บทความต้นฉบับ โดย : Preston Sprinkle
ผมไม่เคยลืมเรื่องที่ครูรวีบอกว่า “เราคริสเตียนจะใช้ชีวิตชั่วนิรันดร์ของเราในการนมัสการพระเจ้าบนสวรรค์” แต่ว่าปิติยินดีที่ฉายบนใบหน้าคุณครูไม่ได้เกิดกับใบหน้าของเด็กวัย 7 ขวบที่คิดแต่จะเล่นลูกบอลอย่างผม
.
“ครูหมายถึง ร้องเพลงเหรอฮะ? ” ผมถาม
“ใช่แล้วจ้ะ” เธอตอบเสียงดังอย่างมีความสุข “เราจะสรรเสริญพระเจ้าตลอดชั่วนิรันดร์” ผมพยักหน้าส่งไปงั้น แต่ผมก็อดคิดไม่ได้ว่า ฟัง ๆ ดูแล้วมันน่าจะเหมือนนรกมากกว่าสวรรค์นะ
.
ผมเชื่อจริง ๆ นะว่าพระเจ้าสร้างเราให้นมัสการพระองค์ แต่ผมก็แอบหวังลึก ๆ ว่ามันจะไม่ใช่การนมัสการแบบที่ไม่ต้องหยุดพัก เพราะการร้องเพลงสรรเสริญอาจดีมากในช่วง 20 นาทีแรก หรือถ้าเต็มที่ก็แค่ 1 ชั่วโมง แล้วอีก 10,080 นาทีที่เหลือในหนึ่งสัปดาห์ของเราล่ะจะใช้ทำอะไร? ถ้าหากเราได้รับการสร้างมาเพื่อให้นมัสการ งั้นเราคงไม่นมัสการแค่ 2-3 นาทีเฉพาะในเช้าวันอาทิตย์แน่ ๆ
.
แก่นแท้ของการนมัสการคือการถวายเกียรติอันทรงค่าแด่พระเจ้าไม่ใช่เรื่องดนตรี
ซึ่งมีอยู่หลายวิธีที่เราควรจะใช้เพื่อนมัสการพระเจ้า และในชีวิตประจำวันเรานมัสการพระเจ้าได้อีก 4 แบบ
.
1. นมัสการด้วยการเชื่อฟัง
ถ้าพระเจ้าคือผู้สร้างและเราคือผู้ที่พระองค์สร้างขึ้น พระเจ้ารู้อย่างแน่นอนว่าอะไรดีที่สุดสำหรับเรา และถ้าพระเจ้ารู้ว่าอะไรดีที่สุดสำหรับเรา พระเจ้าก็จะไม่ได้รับเกียรติเลยเมื่อเราพูดว่า “พระเจ้าลูกขอบพระคุณสำหรับคำปรึกษานะฮะ แต่ครั้งนี้ลูกจัดการเองได้ จริงๆ แล้วลูกเจอทางออกที่ดีกว่าด้วย”
ภาพถ่าย โดย Leeroy
.
การเชื่อฟังเป็นการถวายเกียรติอันทรงค่าแด่พระเจ้า เป้าหมายของการเชื่อฟังก็เหมือนกับการร้องเพลงคือทำด้วยใจจริง ชนิดที่มีความเปรมปรีย์ที่ล้นออกมาจากภายใน ยินดีที่จะทำตามความประสงค์ของพระเจ้า พระเจ้าได้บอกกับอิสราเอลว่า
“เพราะท่านมิได้ปรนนิบัติพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านด้วยความร่าเริงและใจยินดี… เพราะฉะนั้น ท่านจึงต้องปรนนิบัติศัตรูของท่าน” (เฉลยธรรมบัญญัติ 28:47-48)
อิสราเอลถูกลงโทษเพราะไม่ได้ปรนนิบัติพระเจ้าด้วยใจยินดี
.
เราได้นมัสการพระเจ้าเมื่อเราทำงานในแบบที่สำแดงถึงพระลักษณะและพระสิริของพระองค์
แล้วในเวลาที่คุณรู้สึกว่าไม่อยากเชื่อฟังล่ะ? เราต่างก็มีช่วงเวลานั้น ที่รู้ว่าพระเจ้าดี ควรที่จะเชื่อฟังพระองค์ และความบาปนั้นให้ความสุขแค่ชั่วคราวแล้วจะกลืนกินผมทีหลัง แล้วทำไมผมถึงยังทำบาปล่ะ? ทำไมผมถึงไม่ปรารถนาที่จะเชื่อฟังพระองค์มากขึ้น
.
ผมคงไม่มีคำตอบที่ดีไปกว่าที่จะบอกว่าเป็นเพราะบาปธรรมชาติที่หน่วงเหนี่ยวเราไว้จากการแสวงหาพระเจ้า แต่เราจะต้องเชื่อฟังพระองค์อยู่เสมอ แม้จะไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นก็ตาม เราคือผู้ที่รัก ผู้ปรนนิบัติ และผู้ที่ยกโทษต่อคนที่ทำผิดต่อเราอยู่เสมอ อย่ามัวรอให้เกิดความรู้สึกแล้วถึงทำ เพราะบางทีมันอาจจะไม่เกิดขึ้นเลยก็ได้
แต่ กุญแจสำคัญอยู่ที่ “เมื่อทำด้วยการเชื่อฟังแม้ในบางครั้งไม่ได้เริ่มต้นด้วยใจรู้สึกยินดี ก็จะมีความยินดีตามมาภายหลัง”
.
