EP.17

Faith: ความเชื่อที่ฉันเลือก


ต้นเรื่อง: คุณ Hathaipat Tanhakit


 

“พระเจ้าสร้างโลก, เลือดพระเยซูล้างบาปให้ท่าน, พระเยซูเป็นขึ้นจากความตาย”

 

ต้วอักษรสีดำบนแผ่นป้ายสีเหลืองสะดุดตาที่ถูกติดบนต้นไม้สูงข้างทางทำให้ฉันในวัย เด็กเกิดความสงสัยว่าพระเยซูคือใคร? เขาเป็นมนุษย์ใช่ไหม? แล้วถ้าเขาเป็นมนุษย์จะฟื้นจากความตายได้ยังไง? ส่วนพระเจ้า… พระเจ้าสร้างโลกได้ยังไง? สรุปว่าพระเจ้ากับพระเยซูคือคนเดียวกันไหม?

 

______________________

 

จนอายุราว 13 ปี ฉันจึงได้มีโอกาสเข้าโบสถ์เป็นครั้งแรก แม้จะไม่สวยอย่างที่เห็นในโทรทัศน์ แต่ก็ประทับใจบรรยากาศอบอุ่นของที่แห่งนี้ ทั้งเสียงดนตรีและความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่อาจบรรยายได้ทำให้ฉันสุขใจทุกครั้งที่ไป

 

จากนั้นมาไม่นาน ความสงสัยทั้งหลายในวัยเด็กก็ถูกตอบทีละข้อ จนในที่สุดคำถามในใจก็หมดไป ทำให้ฉันตัดสินใจรับเชื่อ และกลายมาเป็น ‘คริสเตียน’ คนเดียวในบ้าน

 

ซึ่งการที่เป็นคริสเตียนคนเดียวในบ้านนี่แหละที่จะทำให้เกิดปัญหาในภายหลัง

 

ต้นตอของเรื่องย้อนไปตั้งแต่ตอนที่แม่คลอดฉันก่อนกำหนด ทำให้ฉันมีภูมิต้านทานต่ำ ร่างกายไม่แข็งแรง และป่วยบ่อย ด้วยความรัก ความเป็นห่วง ที่ผูกโยงเข้ากับความเชื่อ แม่จึงตัดสินใจบนขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้ฉันมีชีวิตรอดและหายจากอาการป่วย และถ้าหากหายจริงจะแก้บนด้วยการให้ฉันไปบวชชีที่วัดเมื่ออายุครบ 17 ปีเต็ม

 

ดังนั้น เมื่อตอนนี้ฉันเชื่อในพระเจ้าแล้ว

ความเชื่อและการบนบานศาลกล่าวของแม่ในตอนนั้นจึงกลายมาเป็นปัญหา

 

ไม่นานนักวันเกิดครบรอบ 17 ปี ก็เวียนมาถึง หลังจากที่เครียดและกังวลมาหลายปี สรุปฉันก็ตัดสินใจได้ว่าจะพูดกับแม่อย่างตรงไปตรงมาว่าฉันเชื่อพระเจ้าแล้ว เท่ากับว่าฉันจะไม่บวชชีและจะไม่กราบไหว้รูปเคารพใดๆ ทั้งสิ้น

 

คำตอบของแม่กลายเป็นคำขอร้อง และยึดตัวเลขที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของฉันมาเป็นเหตุผลในการเชื่อฟังผู้ปกครอง แม้จะยืนยันหนักแน่นสุดกำลังว่าจะไม่ทำ แต่สุดท้ายก็จำต้องโอนอ่อนไปกับคำของแม่

 

“ถ้าไม่แก้บนเขาจะมาเอาชีวิต ไม่ใช่แค่ของเธอนะ แต่ของฉันด้วย”

 

ความเชื่อนี้ทำให้แม่ถึงขั้นเอ่ยตัดแม่ตัดลูกเลยทีเดียว ส่วนฉันในตอนนั้นได้แต่อธิษฐานกับพระเจ้า ขอให้พระองค์ช่วยหาทางออกในสถานการณ์อย่างนี้ ระหว่างที่ทั้งทุกข์ใจและน้อยใจ ความกดดันจากแม่ก็เข้ามามีพลังจนตกลงกันที่การบวชนี้จะเป็นแค่ชีพราหมณ์ในระยะ 1 เดือน

 

ตัดภาพมาตอนเริ่มบวช ขณะทำกิจกรรมอยู่ในวัด ใจฉันก็เฝ้าอธิษฐานกับพระเจ้าตลอดเวลา ขอพระเจ้าให้ยกโทษที่ฉันมาอยู่ตรงนี้ ยกโทษที่ฉันไม่เข้มแข็งพอจะต่อต้านการแก้บนของแม่ ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด จนผ่านไป 3 วัน เหตุการณ์แปลกๆ ก็เริ่มเกิดขึ้นกับฉัน…

 

