บทความต้นฉบับ : http://www.relevantmagazine.com/life/relationships/3-bad-motivations-dating
จริงๆ เวลาเราพูดถึง “การคบหาดูใจ” เราส่วนใหญ่แล้วจะรู้สึกสับสนมากกว่ามั่นใจ
คงต้องยอมรับว่าเราต่างได้บาดแผลและทำพลาดมากมายจากการ “ไม่ระมัดระวัง” ก่อนที่จะเข้าสู่ความสัมพันธ์กับใครสักคน และถึงแม้เรื่องความรักความสัมพันธ์เป็นเรื่องยอดนิยมตลอดกาล แต่สิ่งหนึ่งที่เรามักมองข้ามไปก็คือเรื่อง “แรงจูงใจ” เราชอบถามว่า “อย่างไร” แต่ไม่ค่อยสนใจจะถามว่า “ทำไม” ท่าทีการวางตัวหรือคำแนะนำเป็นองค์ประกอบสำคัญ แต่ถ้าเรื่อง “แรงจูงใจ” ถูกละเลย ก็เหมือนกับหมอที่รักษาโรคตามอาการเท่านั้น แต่ไม่ได้หาต้นเหตุที่แท้จริงของโรค
เพราะว่าการคบหากันนั้นเกิดขึ้นในชีวิตจริง กับคนจริงๆ แต่ละวันนั้นจึงเต็มไปด้วยสิ่งที่ทำให้เราไขว้เขวได้ง่าย จึงจำเป็นที่เราจะต้องตระหนักอยู่เสมอว่าอะไรคือสิ่งที่ขับเคลื่อนการตัดสินใจในแต่ละวันของเรา การกระทำของเรา และปฏิกิริยาโต้ตอบของเรา เพราะมันจะต้องมีเบื้องลึกอะไรบางอย่างที่เป็นแรงจูงใจที่ลึกกว่าแรงดึงดูดภายนอก
.
ผมจึงขอยกตัวอย่าง 3 แรงจูงใจแย่ๆ ของการคบหากัน มาให้ลองคิดตามกันครับ
1. มีแฟนเพื่อพิสูจน์ตัวเอง
เราคงเคยได้ยินเรื่องของบางคนที่คบหากับแฟนตั้งแต่สมัยมัธยมปลายจนได้แต่งงานกันในที่สุด ฟังดูน่าอิจฉาใช่มั้ยครับ แต่ใช่ว่าทุกคู่จะมีความสัมพันธ์ราบรื่นแบบนี้ สำหรับบางคนที่ผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชนทั้งเทคนอื่น หรือโดนคนอื่นเท ถ้าบาดแผลจากอดีตเหล่านี้ไม่ได้จัดการอย่างถูกต้อง ความสัมพันธ์ครั้งต่อไปก็จะไม่ใช่เพื่อการ ‘กระทำคุณให้’ แต่เป็นแค่ ‘การพิสูจน์ตัวเอง’ ให้ใครก็ไม่รู้หรือแค่พิสูจน์ตัวเองแก่ตัวเราเอง! ความรู้สึกไม่มั่นคงทำให้ความตั้งใจที่ดีพังทลายลงไปได้ ทำให้เรากลายเป็นคนเห็นแก่ตัวและจดจ่ออยู่แค่ว่าคนอื่นจะคิดกับเรายังไง
แต่สิ่งที่ตัวเรามองตัวเราเองก็ไม่ได้ถูกต้องเสมอไปและไม่ใช่จุดสิ้นสุดด้วย (1 โครินธ์ 4:3-5)
คือที่จริงเราควรจะปรารถนาการเติบโตในความสัมพันธ์ทั้งกับคนที่เราคบด้วย และคุณลักษณะที่พระเจ้าจะขัดเกลาเรา ดังนั้นการมีแฟนเพื่อให้ดีกว่า “ครั้งก่อน” เพื่อชดเชยความผิดพลาดในอดีตจึงไม่ใช่เรื่องที่ดีหรือจำเป็น เพราะตัวตนของคุณนั้นมั่นคงอยู่ในพระคริสต์แล้ว ไม่ใช่สถานะความสัมพันธ์
____________________________
2. มีแฟนเพื่อแก้เหงาหรือแก้เบื่อ
ในชีวิตเราก็มีหลายฤดูกาลที่อาจดูน่าเบื่อหน่าย พอๆ กับการไปหาหมอในโรงพยาบาล เรารู้ว่าเรามาทำอะไร แต่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนเริ่มสงสัยว่าทำไมต้องรอนานขนาดนี้ นี่เรากำลังทำอะไรอยู่
คนยุคมิลเลนเนียล (หรือ Gen Y) ดูจะไม่ชอบความจริงเรื่องนี้ และไม่เข้าใจวิธีที่พระเจ้าทำงานผ่านสิ่งธรรมดาๆ เลยทำให้เราตามหาความสัมพันธ์ที่โรแมนติกแค่เพื่อประโยชน์จากการได้มีใครสักคนอยู่หรือไปไหนมาไหนด้วยกันได้ บางครั้งเราก็คิดเองว่าการมีใครสักคนจะทำให้เรามีความสุขขึ้น เหงาน้อยลง ให้ความชัดเจน หรือสร้างแรงบันดาลใจให้กับเราได้