2. นมัสการด้วยการทำงาน
พระเจ้าสร้างเราให้ทำงาน ซึ่งเป็นสิ่งแรกพี่พระเจ้าทรงบัญชาต่อมนุษยชาติ “ให้ปกครอง”แผ่นดิน (ปฐมกาล 1:26)
การปกครองแผ่นดินคือแนวคิดแบบครอบคลุมทุกสิ่งที่เราทำ รวมถึงการทำงานด้วย แต่งานในที่นี้ไม่ใช่ภาระที่ปราศจากความสุขหรอกนะ
.
เรานมัสการพระเจ้าเมื่อเราทำงานในแบบที่แสดงถึงพระลักษณะและพระสิริของพระองค์ นั้นหมายความว่างานของเราควรเปี่ยมด้วยคุณธรรมและความสัตย์ซื่อ
“ไม่ว่าท่านทำสิ่งใด ก็จงทำด้วยความเต็มใจเหมือนกระทำถวายองค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ใช่เหมือนกระทำแก่มนุษย์” (โคโลสี 3:23)
.
คนที่ทำงานอย่างเต็มกำลัง ด้วยความถ่อมใจ ด้วยใจยินดี และมีความสร้างสรรค์ คือผู้ที่ทำงานด้วยท่าทีที่ยกย่องต่อพระผู้สร้าง และแสดงถึงเกียรติอันทรงค่าที่พระเจ้าควรได้รับ
.
3. นมัสการด้วยความสร้างสรรค์
พระเจ้าไม่ได้สร้างเราตามภาพลักษณ์ของพระองค์เพื่อให้เราเป็นหุ่นเลียนแบบพระองค์ที่ผลิตจำนวนแต่ปราศจากความคิด ในยุคสมัยที่ผู้คนต่างก็เทิดทูนความสำเร็จและผลประโยชน์ เราต้องตระหนักอยู่เสมอว่าพระเจ้าสร้างเราให้เป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ไม่ใช่แค่มีประสิทธิภาพเพียงอย่างเดียว (แน่ทีเดียวว่า ทั้งสองอย่างไม่สามารถแยกจากกันได้อย่างชัดเจน) พระเจ้าทรงสร้างสรรค์ เป็นแก่นแท้ของพระองค์ เราคือภาพลักษณ์ของพระองค์ ดังนั้นเราจึงมีความสร้างสรรค์ด้วยเช่นกัน นั้นคือวิธีที่พระเจ้าสร้างเราไว้
ภาพถ่าย โดย Alice Achterhof
เมื่อเราสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ เราก็ได้สะท้อนพระลักษณะของพระเจ้า เป็นการถวายเกียรติอันทรงค่าแด่พระองค์
.
การนมัสการด้วยความสร้างสรรค์ขยายไปยังทุกๆ ด้านของชีวิตและผมได้รับการปลูกฝังมาตลอดว่า เราสร้างสรรค์โดยธรรมชาติ การเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์นั้นมีอะไรที่มากกว่าแค่การสร้างงานศิลปะ ที่ขยายไปในทุกๆ ด้านของชีวิต เมื่อคุณนำสิ่งทรงสร้างหนึ่งสิ่งมาและสร้างสรรค์ให้ดียิ่งขึ้นหรืองดงามมากกว่าเดิม การทำงานไม้เกี่ยวกับรถ ด้านการพูด ทั้งหมดนี้ล้วนเกิดขึ้นได้เพราะว่าเรามีพระลักษณะอย่างเดียวกับพระเจ้าและฉะนั้น เราจึงเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์
.
อย่าหยุดพักจากการนมัสการพระเจ้าด้วยความสร้างสรรรค์ จงนมัสการพระองค์ด้วยการเป็นผู้สร้างสรรค์
.
4. นมัสการด้วยความเพลิดเพลิน
“นับพระพรของท่านดูทีละอัน นับพระพรซึ่งพระเยซูประทาน…” คุณเคยได้ยินเพลงนี้ไหม? ☺
ภาพถ่าย โดย Ondrej Supitar
.
คุณเคยได้ลองนับพระพรของพระองค์รึเปล่า? เมื่อคุณเข้าใจแล้วว่าการนมัสการคืออะไร คุณก็จะใช้เวลา 10,080 นาทีนั้นหมดไปอย่างรวดเร็วด้วยความเพลิดเพลินในท่าทีแห่งการนมัสการ แม้แต่การเล่นกีฬา ทำงานอดิเรก ออกกำลังกายหรือแค่หัวเราะกับเพื่อนของคุณก็เป็นช่องทางของการถวายเกียรติอันทรงค่าแด่พระเจ้าแล้ว
.
