คำถามมหาชน: รู้ได้ไงว่าคนนี้คือคู่พระพร? รักแค่ไหนถึงจะเรียกคู่พระพร? มั่นใจได้ยังไงว่าคนนี้เป็นคู่พระพร?
____________________________
เจเจ้ : ตอนนี้เจเจ้เริ่มสงสัยจนขึ้นสมองนอนไม่หลับภาพเธอยังชัดอยู่ ว่าใครคือคนแรกที่เริ่มบัญญัติศัพท์นี้ 5555 (คื่อ เฮลโหล๊! มันคูลลลมากค่ะซิสสส) ซึ่งคำถามเรื่องคู่พระพรนี่มันอยู่กับคริสเตียนไทยมาหลายชั่วอายุคน ที่สำคัญคือคำนี้ภาษาอังกฤษไม่มีนะ โอ๊ว!
คนนี้ใช่คู่พระพรมั้ย?
ม้ะ! ลอง ถามใจตะเองดูค่ะ ว่านิยามของคู่พระพรสำหรับเราคืออะไร? คือ…. คนที่เราคบแล้วจะมีความสุขตลอดไป? คนที่จะไม่ทำให้เราต้องเจ็บต้องเสียใจ? คนที่จะไม่ทิ้งเราไป? (สำเนียงแบบละครเวที) สรุปคือถ้าไม่ใช่ก็จะได้กลับรถทันไงล่ะ! เอี๊ยดดดดด!!! เอาล่ะๆๆๆ กลับมาตั้งต้นกันใหม่ๆ
ข้อสังเกตของการ “เป็น” หรือ “จะเป็น” คู่พระพรก็คือ…
- ความเหมาะสมและการอุปถัมภ์ซึ่งกันและกัน
เป็นชายและหญิงที่อยู่เพื่อสนับสนุนกันทั้งความเชื่อและการดำเนินชีวิต สนับสนุนกันไปในทางที่ถูก เหมาะสมทั้งสถานการณ์ บริบท กฎหมาย ไม่พากันโดดเรียน โดดงาน คบกันแล้วเจริญๆ เอย~ เพราะในวันที่หกที่พระเจ้าสร้างมนุษย์ พระเจ้าทรงเห็นว่าดี (ปฐมกาล 1:26-31) พยักหน้ารัวๆๆๆ ดีๆๆ พระเจ้าว่าดีนะ แน่นอนต้องไม่เข้าข่ายวงการด้านมืดเด้ออว
- การสูญเสียความเชื่อ
ถ้าดูในพระคัมภีร์เดิมจะเห็นว่าพระเจ้าทรงหวงแหนความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระองค์มาก
“พวกท่านอย่าสัมพันธ์กับเขาโดยการแต่งงาน อย่ายกบุตรีของท่านให้แก่บุตรชายของเขา หรือรับบุตรหญิงของเขามาให้แก่บุตรชายของท่าน เพราะว่าจะทำให้บุตรชายของพวกเจ้าหันเหไปจากเราไปปฏิบัติพระอื่นๆ พระเจ้าจะทรงพระพิโรธต่อท่านทั้งหลาย และจะทรงทำลายท่านเสียโดยเร็ว” – (เฉลยธรรมบัญญัติ 7:3-4)
หรือการห้ามไม่ให้เทียมแอก
“ท่านอย่าเข้าเทียมแอกกับคนที่ไม่เชื่อ เพราะว่าความชอบธรรมจะมีหุ้นส่วนอะไรกับความอธรรม และความสว่างจะเข้าสนิทกับความมืดได้อย่างไร” – (2 โครินธ์ 6:14)
ไม่ว่าจะการแต่งกับคนต่างชาติหรือการเข้าเทียมแอก ที่พระเจ้าห้ามก็เพราะรู้ว่าเราจะต้องเผชิญกับการทดลองที่ทำให้ห่างจากพระเจ้าและพระองค์ไม่อยากให้เราสูญเสียความเชื่อของเรา ดังนั้นพระเจ้าไม่ได้ชี้เรื่อง “ผู้ไม่เชื่อ” หรือ “คนต่างชาติ” แต่ชี้ไปที่ “ตัวเรา” เอ๊ออออ ก็เราไงจะใครล่ะ! ถ้าเราคบกับเค้าแล้วต้องแลกด้วยความเชื่อในพระเจ้าของเรามันก็ไม่คุ้ม.. จีๆนะ!! นี่มันไม่คุ้มเห็นๆ!!!
