ผู้เขียน: Kelsey Nerland
บทความต้นฉบับ : http://www.relevantmagazine.com/life/relationships/10-things-not-do-when-friend-gets-their-heart-broken
“เฮ้ยยยย… พวกแกเลิกกันแล้วเหรอ?
ฉันเสียใจด้วยนะ ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกได้นะ”
.
คุณอาจเป็นคนหนึ่งที่เคยได้รับหรือส่งข้อความทำนองนี้หลังจากที่รู้ว่าความสัมพันธ์ของเพื่อนได้จบลง มันคงอึดอัดน่าดูเพราะไม่รู้ว่าควรทำจะยังไงดีเวลาที่เพื่อนอกหัก เราควรปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวหรือเปล่า? หรือควรไปนั่งข้างๆ ไหมนะ? เอ๊ะ แล้วเราควรพูดอะไรบ้าง?
แต่ก็เหมือนกับทุกสิ่งอย่างในชีวิตที่เราสามารถผ่านมันไปได้ง่ายขึ้นเมื่อมีเพื่อนอยู่ข้างๆ แต่บางอย่างต่อไปนี้ “เพื่อน” ก็ไม่ควรทำเวลา “เพื่อน” อกหัก
…
1. พูดว่า “ฉันเสียใจด้วยนะ” แล้วก็พอแค่นั้น
“เสียใจด้วยนะ” คือคำพูดที่สามารถพูดได้ทั่วไป แต่ไม่ใช่สิ่งที่คนอกหักต้องการ ช่วงเวลาแบบนี้คนอกหักต้องการรู้แค่ว่าเพื่อนจะคอยอยู่เคียงข้างเขาและรักเขา แม้แต่ประโยคที่เรียบง่ายอย่าง “ฉันรักเธอมากนะ ฉันแค่อยากจะให้เธอรู้ว่าฉันอยู่ตรงนี้เพื่อเธอนะ” ก็เป็นประโยคที่ยิ่งใหญ่แล้ว ในช่วงเวลาแบบนี้จิตใจสามารถเต็มไปด้วยความคิดที่ไม่ดีมากมาย เพราะฉะนั้น สิ่งสำคัญก็คือการแทนที่ความคิดแง่ลบเหล่านั้นด้วยความคิดในแง่บวก
.
2. พูดว่า “ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกได้นะ”
ถึงแม้ว่าคุณจะเจตนาดีและนี่เป็นทางออกที่ง่ายที่สุดในการจบบทสนทนา แต่อันที่จริงมันคือการ ‘โยนลูก’ ให้อีกฝ่ายเป็นคนช่วยคิดแทน คนที่กำลังเจ็บปวดอาจจะไม่เป็นคนไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนก่อนหรอกนะ พวกเขารู้สึกอ่อนแอจริงๆ และแค่อยากให้ใครสักคนเป็นฝ่ายเข้าหาเขาก่อน ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะทำอะไรเพื่อแสดงว่าคุณพยายามเข้าหาเขาก่อน ก็มีความหมายมากมายสำหรับพวกเขาทั้งนั้นแหละ
.
3. คิดไปเองว่าพวกเขาอยากอยู่คนเดียว
ปรกติพอเลิกกันแล้ว เราก็จะต้องใช้เวลาอยู่เพียงลำพัง โดยส่วนตัวแล้ว ฉันมักจะไปเดินห้างสรรพสินค้าเพื่อทำการช้อปปิ้งบำบัดหลังจากอกหัก แต่ฉันกลับอยากให้มีใครสักคนมาอยู่กับฉันด้วยมากกว่า การที่ต้อง “อยู่ตัวคนเดียว” คือช่วงเวลายากๆ ที่เพื่อนคุณต้องเจอ ลองถามเขาดูไหม ว่าเขาอยากมีคนไปไหนมาไหนเป็นเพื่อนรึเปล่า โดยเฉพาะในช่วงเวลาแบบนี้
.
4. ปล่อยให้เพื่อนตามหาความช่วยเหลือเอง
บ่อยครั้งที่เรามักจะพูดว่า “โทรหาฉันได้นะถ้าเธออยากจะคุย” นี่ก็เหมือนกัน เจตนาดีแบบเอาตัวรอดง่ายๆ คนที่กำลังประสบกับความปวดใจคงไม่อยากรู้สึกว่าตัวเองเป็นภาระของใคร เพราะฉะนั้น คุณควรเป็นฝ่ายโทรหาพวกเขาและบอกให้เขารู้ว่าคุณเป็นห่วงเขา และอยากฟังเสียงจากหัวใจของเขาจริงๆ
.
