาก… ขยับเข้าไปใกล้เธออออ ตั้งแต่วันแรกเจอออ ก็เพ้อเอาไปฝันละเมอ อุ้บส์!! ตื่นค่ะซิสสสส คนรักกันจะแตะเนื้อต้องตัวกันไปได้มากน้อยแค่ไหน? พูดไปมันก็จะซู่ซ่าส์โซดาสิงห์อยู่หน่อยๆ เพราะที่จริงแล้วการสัมผัส ก็เป็นหนึ่งใน “5 ภาษารัก” ซะนี่!! (อ่าน 5 ภาษารักฉบับเต็มได้ที่นี่)
ข้อควรระวังก็คือ… แม้เราอาจกล่าวได้ว่า การสัมผัสคือภาษารักของเรา ที่เราใช้เพื่อแสดงออกถึงความรัก แต่อะไรที่มากเกินไป ดังที่นักปราชญ์วัยรุ่นสมัยใหม่ กล่าวไว้ว่า “เยอะ!” มั๊นนนนก็ไม่ดี เช่นกันกับภาษารักแบบอื่นๆ ถ้าเราทำมัน-เยอะ-ไป ก็มีข้อเสียเช่นกัน ทำอะไรแบบมินิมอลๆ อ่ะเธอออ
เจ้! อยากทำความ #เข้าใจตรงกันนะจุดๆ นี้ ว่า…
“การสัมผัสแตะต้องตัวกันไม่ได้บาป แต่มันคือการเปิดโอกาสให้ไปถึง ณ จุดๆ นั้นแห่งความบาปได้!”
จับมือมีโอกาสเสียตัว 10% กอดกันมีโอกาสเสียตัว 60% ลูบไล้ภายนอกมีโอกาสเสียตัว 75% ลูบไล้ภายใน (ไม่ใช่การสัมผัสลำไส้ใหญ่นะ) มีโอกาสเสียตัว 100% ใช่ การจับมือกัน ลูบผม หาเหา บีบสิวให้กันไม่บาป แต่มี “โอกาส” ที่จะทำบาปต่อกันได้ง่ายขึ้นบวกกับสถานการณ์เป็นใจ เอาล่ะถ้า ซิสและโบล์(sis&Bro) เฮ้โย้วจีจี คิดตรงกันกับเจเจ้ว่า การมี sex ก่อนแต่ง เป็นสิ่งที่พระเจ้าไม่พอพระทัยนะ (อย่าว่าแต่พระเจ้าเลย พ่อแม่เราก็เสียจึยยย) แต่ทั้งๆ ที่ในพระคัมภีร์ไม่ได้กล่าว “ห้ามมีเซ็กซ์ก่อนแต่งนะ!” แต่ทำมากกว่านั้น คือจารึกลงในจิตใจ ฝังลงที่จิตสำนึกอันรู้ผิดชอบชั่วดีของเรา เจเจ้ไม่ได้หมายความว่า ชั่ว-หรือ-ดี แต่ผลของสิ่งนี้มีความเจ็บปวดที่พระเจ้าไม่ต้องการให้เราเจอ! แหม่ๆๆ ถ้าหากว่าเค้าได้รู้ว่าที่ทำไปนั้น ชั้นปกป้องมันไว้เพื่อเธอคนเดียว!! โซ้ะ โรแมนติกกก! ไม่ได้หมายถึงแค่ผู้หญิงนะ ผู้ชายก็ด้วย มันแมนมากเลยนะ ที่พวกเธอปกป้องผู้หญิงคนนึงให้เค้าได้ผูกพันกับคนที่ไว้ใจที่สุดในวันที่เธอได้แต่งงาน แล้วเธอก็เป็นคนที่ไว้ใจได้คนนึงเลยนะ! ช็อคกุเดสง่ะ!