ดังนั้นเราจะไม่มาม่าน้ำตานองว่า “ทำไมกัน! พระเจ้าไม่รักคนอื่นที่ไม่เชื่อหรออออออ?” โน๊วๆ ไม่ช๊ายย แต่เพราะพระเจ้าเป็นห่วงหนูมากๆ น่ะลูกกกกกก
- ผลกระทบ
คือต้องเป็นพระพรตามชื่อเลย แต่ไม่ใช่แค่เป็นพรต่อกันสองคนนะ ต้องแผ่กระจายให้บุคคลรอบข้างออกไปเป็นวงกว้าง ไม่เป็นภัยต่อชาติบ้านเมือง คริสตจักร และองค์การอนามัยโลก ให้เกียรติกับพระเจ้าและคู่ของเรา ทั้งต่อหน้าและลับหลัง จะอยู่ที่ไหนขอพระเจ้าจะอวยพรรร…
- สิ่งที่พระเยซูทำมีผลกระทบเสมอฉันใด เราเองที่เป็นผู้ติดตามพระเจ้าก็เช่นกันฉันนั้น พระเยซูคริสต์ยอมสิ้นพระชนม์ ถ่อมใจลงที่ไม้กางเขนนั่นเพื่อ?”เพื่อที่ว่าเพราะพระนามของพระเยซูนั้น ทุกชีวิต ในสวรรค์ บนแผ่นดินโลก และใต้พื้นแผ่นดินโลก จะคุกเข่าลงกราบพระองค์ และเพื่อที่ว่าทุกลิ้นจะยอมรับว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า เป็นการถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าพระบิดา” (ฟีลิปปี 2:10-11)
- คู่พระพรไม่ใช่ว่า โอ้บร้ะะะ! คู่ของเธอดีจังรักกันหวานหยดแค่นั้นเด้อว มิชชั่นของคนทั้งสองใหญ่ยิ่งนัก ก็คือ… เพื่อที่คน (ทั้งโลก) จะได้ยอมรับว่า พระเจ้ามีอยู่จริงเพื่อที่คน (ทั้งโลก) จะสรรเสริญพระเจ้าผ่านคู่ของเรา #อาเมนสิคะ รอไรรรรรร
- กระบวนการการคบหาดูใจ
ไม่ว่าจะมีกลยุทธ์ม้วนกระบี่อะไร ที่ใช้จีบกัน…เจเจ้อยากจะกอดขา กรีดร้องขอชีวิตว่า เอาให้เคลียร์ๆ ชัดเจน ไม่คลุมเครือ ไม่เอาแบบ “พี่น้อง” คือกล้าๆ หน่อยวัยรุ่นนนน “คุยๆ กันอยู่” ก็คือ “คุยๆ กันอยู่” ถ้ายังไม่รู้ใจตัวเองก็อย่าไปแกล้งเค้า ถามกันชัดๆ ไปเลย อธิษฐานกันอยู่จะคุยกันทุกวันมั้ย? จะไปไหนด้วยกันมั้ย? จะเปิดตัวรึยัง ถ้าคนอื่นถามจะตอบว่ายังไง? ถ้าตอบตัวเองและคนอื่นไม่ได้ว่า “ตกลงเราเป็นอะไรกัน?” ก็อย่าไปคุยเล่นกับใคร มันเจ็บนะ! ฮึ้ยๆๆ สิ่งที่พระเจ้าพูดผ่านเรื่องนี้ก็คือ การสัตย์ซื่อต่อหน้าพระเจ้า ตัวเอง และผู้อื่น ฝึกตัวเองในเรื่องนี้ เป็นพรต่อคนอื่น และต่อคนที่เรากำลัง…….. ด้วย!
So! จะมั่นใจได้ไงว่าคนนี้ใช่คู่พระพร…
ตอนนี้ภาพตัดมาที่เรากับพระเจ้าในขณะที่เราถามพระองค์ว่า “ใช่มั้ยคร้าาาา?” พระเจ้าก็จะถามเจ้าว่า
“แล้วมันโอมั้ย? จะรัก (รับ) เค้าที่เป็นแบบนี้ได้มั้ยล่ะลูกกกก?”
มันคือกระบวนการถามตอบระหว่างเรากับพระเจ้า ถามใจตัวเอง ถามพระเจ้า เพื่อจะถูกใจพระเจ้า ถูกใจเราด้วย เฮ้!
