ผู้เขียน: Mind Nattarat
ขอเกริ่นก่อนว่าฉันเป็นผู้เชื่อคนเดียวในบ้านมาได้ประมาณสามปี ซึ่งการเป็นคริสเตียนนี่แหละที่ค่อยๆ เปลี่ยนความเลวร้ายขั้นติดลบในตัวฉันให้มีแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อยๆ (ถ้าหนูไม่เกเรเบนไปหาสิ่งอื่นนอกจากพระเจ้าก่อนนะ) แม้ว่าจะไม่ค่อยไปโบสถ์ แต่ก็อ่านพระคัมภีร์และอธิษฐานทุกเช้า ส่วนประสบการณ์หรือบทเรียนที่มีกับพระเจ้าก็มักจะพุดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกับพี่เก๋ ผู้เป็นพี่เลี้ยงที่ทำให้ฉันได้รู้จักพระเจ้าและเข้ามารับเชื่อ
.
จนกระทั่งไม่นานมานี้ ฉันก็ได้พบกับประสบการณ์หนึ่งที่อยากจะมาแบ่งปันเพื่อเป็นการชูใจให้กับคนอื่นๆ ด้วย
__________________________
เรื่องราวเริ่มต้นในวันจันทร์ที่น่าเบื่อหน่ายเพราะเนื้อหาของวิชาคาบเช้านั้นค่อนข้างเยอะ เพื่อนในห้องต่างพากันง่วงเหงาหาวนอนจนหมดคาบ พอถึงเวลาเที่ยงตรงก็รีบออกจากห้องเพื่อไปทานข้าว และหนึ่งในบทสนทนาระหว่างนั้นก็ทำให้พวกเราตาสว่างขึ้นมา “วันนี้สอบลีลาศห้าโมงเย็น”
17.00 น.
ฉันและเพื่อนๆ เดินมาถึงสถานที่นัดหมายตามตรงเวลา โดยมีเพื่อนคณะอื่นกำลังสอบกันอยู่
เห็นแล้วใจแป้วไปก่อนเลย.. ด้วยความกังวลที่เรียนได้แค่สองครั้งก่อนจะหยุดยาวสองอาทิตย์ แถมเปิดมาวันนี้ก็มีสอบอีก และหากทำได้ไม่ดี ก็ต้องหาเวลาว่างให้ตรงกับอาจารย์เพื่อมาสอบซ่อม ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นคนที่มารอสอบต่อจากกลุ่มอื่นจึงใช้เวลาระหว่างรอตั้งใจฝึกซ้อมกันเป็นพิเศษ
ฉันก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย แต่ยิ่งซ้อมกลับงงกว่าเดิม ทำยังไงก็ไม่เข้าใจ เริ่มเครียด เริ่มกลัวว่าจะทำได้ไม่ดี จะทำให้คู่เต้นได้คะแนนน้อย จะขายหน้าถ้าเต้นผิด ซึ่งความคิดกังวลทั้งหมดทั้งมวลค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในระยะสองชั่วโมงที่ต้องรอนี้ ทุกอย่างในหัวทำให้รู้สึกกดดันจนน้ำตาไหล
ขณะที่ไม่รู้จะทำยังไง ฉันก็ได้บอกกับพระเจ้าว่า “พระเจ้าช่วยด้วย ลูกไม่รู้จะทำยังไง”
ทันใดนั้น ความคิดหนึ่งได้แทรกเข้าโดยอัตโนมัติมาว่า “อธิษฐานสิ”
…
ฉันจึงรวบรวมสติ เดินไปหามุมเงียบ และเริ่มอธิษฐาน
“ขอให้พระเจ้านำทางลูก ซึ่งลูกจะได้ก้าวตามพระองค์ไปเพื่อในทุกย่างก้าวนั้นจะเป็นก้าวที่ประสบความสำเร็จ”
พออธิษฐานจบ อาจารย์ก็เรียกกลับมารวมกลุ่มและเริ่มทวนให้ทั้งที่ก่อนหน้าไม่มีทีท่าว่าจะเป็นแบบนี้เลยแม้แต่น้อย
ฉันเริ่มแปลกใจ..
ระหว่างที่มีการทบทวนท่า อาจารย์ทวนให้อย่างใจเย็น ซึ่งผิดจากปกติไปมาก
.
นั่นทำให้ฉันแปลกใจมากขึ้น..
และในตอนทวน จังหวะที่กำลังจะก้าวเท้าก็ได้ยินเสียงบอกว่า “ลดลงหนึ่งจังหวะ”
ประโยคนั้นเองที่ทำให้รู้ว่าพระเจ้ากำลังสอนฉันอยู่
__________________________
ทวนกันอยู่พักหนึ่ง ความกังวลใจก็ค่อยๆ คลายลง ฉันรู้สึกสงบอย่างบอกไม่ถูกและเริ่มได้ยินเสียงจากพระเจ้ามากขึ้น ซึ่งแม้จะไม่กี่ครั้งในคลาสนั้น แต่ก็ทำให้หัวใจพองโตขึ้นมาพอสมควรเชียว ฉันเริ่มเต้นได้จนคล่องและมั่นใจที่จะกลับไปเข้าคู่ แน่นอนว่าก่อนเข้าคู่ก็อธิษฐานเพิ่มเติมไปว่า “ขอให้พระเจ้านำทุกๆ คนเหมือนที่พระองค์นำหนู”
แล้วผลลัพธ์ก็คือเต้นได้เข้าจังหวะดีกว่าชั่วโมงก่อนมาก อีกทั้งคู่เต้นก็ดูสุขุมอย่างที่ไม่เคยเป็นตอนซ้อมครั้งก่อนๆ
.