5. เจ้ากี้เจ้าการ พยายามจะแก้ไขทุกอย่าง
เวลาที่คุณอยู่กับเพื่อนหรือกำลังคุยกัน คุณควรจะพยายามรับฟังโดยไม่ขัดจังหวะ ถึงแม้คำพูดเช่นว่า “ฉันว่ามันไม่น่าจะเป็นอย่างนั้นนะ” หรือ “ในที่สุดพระเจ้าจะนำคนที่ใช่มาให้เองแหละ” ซึ่งมันก็อาจจะจริง แต่มันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เพื่อนคุณอยากฟังตอนนี้หรอกนะ
.
6. คิดเอาเองว่าแค่คำพูดปลอบใจก็พอแล้ว
ฉันเชื่ออย่างจริงจังในการเยียวยาของขนมหวาน ดอกไม้ ข้อความ การเขียนบันทึก หรืออะไรก็ตามที่จับต้องได้ ทำอะไรก็ได้เพื่อให้เขารู้ว่าคุณเป็นห่วงเขาจริงๆ นอกจากคำพูดปลอบโยน ก็แหม ใครบ้างจะไม่อยากได้ของขวัญที่มีคนตั้งใจให้ล่ะ การกระทำที่แสดงออกด้วยความรักแบบนี้จะทำให้เห็นความรักที่เรามีต่อเพื่อนเห็นได้ชัดเจนขึ้นและช่วยได้ในระยะยาว
.
7. ปล่อยให้พวกเขาจมอยู่กับอดีต
พาพวกเขาไปสวนสาธารณะ เที่ยวทะเล ห้างสรรพสินค้า ตกปลา หรือที่ไหนก็ได้ เอาอดีตคนเคยรักนั้นออกไปจากความคิดของพวกเขา และให้ความหวังกับพวกเขาว่ายังมีสิ่งที่ดีกว่าที่จะเข้ามาในอนาคต หากิจกรรมที่จะทำให้พวกเขาลืมอดีตและไม่จมปลักอยู่ในความทรงจำ
.
8. คอยถามไถ่เพียงแค่ครั้งเดียว
ช่วงวันแรก ก็ยังมีคนสนใจดีอยู่หรอก แต่ต่อมาก็ลืม ช่วง 2-3 วันหลังจากการเลิกรานั้นเป็นช่วงที่เลวร้ายที่สุด ดังนั้น ในระยะแรกๆ คอยถามไถ่ หรืออยู่เป็นเพื่อนเขาบ่อยๆ
.
9. ทำเหมือนความรู้สึกของพวกเขาไม่มีความหมาย
สิ่งหนึ่งที่ยากที่สุดในการเลิกรา ก็คือเราไม่สามารถแบ่งปัน “สิ่งเล็กน้อย” กับคนสำคัญคนนั้นได้อีก เช่น เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันที่ไม่ได้สลักสำคัญพอที่จะทวีตหรือโพสต์ลงเฟซบุ๊ค แต่รู้สึกว่ามันตลกหรือแปลกจนอยากจะเล่าต่อ ไอ้เหตุการณ์แบบนี้แหละที่คุณสามารถแสดงให้เพื่อนของคุณรู้ว่า เขาก็สามารถแบ่งปันสิ่งเหล่านี้กับคุณได้ ความจริงแล้ว พวกเขาแค่อยากจะรู้ว่ามีใครสักคนที่จะคอยอยู่เคียงข้างและรับฟังความรู้สึกของเขาเท่านั้นแหละ
.