ต่อไป เมื่อสังเกตตัวตนของเขามาได้สักระยะ และเริ่มมีการพูดคุยกันมาประมาณหนึ่งแล้ว สิ่งที่เราต้องถามตัวเองต่อคือ เราจะตัดสินใจยอมรับตัวตนของอีกคนหนึ่งได้หรือไม่? นี่จะเป็นการตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าจะรักมั่นคงไม่เปลี่ยนใจ? แม้ว่าอะไรจากนี้จะเปลี่ยนไป จะไม่มีคนอื่นที่คิดว่าดีกว่านี้อีกแล้ว? ไม่มีคนที่ทำให้เรามีความสุขได้มากกว่านี้? และจะไม่มีอะไรมาพรากความมั่นคงในใจที่มี? (รู้สึกสวยอ่ะ)
ดังนั้นเป็นพระพร คือการที่คนสองคนซื่อสัตย์จนตัวตาย เพราะนั่นคือการสำแดงความรักอันประเสริฐของพระคริสต์ที่หาไม่ได้ที่ไหนนอกจาก “ในพระองค์” และหาได้จากคนที่ “อยู่ในพระองค์” ท่ามกลางโลกที่สับสน ว่าอะไรคือความรักที่แท้ทรู คนจะได้เห็นความทรูนั้นผ่าน “คู่” ของเรา
นั่นไงถึงเป็น คู่พระพร….
จำที่เจ้เบรคคเอี้ยดดด ไปตอนแรกได้ป่ะว่า คำว่า ‘คู่พระพร’ คืออะไร?
- คือคนที่เราคบแล้วจะมีความสุขตลอดไป?
คำตอบก็คือ… ไม่ เพราะคริสเตียนทั้งหลายย่อมต้องรู้ว่าเราไม่ได้สาบานแค่จะมีความสุข แต่จะทุกข์ร่วมกันด้วย
- คือคนที่เค้าจะไม่ทำให้เราต้องเจ็บต้องเสียใจ?
คำตอบก็คือ… ไม่ เพราะยิ่งเปิดเผยตัวตนลึกลงไป มันก็ต้องมีบ้างแหล่ะน๊าาาา ที่เราจะต้องยอมเจ็บ และต้องให้อภัยซึ่งกันและกันไปอยู่เรื่อยๆ!
- คือคนที่จะไม่ทิ้งเราไป?
ถ้าแต่งแล้วคำตอบก็คือ… ใช่! แต่อย่าลืมว่าต้องประคับประคองชีวิตที่เป็นพรด้วยนะ ไม่ใช่ว่าแต่งแล้วว จบละ จากนี้อยากทำไรทำ! โน๊วๆๆ ไม่ได้นะคะขุ่นน้องงงงงง
แต่ถ้ายังไม่แต่ง… ลองพิจารณาจากสมการที่ให้ไปก่อน แต่เอาง่ายๆ คือคนที่ทิ้งเรานั่นก็ไม่ใช่อยู่แล้วป่ะ 555 ตัดช้อยส์ไปง่ายๆ แต่จบแบบเป็นพรจะดีกว่า ไม่เขวี้ยงหม้อเขวี้ยงไห ขึ้นโรงขึ้นศาลเด้อออ
สำหรับเจเจ้ คำว่า “คู่พระพร” เป็นคำตอบมากกว่าที่จะเป็นคำถาม เป็นสิ่งที่แสดงออก เป็นการกระทำที่เป็นพระพรอย่างชัดเจน ไม่ใช่แค่การทรงนำมาเจอกันแบบซีรี่ส์เกาหลี หนังสือตกหัวเขก มือถือสลับ อะไรแค่นั้น ที่จะทำให้ชีวิตคู่เราดู อู้วว้าว เป็นพระพรนะ!! คือชีวิตขณะที่คบกันก็ต้องแบบ โอ้วว้าวว ความรักของพระเจ้าที่แท้ทรู คือแบบนี้!! แบบสองคนนี้เลย!! ทีนี้ล่ะปังแน่ๆ เริ่มที่ตัวเราก่อนโน๊ะ ^^
ตอนนี้ชีวิตเราเป็นพระพรต่อคนอื่นรอบข้างมั้ย? และเราสองคนจะคูณสองซุปเปอร์แก๊งค์แซ่บระเบิดร้อนยังกะไฟเยอร์รึเปล่า? อย่างที่พูดไปในข้อ 3 ว่าจะเป็นคู่พระพรหรือไม่นั้น ผลกระทบจะบอกเองว่าเป็นพรหรือไม่…. ดังนั้น จะคบกันก็ตั้งเป้าหมายไว้เลย! “เราจะเป็นพร ไม่เป็นเพลิง”
คู่พระพรไม่ได้หมายถึงชีวิตคู่ที่ราบรื่น ราบเรียบ สเก็ตน้ำแข็งงงง ไม่ทะเลาะกัน เพราะถ้าจะเป็นคู่ที่เป็นพรก็ย่อมต้องตัดสินใจที่จะผ่าน “ทุกข์ สุข มั่งมี หรือ ยากจน เจ็บป่วย หรือสุขสบาย” คู่พระพรไม่ใช่คนที่เพอร์เฟ็กต์มาเจอกัน แต่คือการตัดสินใจที่จะยอมรับและใช้ชีวิตร่วมกันในความไม่สมบูรณ์ ผ่านความเชื่อเดียวกันในพระเจ้าผู้สมบูรณ์ ดู๊วววว ดังนั้นถ้าเราอยากมีคู่พระพร เราต้องตัดสินใจเป็น “คนที่เป็นพร” ก่อน! โอป้ะเตง!