เมื่อเราซ้อมเข้าคู่กันอยู่พักใหญ่จนเริ่มมั่นใจ พอใกล้เวลาสอบฉันก็อธิษฐานอีกครั้ง คราวนี้เพิ่มไปว่า
“ทุกย่างก้าวคือความสำเร็จที่พระองค์มอบให้ ขอให้มารซาตานที่ทำให้กังวลใจและสับสนนั้นออกไป เพราะพื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ของพระองค์”
ฉันเดินรอบๆ พื้นที่สอบ อธิษฐานซ้ำไปซ้ำมาประมาณสองสามรอบ
เมื่อถึงตอนสอบก็ไม่กลัว ไม่กังวล ไม่เครียด เผลอเหม่อไปนิดหน่อยจนตอนท้ายได้ยินพระเจ้าบอกว่านับเกินจังหวะนึง แต่ฉันก็พยายามต่อจนจบเพลง ผลออกมาคือคะแนนออกมาเกินกว่าที่คาดไว้ ฉันพอใจมากเพราะถือว่ามันอยู่ในระดับที่ดี
__________________________
หลังจากสอบเสร็จ มีเพื่อนที่สอบคราวก่อนไม่ผ่านเดินมาหา ฉันจึงกอดและอธิษฐานให้เขา บอกว่าพระเจ้ารักและจะดูแลชีวิตของเขาเสมอ ขณะยืนดูเพื่อนสอบฉันก็ร้องขอกับพระเจ้าให้เพื่อนที่กังวลใจนั้นทำได้ ให้พระเจ้านำเขา ให้ทุกก้าวในการเต้นของเขานั้นประสบผลสำเร็จ
ไม่น่าเชื่อว่าหลังจากนั้นเขาก็ได้คะแนนใกล้เคียงกับฉัน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขายังได้คะแนนไม่ถึงครึ่งเลยด้วยซ้ำ นั่นทำให้ฉันอธิษฐานให้เพื่อนๆ อีกครั้ง คราวนี้เพิ่มว่า
“พระองค์รักทุกคน รักสิ่งที่ทรงสร้าง และพระองค์อยากจะให้เกิดผล”
แล้วจึงเดินทางกลับบ้าน
__________________________
การเต้นในครั้งนี้ทำให้ฉันได้เรียนรู้ถึงความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างเรากับพระเจ้าว่าพระเจ้าไม่เคยทอดทิ้งเรา พระองค์คอยคิดคอยช่วยเราแก้ปัญหาในทุกๆ สถานการณ์ และการวางใจพระองค์จะทำให้เราเห็นหนทางในการก้าวไปสู่ความสวยงามและความสำเร็จของชีวิตซึ่งอยู่บนพื้นฐานความรักนิรันดร์ของพระองค์
.
และนี่คือการเต้นรำกับพระเจ้า
#ชูใจชวนแชร์ เพราะเรารู้ว่าทุกคนมีเรื่องเล่า… ชูใจจึงชวนมา ‘ส่งต่อ’ เรื่องราวที่พระเจ้าทรงทำในชีวิตของคุณเพื่อ ‘ชูใจ’ คนอื่นต่อไป ( <3 อ่านรายละเอียดได้ที่ >> https://choojaiproject.org/choojai-forward/ )
Related Posts
- Illustrator:
- Emma C.
- เด็กสาวหน้านิ่งจากเมืองกรุง มุ่งหน้าใช้ชีวิตในเมืองเหนือ พระเจ้านำให้ได้มาทำงานกับชูใจ เธอผู้นี้มีความสามารถหลากหลาย ทั้งวาดภาพ เขียน เรียบเรียง และเอาขามาพาดคอระหว่างนั่งทำงาน เธออินกับการสะกดคำให้ถูกต้องตามราชบันฑิตฯ และมีรสนิยมวินเทจผิดจากความเป็นเจนวาย เป็นหนึ่งใน Avenger ทีมบก.ที่จะมาช่วยชูใจผู้อื่นกัน
- Editor:
- Emma C.
- เด็กสาวหน้านิ่งจากเมืองกรุง มุ่งหน้าใช้ชีวิตในเมืองเหนือ พระเจ้านำให้ได้มาทำงานกับชูใจ เธอผู้นี้มีความสามารถหลากหลาย ทั้งวาดภาพ เขียน เรียบเรียง และเอาขามาพาดคอระหว่างนั่งทำงาน เธออินกับการสะกดคำให้ถูกต้องตามราชบันฑิตฯ และมีรสนิยมวินเทจผิดจากความเป็นเจนวาย เป็นหนึ่งใน Avenger ทีมบก.ที่จะมาช่วยชูใจผู้อื่นกัน