ในโลกที่เสื่อมด้วยความบาป บ่อยครั้งที่เราพยายามหาวิธีจัดการกับความรู้สึกไม่พอใจ เหงา ไม่มีความสุข ฯลฯ แต่ความรู้สึกเหล่านี้ไม่ได้มีไว้ขับเคลื่อนความสัมพันธ์ แม้คุณจะมีแฟน คู่หมั้น ภรรยาหรือสามีที่ดี ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาฝ่ายวิญญาณของคุณได้ อย่างดีที่สุดพวกเขาอาจจะชี้ให้คุณไปแสวงหาพระเจ้าผู้ที่สามารถช่วยได้ แต่ไม่มีใครที่จะมาช่วยคุณแทนพระองค์ได้แน่นอน
การให้น้ำหนักกับคนอาจทำให้ต่างฝ่ายต่างจบไม่สวยกันทั้งคู่ เพราะฉะนั้น ให้เรานำสิ่งที่เรากังวลมาทูลต่อพระเจ้า เพราะพระองค์ทรงห่วงใยเรา
____________________________
3. มีแฟนเพื่อที่จะได้รับความรัก
ข้อนี้เป็นเรื่องยากเพราะว่าความซับซ้อนของภาษานั้นมีทั้งถูกและผิดในเวลาเดียวกัน อยู่ที่ว่าคุณจะตีความมันอย่างไร
การตามหาความรักเป็นได้ทั้งคุณและโทษ ขึ้นอยู่กับสิ่งต่อไปนี้
ข้อหนึ่ง จากความสัมพันธ์นี้เราได้รับรู้ถึงความรักของพระเจ้าหรือเปล่า?
ข้อสอง เราได้ทำตามแบบอย่างของอ.เปาโลที่กล่าวว่า “ความรักของพระคริสต์ได้ครอบครองเราอยู่” หรือเปล่า? (2 โครินธ์ 5:14)
ข้อสาม เรารู้หรือไม่ว่าการทรงสถิตอยู่ของพระเจ้า คือ ‘การเต็มล้นด้วยความชื่นชมยินดี’ ไม่ใช่ ‘การอยู่เพื่อมนุษย์’?
การเชื่อในความจริงเหล่านี้จะทำให้หัวใจของเราพร้อมที่จะเริ่มต้นอย่างถูกต้องและก่อร่างสร้างความสัมพันธ์อย่างมั่นคง แต่เมื่อไหร่ที่เราลืมไปว่าพระเจ้าทรงรักเราแค่ไหน การตามหาความรักจากมนุษย์ก็จะกลายเป็นโทษแก่เรา เพราะมันจะทำให้เรามองหาความรักนิรันดร์จากมนุษย์ที่บกพร่องและจำกัด การพักสงบอยู่ในความรักของพระเจ้าทำให้เราปลอดภัยจากการแสวงหาความรักจากมนุษย์ และปลดปล่อยเราให้แสวงหาความสัมพันธ์ในทางที่ถูกต้องด้วย
ที่ไหนที่มีแรงจูงใจที่ไม่ดี ที่นั่นก็ไปไม่รอด แต่ข่าวดีก็คือพระเจ้าทรงมีแรงจูงใจในความสัมพันธ์ที่ดีกว่าให้แก่คุณ ขอเพียงคุณตรวจสอบแรงจูงใจในการคบหาของคุณ ว่าสอดคล้องตามน้ำพระทัยของพระเจ้าหรือไม่
คอลัมน์ Love Coach บทความถามตอบปัญหาหัวใจ ปรึกษาปัญหาความรักแบบพี่อ้อยพี่ฉอดเวอร์ชั่นคริสเตียน และบทความแปลในประเด็นของความรัก ติดตามอ่านได้ทุกวันอังคารสีชมพูววววว ที่เว็บชูใจนะจ๊ะ
Related Posts
- Translator:
- Aui Wijitra
- ผู้แปลอาสาฯ จากเมืองเจียงฮาย ผู้เชี่ยวชาญร้านบุฟเฟ่ต์ทั่วเมืองเชียงรายและปริมณฑล และถึงแม้งานประจำจะล้นมือแค่ไหน แต่ก็ไม่อยากวางมือจากการเป็นผู้แปลให้ชูใจ โอ้ย ขอมงให้นางด้วยค่ะ!
- Illustrator:
- Emma C.
- เด็กสาวหน้านิ่งจากเมืองกรุง มุ่งหน้าใช้ชีวิตในเมืองเหนือ พระเจ้านำให้ได้มาทำงานกับชูใจ เธอผู้นี้มีความสามารถหลากหลาย ทั้งวาดภาพ เขียน เรียบเรียง และเอาขามาพาดคอระหว่างนั่งทำงาน เธออินกับการสะกดคำให้ถูกต้องตามราชบันฑิตฯ และมีรสนิยมวินเทจผิดจากความเป็นเจนวาย เป็นหนึ่งใน Avenger ทีมบก.ที่จะมาช่วยชูใจผู้อื่นกัน
- Editor:
- Jick
- บก.ชูใจ ผู้ใฝ่ฝันจะชูใจน้องๆ จากความพลาดของตัวเอง