ประเด็นจากพระคัมภีร์ และชีวิตจริง (จีๆ นะ)
ถ้าเท้าความไปยังเลวีนิติ บทที่ 18 พูดถึงข้อห้ามในการเปิดของลับคนในครอบครัวและญาติสนิท ชุมชนโบราณในสมัยก่อน ใกล้ชิดกันมากๆ ดั่งพี่น้อง (ไม่ใช่พี่น้องเสียงสู๊งงงง) การเปิดของลับในภาษาฮีบรู แปลว่า ลบหลู่ หรือ ‘มีเพศสัมพันธ์’ มันคือการก้าวข้ามเข้าไปในชีวิตอีกคนนึงมากเกินกว่าพี่น้อง (หรือเพื่อน) ควรจะทำ เรื่องแบบนี้สงวนไว้ได้แค่คนเดียวเท่านั้น ก็คู่ครองของเรานั่นเองงงงง พระเจ้าอยากให้เราเห็นความสำคัญของร่างกายเรานะ เพราะนี่เป็นพระวิหาร เป็นที่สถิตของพระเจ้า ถ้าจะเข้าบ้านเรา ถามพ่อเราก่อน! คำว่าลบหลู่ ก็คือทำอะไรแล้วไม่ให้เกียรติอีกคน (พระเจ้าของเรา)
คำว่าล่วงประเวณี แปลง่ายๆ ว่าเป็นชู้ อ้าวเฮ้ย! เจเจ้ หนูมีอะไรกะแฟนนะ ชัดเจนไม่ใช่พี่น๊องงง และก็ไม่ได้ไปเป็นชู้ก่ะใคร และก็ไม่ได้บูชาเทพ ขมังเวทย์อะไร แต่ก็จริงที่คนที่มีอะไรด้วยคือแฟนเนี้ยแหล่ะ แต่เค้ายังไม่ได้จะมาเป็นสามี หรือ ภรรยาของเราจริงๆ ดังนั้นเท่ากับว่า เรา “แอบนอกใจ” สามี-ภรรยาในอนาคตของเราไง๊ ปั้ดโถ๊!!! เท่านั้นยังไม่พอนะ ซาร่าห์… คำว่าล่วงประเวณีถูกใช้ในขณะที่บรรดาผู้เชื่อนอกใจพระเจ้าไปถือพระอื่นๆ ช่างแสบพระทรวงพระองค์จริงๆ นี่คือการลบหลู่พระเกียรติอันยิ่งใหญ่ ดังชักศึกเข้าบ้าน ดังนั้นตราบใดที่เราและเขา ยังไม่ใช่สามีภรรยาต่อกันอย่างถูกกฎหมาย และเป็นที่รับรู้ต่อสาธารณชน ก็ไม่ควรที่จะทำเพราะ ย่อมมีผลที่ตามมามากมายหากเราไม่อยู่ในสถานะ-กาล (เวลา) ที่พร้อมรับผิดชอบ
และแม้ว่า เราอยู่สถานะ เรียนจบ ทำงาน มีเงินพร้อมเลี้ยงลูกแล้วก็จริง หงายการ์ด “โตแล้วจะทำไรก็ได้” ถ้าอย่างงั้นจะรออะไร? ความผูกพันในแง่ของคนรัก คือการ “ผูกความสัมพันธ์” เข้าด้วยกัน อะไรที่ทำให้เรายั่งยืนในความสัมพันธ์? ใช่การมีเพศสัมพันธ์หรือเปล่า? การมีความสัมพันธ์ทางเพศ ไม่ใช่แค่ผูกร่างกายเข้าด้วยกันเท่านั้น แต่จิตใจ (และจิตวิญญาณ) ของเราด้วย เพราะคริสเตียนเราเมื่อรักกัน ไม่ใช่แค่ในโลกนี้ แต่นิจนิรันดร์ ดังนั้นจิตวิญญาณของเราจึงรวมเข้าไปด้วยนะ
พ้อยท์คืออะไร?
เพศสัมพันธ์คือ การเปิดเผยทุกสิ่งอย่างไม่ปกปิดซ่อนเร้น เจเจ้จะให้ภาพเปรียบเทียบว่า เป็นเหมือนการที่ชีวิตไม่มีอะไรซ่อนอยู่เลย ไม่ใช่แค่ร่างกาย แต่ไปถึงกระทั่งความคิด ความรู้สึก ถ้าทุกคนสามารถล่วงรู้ภายในใจของเจเจ้ ทุกคนก็อาจจะรับบ่ได้ (เช่นความเห็นแก่ตัวภายในใจ ความคิดที่ไม่เหมาะสมต่างๆ) ดังนั้น เรื่องนี้จึงสงวนไว้เฉพาะคนที่จะยอมรับเราได้ตลอดไปเป็นนิตย์อาเมนเท่านั้น เพราะมั่นใจได้รุยยยว่า คนนี้จะไม่ทิ้งเราไปแม้เค้าล่วงรู้ภายใน(ใจ)แล้วว่า มีอะไรที่น่าเกลียดน่ากลัวในชีวิตเราบ้าง เราจึงจะไม่เจ็บปวดเสียใจอย่างแน่นอน เพราะเรื่องเพศสัมพันธ์ ไม่ใช่มีไว้แค่ความบันเทิงเท่านั้นหากแต่เป็นการแสดงถึงความรัก และภาพประกอบของการแสดงความไว้ใจกันขั้นสุด ไว้ใจขนาดว่าไม่เหลืออะไรเลยยยยย เข้าใจยังงงง? ไม่ได้พูดถึงแค่เสื้อผ้าไง!
การมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งไม่ได้สามารถพิสูจน์ได้ว่า เมื่อแต่งงานกันไปแล้วจะรักกันมากขึ้น หรือรักครั้งนี้จะดีขึ้นกว่าเดิม หรือ/และเพื่อผูกมัดให้คนๆ นี้ไม่จากเราไป แหม่ๆ ไม่ใช่แบบเครื่องสำอางค์ ที่จะมี tester ทดลองก่อนใช้จริงอะไรอย่างนั้นนะ เรื่องนี้ไม่ต้องการ tester เราเองก็อย่าไปเป็น tester ให้ใครง่ายๆ ด้วย ที่จริงเรื่องเพศสัมพันธ์ มีแต่จะเกิดผลดี ไม่ทำอันตราย ทำให้เกิดอีกหนึ่งชีวิตบนโลกใบนี้ อรั้ยยยยยยย ดังนั้นการมีบุตร นั่นคือผลที่น่าชื่นชมและเป็นของขวัญ
แต่พอมีบุตรในสถานะที่เรายังไม่พร้อม เรากลับเรียกว่า “ทำลาย” ไม่มีใครผิด… ผิดที่เวลา (คลับฟรายเดย์มะ) ถ้างั้นให้ดี การแต่งงานคือประกาศว่า เฮ้! ทุกคน เราพร้อมแล้วนะ และถ้าเรามีลูก ก็อย่าลืมค่าเทอมล่ะ 55555 นี่ไง เวลาที่เหมาะสม
Q3 แฟนพยายามอยากมีอะไรกับเรา ทำไงดี? (แฟนไม่เชื่อ)
จะเป็นคริสเตียนหรือไม่เป็นคริสเตียน ชายหรือหญิง ก็มีอารมณ์ทางเพศกันทุกคนนะคะ ไม่ใช่ว่ามีแฟนเป็นคริสเตียนแล้วเค้าจะเป็นพระอิฐพระปูน และก็ไม่ต้องระมัดระวังอะไรกันเลย พี่เค้ารักพระเจ้า เราจึงอยู่กระท่อมปลายนาวันฝนตกกันได้!
อย่างเดียวค่ะลูกกกขาาา “ไม่” 5555 ไม่ต้องมีเหตุผล ไม่ก็คือไม่ เอาจริงๆ นะ ช่วงเวลาแบบนั้นไม่มีเวลามานั่งอธิบายเหตุผลอะไรทั้งนั้น อารมณ์มา สติไปไงคะขุ่นลูกก วิ่งหนีออกมาจากกระท่อมปลายนานั้นให้เร็วที่สุด แม้ต้องวิ่งท่ามกลางสายฝนก็ตาม โอ้ววว ดราม่าน้ำตานอง
แล้วที่ถามเจเจ้อ่ะ คนนั้นเค้ายังไม่เชื่อใช่ป่ะ? เจเจ้ว่าให้กลับไปที่ความเดิมตอนที่แล้วก่อน ถ้าเราไม่เจ็บปวดก็ เราเองนี่แหละจะทำให้เค้าต้องเจ็บหนักที่เรารู้ทั้งรู้อยู่แล้วว่าสุดท้ายเราจะเลือกยังไง
สิ่งที่เจเจ้อยากเรียกว่า การทดลอง คือสิ่งที่สั่นคลอนความเชื่อมากกว่า … เมื่อเรามีเพศสัมพันธ์กันไปแล้วจะเกิดลูปของ ความสงสัย คำโกหก และความเจ็บปวด เรื่องแบบนี้มันจะเป็นลูปถ้าเราเริ่มเข้าไปสู่การทดลอง หรือที่เราชอบพูดกันว่า “วนไปค่ะ!”
ลูปของการทดลอง
- เราจะสงสัย ว่าพระเจ้าจะยังรักฉันที่เป็นแบบนี้จริงๆ เหรอ? ฉันเป็นคริสเตียนที่แย่มาก ผ่านการทดลองไม่ได้ ล้มเหลว ผิดพลาด
- เราจะพบกับคำโกหกของมารซาตานที่นั่นว่า “ใช่” พระเจ้าไม่ได้รักเธอแล้ว เธอมันแย่และล้มเหลว
- เราจะพบกับความเจ็บปวด เพราะเราไม่อยากอภัยให้กับตัวเอง หรือสุดท้าย จบลงที่เลิกกัน หรือมีสิ่งที่ตามมามากกว่านั้น
- สิ่งที่เราเจอ อาจะทำให้เราสูญเสียความเชื่ออันมีค่าสุดในชีวิต ถ้าเราออกจากลูป นี้ไม่ได้
เราจะทำอย่างไรดี? เมื่อเราทั้งสองมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงานไปแล้ว? และเราทั้งสอง ไม่อยากทำสิ่งที่เรียกว่า “ล่วงประเวณี” กันต่อไปอีก..