10. ไม่ช่วยเหลือพวกเขาในฝ่ายวิญญาณ
การอธิษฐานร่วมกับคนที่กำลังอกหักเพื่อช่วยให้พวกเขาได้รู้ว่า พระเจ้าทรงมีฤทธิ์อำนาจและควบคุมทุกอย่าง และยังทำให้พวกเขาได้เห็นภาพรวมและได้พบกับมิตรภาพด้วย ซึ่งก็คือสิ่งที่พวกเขาต้องการในเวลานี้
ถึงแม้ช่วงเวลาอกหัก จะอยู่เพียงชั่วคราว แต่มันก็สร้างแผลใจไม่น้อยสำหรับคนที่เจ็บปวด และการเยียวยาจากเพื่อนในช่วงเวลาเช่นนี้ก็สำคัญไม่น้อย อย่างตอนที่โยบต้องทนทุกข์จากภัยพิบัติที่เกิดขึ้นกับตัวเขาเอง ก็มีเพื่อนนี่แหละ ที่มาอยู่และคอยปลอบใจ
.
“เมื่อสหายทั้งสามของโยบได้ยินถึงภัยพิบัตินี้ทั้งสิ้นที่ได้เกิดขึ้นกับท่านต่างก็มาจากที่ของตน… เขาได้นัดมาพร้อมกันเพื่อร่วมทุกข์กับท่านและเล้าโลมใจท่าน เมื่อเขาเห็นท่านแต่ไกลเขาก็จำท่านไม่ได้ ก็เปล่งเสียงร้องไห้ต่างก็ฉีกเสื้อคลุมของตน และซัดผงคลีดินเหนือศีรษะของตนขึ้นไปยังฟ้าสวรรค์ และนั่งกับท่านบนดินเจ็ดวันเจ็ดคืน ไม่มีสักคนหนึ่งพูดกับท่านสักคำ ด้วยเขาเห็นว่าความทุกข์ระทมของท่านนั้นใหญ่ยิ่งนัก”
โยบ 2:11-13
.
สรุปก็คือ การรักคนที่กำลังเจ็บปวดนั้นอยู่ที่การแสดงออก แสดงให้เพื่อนคุณรู้ว่าพวกคุณจะคอยอยู่เคียงข้างพวกเขาเสมอแม้ไม่ต้องร้องขอ เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณสามารถทำให้เพื่อนคุณได้ ทั้งนี้ 10 วิธีดังกล่าวนี้ไม่ได้เป็นสูตรสำเร็จในการดีลกับเพื่อนที่ออกหักนะ ในฐานะเพื่อนที่ดี เราย่อมรู้จักเพื่อนของเรา และรู้ว่าเราควรช่วยเหลือเขายังไง ที่สำคัญก็คือให้เราทำด้วยความรัก อยู่เป็นเพื่อนกับเขาให้เขารู้ว่ายังมีเพื่อนที่คอยเคียงข้าง และเข้าใจสิ่งที่เขาเผชิญในทุกเวลา เหมือนที่ในพระคัมภีร์บอกไว้ว่า …
“มิตรสหายก็มีความรักอยู่ทุกเวลา
และพี่น้องก็เกิดมาเพื่อช่วยกันยามทุกข์ยาก”สุภาษิต 17:17
พบกับ #LoveCoach และ #โค้ชเจเจ้ คอลัมน์ตอบปัญหาความรักในสไตล์คริสเตียนได้ทุกวัน อังคาร สีชมพูววว์ นะจ๊ะ
Related Posts
- Translator:
- Aui Wijitra
- ผู้แปลอาสาฯ จากเมืองเจียงฮาย ผู้เชี่ยวชาญร้านบุฟเฟ่ต์ทั่วเมืองเชียงรายและปริมณฑล และถึงแม้งานประจำจะล้นมือแค่ไหน แต่ก็ไม่อยากวางมือจากการเป็นผู้แปลให้ชูใจ โอ้ย ขอมงให้นางด้วยค่ะ!
- Illustrator:
- Emma C.
- เด็กสาวหน้านิ่งจากเมืองกรุง มุ่งหน้าใช้ชีวิตในเมืองเหนือ พระเจ้านำให้ได้มาทำงานกับชูใจ เธอผู้นี้มีความสามารถหลากหลาย ทั้งวาดภาพ เขียน เรียบเรียง และเอาขามาพาดคอระหว่างนั่งทำงาน เธออินกับการสะกดคำให้ถูกต้องตามราชบันฑิตฯ และมีรสนิยมวินเทจผิดจากความเป็นเจนวาย เป็นหนึ่งใน Avenger ทีมบก.ที่จะมาช่วยชูใจผู้อื่นกัน