Q 1: แฟนไม่เป็นคริสเตียน ควรทำอย่างไรคะ?
Q 2 : ต้องชักชวนแฟนยังไงให้แฟนมารับเชื่อพระเจ้า?
Q 3 : ถ้าแฟนไม่เป็นคริสเตียนแต่คบกันมานานแล้วนะคะ เขาไม่ได้เชื่อศาสนาอะไรสักอย่าง แต่ก็ไม่ขัดขวางเราในการเล่าเรื่องของพระเจ้าและเข้าใจในการที่เราใช้เวลากับพระเจ้าด้วย ทำไงดีคะ?
Q 4 : ถ้าคนที่เราชอบไม่ใช่คริสเตียน เรานำเขามารับเชื่อได้ไหมครับ?
____________________________
เจเจ้: สวัสดีให้กับคำถามมหานิยม 555 (มันก็จะดูเวทย์ๆหน่อย) ว่าด้วยเรื่องของการมีแฟนที่ไม่เชื่อ นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่! แฟนคนเดิมเพิ่มเติมคืออยากรับเชื่อ ก็จะอาเมนสิคะ! ดังนั้น อยากรีบตอบ Q4 ว่าอย่านำแค่คนที่เราชอบมาเชื่อ แต่ให้นำคนอยากเชื่อมาชอบ โอเค๊? หมายถึงว่า คนอื่นๆ ด้วยสิอย่าลืม โถ๊!
แต่นะ เรื่องนี้… มันไม่ง่ายเลย มั๊นไม่ง่ายยยยเลยยยย ..
จาก Q1 และ Q2 (เหมือนเค้ากำลังคุยกันเอง!) 555 เอาจริงๆ นะ มีหลายยยยวิธีมากๆ ที่จะชัก ดึง ชัด กระชาก ชวนแบบดีๆ และด้วยน้ำตาให้มาเชื่อ บ่ได่เข้ามาเพื่อก๊ดดดดัน แต่ว่าฉันนั้นแค่รออออ เด้อ!
การพาเค้ามาโบสถ์ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่แนะนำให้เขารู้จักพระเจ้าได้ และคนที่โบสถ์ก็ได้โปรดดดด โซ่ยข่อยแน ช่วยเค้าด้วยนะคะ! นี่ก็ฝากสำหรับผู้ที่เป็นพี่น้องคริสเตียนทุกท่าน เมื่อน้องที่โบสถ์พาเพื่อนที่ไม่เชื่อมา ให้รีบคว้าโอกาสดีๆ นี้ไว้ ให้เค้ารู้สึกอบอุ่นสัมผัสถึงความรักของพระเจ้า เราต้องทำงานเป็นทีมค่ะ! หรู๊ย นี่ถ้าคนไม่เชื่อมาอ่านอาจจะเข้าใจผิด แต่อยากให้เข้าใจถูกนะคะ ทุกคนรักคุณณณณ บ่ได้รังเกียจที่บ่เซื่อเหมือนกันเด้อ! ตรงนี้สำคัญนะคะ แม้เราจะสอนกันเรื่องการอย่าเทียมแอกกับผู้ไม่เชื่อก็จริงอยู่ แต่ในขณะที่ผู้ไม่เชื่อนั้นยังหายใจอยู่ เค้าก็มีสิทธิ์ที่จะได้ยินเรื่องราวความรอดและตัดสินใจ เพื่อน้องเราจะได้เทียมแอกกับผู้เชื่อไง!!!