ยกตัวอย่างเช่นการหัวเราะ คุณเคยนึกถึงการหัวเราะว่าเป็นงานของฝ่ายวิญญาณหรือเปล่า? แน่นอนว่าต้องขึ้นอยู่กับว่าอะไรทำให้คุณหัวเราะได้ มีสิ่งชั่วมากมายที่เหตุให้คนหยุดหัวเราะไม่ได้ แต่จริงๆ แล้วเสียงหัวเราะเป็นสิ่งที่ดี เพราะเป็นการสะท้อนถึงพระลักษณะของพระเจ้า จึงไม่ใช่สิ่งที่เป็นกลางๆ จะดีหรือไม่ดีก็ได้
.
ลองคิดดูนะ การหัวเราะนั้นดีกับคุณ เพราะให้คุณประโยชน์ทั้งต่อจิตใจและร่างกายตามผลของการค้นคว้าวิจัย การหัวเราะช่วยลดความวิตกกังวล ผ่อนคลายความตึงเครียดและทำให้อายุยืน การหัวเราะคือส่วนหนึ่งของการทรงสร้างของพระเจ้าที่เห็นว่า “ดี” ในหลายครั้งด้วยกันจากหนังสือปฐมกาล ดังนั้น การหัวเราะจึงได้รับการสร้างอย่างมีวัตถุประสงค์
เสียงหัวเราะเป็นการถวายเกียรติอันทรงค่าแด่พระเจ้าเพราะเป็นการเพลิดเพลินกับสิ่งที่พระองค์มอบให้
.
หลักการนี้สามารถนำไปใช้กับชีวิตในทุกๆ ด้าน พระเจ้าอยากให้เราชื่นชมยินดีกับสิ่งทรงสร้างที่พระองค์มอบให้แก่เรา
เมื่อเราชื่นชมยินดีในทางที่ถูกต้อง เราก็ได้ถวายเกียรติอันทรงค่าแด่พระผู้สร้าง
.
พระเจ้าสร้างเราให้วิ่ง ว่ายน้ำ ไต่เขา ทำงาน กิน ร้องเพลง เขียน วาดภาพ หัวเราะ สิ่งเหล่านี้คือของประทานที่พระองค์มอบให้เรา หากเราไม่ใช้ (ให้มากเท่าที่เราจะทำได้) เราก็ไม่ได้ถวายเกียรติอันทรงค่าแด่พระผู้สร้างเราอย่างที่ควรทำ เมื่อเราใช้สิ่งเหล่านี้และมีความสุขกับการใช้ เราก็ได้ประกาศต่อโลก ต่อตัวเราและต่อพระเจ้าว่า พระองค์คือพระบิดาที่แสนดีเหมือนที่พระองค์เคยกล่าวไว้ แต่เราต้องใช้มันไปตามพระประสงค์ของพระเจ้า ไม่อย่างนั้น สิ่งที่ดีๆ เหล่านี้ก็สามารถที่จะขโมยความชื่นชมยินดีและทำลายจิตใจของเราได้ แต่ที่แย่ที่สุด คือเราไม่ได้ถวายเกียรติอันทรงค่าแด่พระผู้สร้างของเรา
☺ “สุดท้ายนี้ขอให้เราคริสเตียน ดำเนินชีวิต ด้วยท่าทีแห่งการนมัสการพระเจ้าไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน หรือทำอะไร เพราะพระเจ้าพอพระทัยจิตใจที่เชื่อฟัง และให้เกียรติพระองค์ มากยิ่งกว่าเรื่องดนตรีและพิธีการแน่นอน”
#Featured คอลัมน์ทันกระแสสังคม หยิบจับเรื่องทั่วไปมาพูดใหม่ในมุมมองคริสเตียน ทุกวันพฤหัสสีส้มส้มน้าาาาา!!! ☺
Related Posts
- Translator:
- Aui Wijitra
- ผู้แปลอาสาฯ จากเมืองเจียงฮาย ผู้เชี่ยวชาญร้านบุฟเฟ่ต์ทั่วเมืองเชียงรายและปริมณฑล และถึงแม้งานประจำจะล้นมือแค่ไหน แต่ก็ไม่อยากวางมือจากการเป็นผู้แปลให้ชูใจ โอ้ย ขอมงให้นางด้วยค่ะ!
- Illustrator:
- Jostar
- พี่ชายผู้อบอุ่นละมุนละไม เวลาใส่หมวกกันน๊อคแล้วนั่ลล๊าคดั่ง Pororo อดีตมาสเซอร์วิชาสอนศิลปะ ปัจจุบันถวายตัวรับใช้ที่โบสถ์สไตล์ลอฟๆ ชอบขีดๆ เขียนๆ วาดๆ
- Editor:
- Gade Rammasoon
- จากแฟนคลับชูใจ พลิกผันมาเป็น Editor เรียบเรียงคำแปลในทีมชูใจ เธอผู้นี้ถวายตัวรับใช้พระเจ้ากับ YWAM มีทั้งงานแปล งานสอน และเต้นรำเพื่อการนมัสการ! ภารกิจรัดตัวแต่ก็ยังอาสามาช่วยชูใจน้องๆ กัน