สรุปค่ะ!
- คู่พระพร คือคู่ที่เกื้อหนุนและสนับสนุนซึ่งกันและกันทั้งในแง่จิตวิญญาณและการดำเนินชีวิต
- มีความเชื่อเดียวกัน ไม่เทียมแอก
- เมื่อคบกันแล้วมี “ผลกระทบ” ในทางที่ดีต่อตัวเองและคนรอบข้างของทั้งคู่
- จะรู้ได้หรือมั่นใจมากขึ้นได้ เมื่ออยู่ใน “กระบวนการ” คือ อธิษฐาน และศึกษากันโดยมีสถานะที่ชัดเจน ไม่คลุมเครือ
- คู่พระพรไม่ได้หมายความว่าจะแฮปปี้มีแต่ด้านบวกอย่างเดียว มีเรื่องที่ต้องแลก ต้องยอม ต้องปรับเปลี่ยน ต้องอดทน และต้องตัดสินใจที่จะสัตย์ซื่อกับคนๆ เดียว นั่นคือการเป็นคู่พระพรที่แท้จริง ซึ่งก็คือการเสียสละตัวเองเพื่ออีกคนหนึ่ง (เสียสละตัวเองไม่ใช่เสียตัวนะจ๊ะ) เหมือนอย่างที่พระคริสต์ทรงเสียสละพระองค์เพื่อเรา
ควักหัวใจออกมา เอาออกมาพิสูจน์
ด้วยรักและชูใจ
เจเจ้ไงจะใครล่ะ!
ติดตามคอลัมน์ Love Coach ตอนคำถามมหาชนกับเจเจ้ที่ตอบทุกข้อสงสัยที่น้องๆ อยากรู้ ได้ทุกวันอังคาร เวลา 1 ทุ่มตรงนะจ๊ะ ^^ เลิฟยูวววว์
Related Posts
- Author:
- โค้ชเจเจ้ : ผู้คร่ำหวอดในวงการให้คำปรึกษาน้อง ๆ วัยวุ่นเรื่องหัวใจ มี passion และภาระใจในการรับใช้พระเจ้าด้านให้คำปรึกษากับวัยรุ่น เจเจ้บอกว่า "งดฝากร้าน แต่ฝากปัญหาหัวใจไว้ให้ปรึกษาได้จ้าาาา"
- Illustrator:
- tumtim
- เด็กสาววัยรุ่นพึ่งจบจิตวิทยามาหมาดๆ แต่มุ่งมั่นตั้งใจจะทำงานสายกราฟิก เธอผู้ยังหาค้นหาตัวเองคนนี้มีความสามารถมากมายที่ตัวเองไม่มั่นใจอยู่ตลอดเวลา เลยเจอพี่ชูใจจับมาใช้งานให้มั่นใจซักทีว่าตัวเองมีของ
- Editor:
- Emma C.
- เด็กสาวหน้านิ่งจากเมืองกรุง มุ่งหน้าใช้ชีวิตในเมืองเหนือ พระเจ้านำให้ได้มาทำงานกับชูใจ เธอผู้นี้มีความสามารถหลากหลาย ทั้งวาดภาพ เขียน เรียบเรียง และเอาขามาพาดคอระหว่างนั่งทำงาน เธออินกับการสะกดคำให้ถูกต้องตามราชบันฑิตฯ และมีรสนิยมวินเทจผิดจากความเป็นเจนวาย เป็นหนึ่งใน Avenger ทีมบก.ที่จะมาช่วยชูใจผู้อื่นกัน