ทีนี้ๆ เมื่อเราชอบคนที่ไม่เป็นคริสเตียน มันอยู่ที่ว่าเราอยู่ในเว่ลไหน (Level) เจเจ้อยากให้เราแฮฟสติ ก่อนสตาร์ทไปเว่ลต่อๆ ไปก่อนนะ
- ระยะแอบชอบและเค้ายังไม่รู้ตัว…
ระยะนี้แค่เหล่มอง ถล่มไลค์ เป็นไอ้/อีแอบกันอยู่ ระยะนี้เราก็อย่าพึ่งให้เค้าชอบเรา 555 ถ้าเค้ายังไม่รู้ตัวว่าเราชอบ ยิ่งเป็นโอกาสที่เราจะได้รู้ใจจริงของเค้า ประกาศกับเค้าได้อย่างไม่ต้องลำบากใจ และถ้าเค้ามาเชื่อในระยะนี้ก็ยิ่งดีสิ! เพราะมันไม่ใช่เราไง แต่เป็นเพราะเค้าเชื่อพระเจ้าเอง! ซึ่งนั่นดีงามประเสริฐเลอค่ามากขร่ะ เป็นเพื่อนกันไปก่อนนะยูว อย่าพึ่งเผยไต๋ แค่เราพูดออกไป Just Speak Outททท์ (โถ้ะ น้ำลายกระเด็น) และใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับข่าวประเสริฐ คือพูดเฉยๆ บ่ได้ แต่ถ้าเราพูดจ่นนน เบิ่ดคำซิ่เว้าแล้วว (ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว) และเค้าไม่มาเชื่อซ๊ากกกทีเนี่ยสิ งานเข้าล่ะ! ใช่มั้ย Q3! (อันที่จริง กรณีของ Q3 จะช่วยคนที่ยังอยู่ใน ระยะต้นๆ ของการมีแฟนเป็นผู้ไม่เชื่อได้อย่างดีทีเดียว ขออนุญาตให้เราได้เรียนรู้ไปด้วยกัน ไปค่ะ!)
- คุยๆ กันอยู่…
ยังมีความเบลอว่ารักแถบ มีการโทรคุย แชทคุย วีดีโอคอลด้วยความถี่ประมาณนึงอยู่แต่ไม่ถึงขนาดมั่นใจจะเปิดตัว เอาล่ะ เค้ารู้รึยังว่า เรารักพระเจ้าแค่ไหน? ถ้ายังบอกเค้าให้รู้โดยเร็ว ว่าชั้น “เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมนะ!” ความเชื่อของเรามีค่านะ! ฉันจะไปโบสถ์ทุกอาทิตย์ ฉันจะอ่านพระคัมภีร์ ฉันอธิษฐาน ฉันคือคนที่พระเจ้าสร้างใหม่ทุกวัน ถ้าเธอชอบฉัน เท่ากับเธอกำลังชอบคนที่สร้างฉันนะเอ้อ! อย่าเข้าใจผิดคิดว่าที่ฉันสวยและรวยมากแบบนี้เพราะฉันเอง แต่เพราะพระเจ้าของฉันต่างหาก ถ้าเธอชอบแค่ฉัน อีกหน่อยเธอก็อาจจะเกลียดฉัน นะว่ะฮ่าๆๆๆ ดังนั้น เสตจนี้เจเจ้ยังไม่เรียกว่าแฟนนะ ก็ถ้าแค่คุยๆ ก็รีบบอกเค้าไปก่อนเลยว่าเราคิดงี้ เชื่อแบบนี้ รับทราบนะจ๊ะ Q1 Q2!
- ชอบกัน คบกันละ…
ระยะนี้คือ เผยความในไส้และพุง รู้กันแล้วว่ารักใคร่ชอบพอ ไม่มีความคลุมเครือในความสัมพันธ์อีกต่อไป สำหรับคนที่อยากจะคบ ก็คิดตอนจบไว้เลย! ฮริ้วววววว สำหรับระยะของการเป็นแฟนกันอยู่ แต่ยังไม่สามารถประกาศจนอีกฝ่ายมาเชื่อได้ เจเจ้ก็ยังหนุนใจให้รักษาความเชื่ออันล้ำค่านี้ไว้ และตัดสินใจให้เร็วที่สุด! นะจ๊ะ Q4 เพราะยิ่งนานวันยิ่งผูกพัน ยิ่งรอวันให้เขามาเชื่อโดยไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ก็แค่ยื้อเวลาทั้งที่รู้แล้วว่าตอนจบจะเป็นยังไง เพราะถ้าเมื่อเราเข้าระยะของการแต่งงานแล้ว การหย่าร้างไม่ใช่ทางออกอย่างแน่นอน หลังจากแต่งกันไปแล้วมีอยู่อย่างเดียวที่ทำได้คือ อดทนนานนนนนนนนนนนานนนนนนนนนนนานนนนนนนนนนนานนนนนนนนนนนานนนนนนนนนนนนน เพราะในระยะเวลาที่ต้องรอคอยนั้น แม้กระทั่งความเชื่อของเราก็อาจมีอันเป็นไป และในเรื่องนี้มีรายละเอียดมากมาย ที่แทรกซึมอยู่ในทุกส่วนของการดำเนินชีวิตคู่ เจเจ้แนะนำว่า ถ้าจะให้เรื่องมันง่าย อย่าให้มันยืดเยื้อถึงระยะนี้ วางกรอบเวลาและพูดคุยกับคนนั้นของเราให้ชัดเจน หรือไม่คงต้อง… ห่างกันสักพักๆ คงจะดีซะกว่ามั้ย Q3?