ฉันเริ่มฝันว่าโดนผลักตกเหวบ้าง คนตายชวนไปอยู่ด้วยบ้าง รู้สึกเหมือนถูกคุกคามจากอะไรบางอย่าง และทุกครั้งความรู้สึกเหล่านั้นก็จะหายไปเมื่อได้อธิษฐานกับพระเจ้า ซึ่งช่วงที่เกิดเรื่องอย่างนี้บ่อยครั้ง สภาพจิตใจของฉันก็ย่ำแย่ตามไปด้วย

 

 

จุดเปลี่ยนของเรื่องเกิดขึ้นในค่ำคืนหนึ่ง เมื่อกระสุนปริศนาถูกยิงผ่านมุ้งลวดหน้าต่างเข้ามาในห้องนอน ทะลุเข้าไปในลำโพงเครื่องเสียง และเข้าไปหยุดในพัดลมที่เปิดอยู่บริเวณศีรษะตำแหน่งที่ฉันนอน ความรู้สึกสับสนและหวาดกลัวผสมปนเปกันไปหมด ก่อนที่ฉันจะรวบรวมสติลุกไปหยิบลูกกระสุนขึ้นมาดู จังหวะนั้นเองที่ฉันร้องไห้โฮออกมาอย่างคนไม่มีสติ นึกขอบคุณพระเจ้าที่คอยปกป้องดูแลให้รอดปลอดภัย

 

หลังเหตุการณ์นี้ฉันก็ได้เอาเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นไปปรึกษาอาจารย์ที่โบสถ์ และเขาก็แนะนำให้อธิษฐานตัดสัมพันธ์กับอะไรทั้งหลายที่แม่เคยไปบนไว้

 

จากนั้นฉันก็อธิบายให้แม่ฟังถึงการอธิษฐานตัดสัมพันธ์ เพื่อให้แม่สบายใจว่าจะไม่มีอะไรมาเอาชีวิตแม่และเราไปได้อีก เพราะพระเจ้าจะทรงดูแลเสมอโดยไม่ต้องบน ไม่ต้องแลกด้วยอันตรายถึงชีวิต แต่พระเจ้าองค์เดียวองค์นี้ทรงมอบให้ด้วยความรัก

 

______________________

 

จนถึงวันนี้ฉันก็ไม่ต้องบวชชีต่ออีกแล้ว ทั้งยังไม่ต้องทะเลาะกับแม่เรื่องที่ฉันเชื่อพระเจ้าอีกเลย

 

พระเจ้าทรงเป็นพระศิลา ป้อมปราการ และผู้ช่วยกู้ของข้าพระองค์
(สดุดี 18:2)

 

ถึงจะออกนอกเส้นทางไปบ้าง แต่ที่ฉันยังยึดมั่นในพระเจ้าแม้จะเจอเรื่องร้ายแรงสักแค่ไหนก็เพราะฉันเชื่อว่าพระองค์ผู้มั่นคงดั่งศิลาจะทันเวลาเสมอ ไม่ว่าอย่างไรพระองค์จะนำฉันกลับมาในทางของพระองค์ ฉันเชื่อว่าพระองค์จะคอยปกป้องฉันเสมอ และพระองค์เท่านั้นที่จะช่วยให้ฉันได้พบกับความรอด

 

ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับแม่จากนั้นก็กลับเป็นไปในทางที่ดีขึ้น เพราะการแสดงออกทางความเชื่อของฉันที่พยายามมอบความรักซึ่งได้รับมาจากพระเจ้าส่งต่อออกไปให้แม่ เช่น การปลอบใจ หรือการอธิษฐานเผื่ออย่างสม่ำเสมอ… ฉันคิดว่าด้วยความเชื่อนี้แหละที่ทำให้แม่ถ่อมใจลง และยอมรับฟังพระคำของพระเจ้า

.

สุดท้าย ฉันขอขอบคุณพระเจ้าที่มอบประสบการณ์นี้เพื่อทำให้ฉันมั่นคงในความเชื่อที่มีต่อพระองค์มากขึ้น


#ชูใจชวนแชร์ เพราะเรารู้ว่าทุกคนมีเรื่องเล่า… ชูใจจึงชวนมา ‘ส่งต่อ’ เรื่องราวที่พระเจ้าทรงทำในชีวิตของคุณเพื่อ ‘ชูใจ’ คนอื่นต่อไป ( <3 อ่านรายละเอียดได้ที่ >> https://choojaiproject.org/choojai-forward/ )


Previous Next

  • Illustrator:
  • Emma C.
  • เด็กสาวหน้านิ่งจากเมืองกรุง มุ่งหน้าใช้ชีวิตในเมืองเหนือ พระเจ้านำให้ได้มาทำงานกับชูใจ เธอผู้นี้มีความสามารถหลากหลาย ทั้งวาดภาพ เขียน เรียบเรียง และเอาขามาพาดคอระหว่างนั่งทำงาน เธออินกับการสะกดคำให้ถูกต้องตามราชบันฑิตฯ และมีรสนิยมวินเทจผิดจากความเป็นเจนวาย เป็นหนึ่งใน Avenger ทีมบก.ที่จะมาช่วยชูใจผู้อื่นกัน