- เราทั้งสองควรจะขอโทษ ‘พระเจ้า’ และ ‘กันและกัน’ ที่ล่วงเกินกันโดยที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสุดท้าย เราและเขาจะเป็นสามีภรรยากันอย่างที่ตั้งใจได้หรือไม่
- ขอการช่วยเหลือจากคนที่เราไว้ใจได้ ให้คอยถามไถ่เราอยู่เสมอ เพื่อเราจะยำเกรง เกรงใจ ระวังตัวมากขึ้น รู้ว่ามีคนสอดส่องดูแลอย่างเป็นทางการ
- ไม่นำตัวเองไปอยู่ในสถาณการณ์ที่จะเปิดโอกาสแก่การมีเพศสัมพันธ์ เช่น ในห้องที่มิดชิด/ในรถ สองต่อสอง (ไม่อยากพูดมากอะ เดี๋ยวชี้นำ 555)
- คุยกันจริงจังระดับสิบ เรื่องการแต่งงาน แท่นแท๊น แท๊นแท๊นนน แต่ที่เจเจ้พูดแบบนี้ ไม่ใช่เพราะมีอะไรกันแล้ว ก็เลยต้องแต่งกับคนนี้นะ ไม่ใช่ๆ เพราะ ที่จริงแล้วเราควรจะแบบบ “พี่ไม่ได้มาเล่นๆนะ!” ถ้าเรายังอยู่ในวัยฮอร์โมน (วัยเดียวกะเจเจ้ 555) ยิ่งต้องคิดแล้ว คิดอีก โฮร๊ยยย! คิดสิคิ้ดด
“เหตุฉะนั้นคนที่คิดว่าตัวเองมั่นคงดีแล้ว ก็จงระวังให้ดี กลัวว่าจะล้มลง ไม่มีการทดลองใดๆ เกิดขึ้นกับท่าน นอกเหนือจากการทดลองซึ่งเคยเกิดกับมนุษย์ทั้งหลาย พระเจ้าทรงสัตย์ธรรม พระองค์จะไม่ทรงให้ท่านต้องถูกทดลองเกินกว่าที่ท่านจะทนได้ และเมื่อท่านถูกทดลองนั้น พระองค์จะทรงโปรดให้ท่านมีทางที่จะหลีกเลี่ยงได้ด้วย เพื่อท่านจะมีกำลังทนได้” (1 โครินธ์ 10:12-13)
กาวใจแห่งความสัมพันธ์ไม่ใช่แค่การมีเซ็กซ์ แต่เป็นส่วนประกอบที่ทำให้กาวแห่งความสัมพันธ์นี้เหนียวแน่นยิ่งขึ้นไปอีก ก่อนจะเทผสมส่วนนี้ลงในความสัมพันธ์ ไม่ควรจะ อุ้ ต๊ะ! หก!! กาวติดไปแล้วววว แต่ควรตั้งอกตั้งใจอย่างดีที่จะผสมส่วนนี้เพื่อผลงานชิ้นเอกของพระเจ้า นั่นคือ “สถาบันครอบครัว” จะตั้งมั่นคงอยู่ ฉันมีพระเยซูฉันจะไม่หวั่นไหววว เช็กกิด่าวโย่ว…เอย
ด้วยรัก และไม่อยากให้ตกหลุมดำ
เจเจ้
ติดตามคอลัมน์ Love Coach ตอนคำถามมหาชนกับเจเจ้ที่ตอบทุกข้อสงสัยที่น้องๆ อยากรู้ ได้ทุกวันอังคาร เวลา 1 ทุ่มตรงนะจ๊ะ ^^ เลิฟยูวววว์
Related Posts
- Author:
- โค้ชเจเจ้ : ผู้คร่ำหวอดในวงการให้คำปรึกษาน้อง ๆ วัยวุ่นเรื่องหัวใจ มี passion และภาระใจในการรับใช้พระเจ้าด้านให้คำปรึกษากับวัยรุ่น เจเจ้บอกว่า "งดฝากร้าน แต่ฝากปัญหาหัวใจไว้ให้ปรึกษาได้จ้าาาา"
- Illustrator:
- tumtim
- เด็กสาววัยรุ่นพึ่งจบจิตวิทยามาหมาดๆ แต่มุ่งมั่นตั้งใจจะทำงานสายกราฟิก เธอผู้ยังหาค้นหาตัวเองคนนี้มีความสามารถมากมายที่ตัวเองไม่มั่นใจอยู่ตลอดเวลา เลยเจอพี่ชูใจจับมาใช้งานให้มั่นใจซักทีว่าตัวเองมีของ
- Editor:
- Jick
- บก.ชูใจ ผู้ใฝ่ฝันจะชูใจน้องๆ จากความพลาดของตัวเอง