ถ้าเจเจ้ลองถามความรู้สึก ของคุณ Q3 ว่ารู้สึกอย่างไรในตอนนี้ อ่ะ..เราลองสิงเข้าไปในนั้นแป้ปป…
ถ้าเป็นเราก็คงรู้สึก อึดอัดใจ ทรมานใจ เครียด สงสัย กังวล หรืออาจจะรู้สึกเร้าใจ ก็เป็นได้… มันไม่ง่ายใช่มั้ย ในการคบกับคนที่ไม่เชื่อในขณะที่เราต้องยึดมั่น ยืนหยัดในความเชื่อ ที่จริงเจเจ้ต้องถามคุณน้องว่า “แล้วหนู/ผมล่ะ อยากทำอย่างไรต่อไปมากกว่า?” (ยิ้มอ่อนนนน)
“เค้าไม่ต้าน ไม่บล๊อคเรา แต่เค้าก็ไม่ได้มาเชื่อเหมือนเรา” โอ๊สสส เอาเป็นว่า เจเจ้ลองถามให้หนูคิดต่อ ทำไมเค้าถึงไม่เชื่อล่ะ? เคยถามเขาจริงจังดูไหม? เคยให้เค้ารู้อนาคตที่เราวาดฝันไว้มั้ย? เคยวางกรอบเวลาไว้ไหมว่าจะคบไปถึงเมื่อไหร่? น้องวาดฝันชีวิตคู่แบบไหนเคยคุยกับเขารึเปล่า? ถ้าเราเกิดแต่งงานกันไป เค้าจะยอมมาโบสถ์กับเรามั้ย? เค้าจะอ่านพระคัมภีร์กับเรา เค้าจะรักเราแบบที่พระเจ้ารักเราได้มั้ย? คืออดทนกับเรา ซื่อสัตย์กับเรา เชื่อในส่วนดีแบบที่พระเจ้าทำกับเรามั้ย? เค้าจะยอมให้ลูกมาโบสถ์มั้ย? เค้ากับเราจะมีแนวทางการเลี้ยงลูกในแบบเดียวกันมั้ย?
ถ้าเค้าไม่ได้ตัดสินใจติดตามพระเจ้าร่วมกับเรา … เราเองก็ถึงเวลาต้องตัด(สิน)ใจนะ ดังนั้นก่อนจะมีความสัมพันธ์ในระยะไหน อยากให้เราลองถามตัวเราก่อน
“แผ่นดินสวรรค์เปรียบเหมือนพ่อค้าที่ไปหาไข่มุกอย่างดี
และเมื่อได้พบไข่มุกเม็ดหนึ่งมีค่ามาก ก็ไปขายสิ่งสารพัดซึ่งเขามีอยู่ ไปซื้อไข่มุกนั้น”
(มัทธิว 13:45-46)
เราเป็นเหมือนพ่อค้าที่ยอมขายทุกสิ่งเพื่อจะได้ไข่มุกล้ำค่านั้นมั้ย? แผ่นดินสวรรค์ การไถ่ ความรอด ความรัก และพระองค์เองเป็นอะไรที่ล้ำค่าจนเรายอมเสียบางอย่างหรือไม่? ในการตัดสินใจนั้นบางทีเราอาจจะเสียดาย แต่เราจะไม่เสียใจภายหลังแน่นอน
อันที่จริงในชีวิตที่เจเจ้อยู่มา ก็เห็นมาทุ๊กกกกกรูปแบบ ตอนแต่งบ้างก็ตกลงกันได้ว่าจะยอมให้มาโบสถ์นะ แต่ปัจจุบันไม่เจอที่โบสถ์แล้วนะ บ้างก็ถึงขั้นหย่าร้าง บ้างแต่งงานกันนานมากแล้วก่อนจะหมดลมหายใจอีกฝ่ายถึงจะมาเชื่อ บ้างก็กำลังอดทนรอคอยขณะนี้เค้ายังไม่เชื่อ… สำหรับขั้นตอนของ Q3 นั้นยากจริงๆ แต่ขอให้เราตัดสินใจโดยเข้าใจพระประสงค์ที่พระเจ้าสร้างคู่ครองไว้
พระประสงค์ของพระเจ้าในเรื่อง “ชีวิตคู่” ในฐานะที่เราเป็นคริสเตียน เราเชื่อมั่นในพระเจ้าผู้สร้างหญิงชาย และสถาปนาครอบครัวแรกของโลกนี้หรือไม่? พระองค์ออกแบบให้ทั้งสองเป็นหนึ่งเดียว เป็นเนื้อเดียวกัน.. เหมือนกระดาษที่ทากาวติดกันแล้ว ถ้าแกะมันก็จะขาดวิ่น! การผูกพันชีวิตของเราเข้ากับใคร คิดให้ดีๆ เพราะพระบิดาในสวรรค์คงไม่อยากเห็นเราต้องเจ็บปวดที่เราไม่เลือกเดินตามพระประสงค์ของพระองค์ แต่พระองค์ก็ยังทรงแสนดี ที่แม้เราจะตัดสินใจและต้องรับผลอะไร พระองค์ก็ยังทรงเลือกที่จะรักเรา อยู่เคียงข้าง เป็นกำลังให้เราเผชิญได้ทุกๆ วัน แต่… จะเลือกทางยากทำไมละจริงมั้ย?
พี่น้องทั้งหลาย ด้วยเหตุนี้โดยเห็นแก่ความเมตตากรุณาของพระเจ้า ข้าพเจ้าจึงวิงวอนท่านทั้งหลายให้ถวายตัวของพวกท่าน เป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิต อันบริสุทธิ์ เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า ซึ่งเป็นการรับใช้ที่เหมาะสมของท่านทั้งหลายและอย่าทำตามอย่างชาวโลกนี้ แต่ท่านจงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจเสียใหม่ เพื่อท่านจะได้ทราบพระประสงค์ของพระเจ้าว่าอะไรดี อะไรเป็นที่ชอบพระทัย และอะไรดียอดเยี่ยม
โรม 12:1-2
ขุ่นลูกทุกคนที่ถวายชีวิต เพื่อให้เป็นที่พอพระทัยพระเจ้าแล้วนั้น แน่นอนหลายครั้งที่เราจะต้องตัดสินใจเลือก แต่ไม่ใช่เพื่อที่เราจะพอใจเอง! และยิ่งกว่านั้น เมื่อเราได้รับการเปลี่ยนแปลงใหม่จากพระองค์ ภายในใจเราจะรู้แหละว่า อะไรที่ ดียอดเยี่ยม เลิศศศศศ ประเสริฐ สิบสิบสิบไปเลยจร้าาาาา อะไรแบบนั้นก็คือ อะไรที่เป็นที่พอพระทัย นั่นเอ๊งงงงง!
สำหรับเจเจ้ คณิตศาสตร์ว่ายากแล้ว .. เรื่องนี้ก็ยากกส์กว่า …ขอยาดมแพร้บบบ!
ด้วยรัก และ ชูใจ
เจเจ้ ปาดเหงื่อแพร้บ
ติดตามคอลัมน์ Love Coach ตอนคำถามมหาชนกับเจเจ้ที่ตอบทุกข้อสงสัยที่น้องๆ อยากรู้ ได้ทุกวันอังคาร เวลา 1 ทุ่มตรงนะจ๊ะ ^^ เลิฟยูวววว์
Related Posts
- Author:
- โค้ชเจเจ้ : ผู้คร่ำหวอดในวงการให้คำปรึกษาน้อง ๆ วัยวุ่นเรื่องหัวใจ มี passion และภาระใจในการรับใช้พระเจ้าด้านให้คำปรึกษากับวัยรุ่น เจเจ้บอกว่า "งดฝากร้าน แต่ฝากปัญหาหัวใจไว้ให้ปรึกษาได้จ้าาาา"
- Illustrator:
- tumtim
- เด็กสาววัยรุ่นพึ่งจบจิตวิทยามาหมาดๆ แต่มุ่งมั่นตั้งใจจะทำงานสายกราฟิก เธอผู้ยังหาค้นหาตัวเองคนนี้มีความสามารถมากมายที่ตัวเองไม่มั่นใจอยู่ตลอดเวลา เลยเจอพี่ชูใจจับมาใช้งานให้มั่นใจซักทีว่าตัวเองมีของ
- Editor:
- Jick
- บก.ชูใจ ผู้ใฝ่ฝันจะชูใจน้องๆ จากความพลาดของตัวเอง