ต้นเดือนสิงหาคมในปีหนึ่ง สมัยที่ผมยังทำงานเป็นกราฟฟิกดีไซเนอร์ในกรุงเทพฯ
ด้วยเหตุเพราะใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่ายและขาดการวางแผนการเงิน ทำให้ผมเหลือเงินอยู่ในกระเป๋าแค่ 300 บาท ก็เพราะแบบนี้แหละครับ ด้วยความจำเป็น มนุษย์เงินเดือนอย่างผมเลยเริ่มต้นธุรกิจขายแซนด์วิชเล็กๆ
ผมตัดสินใจขอให้น้องสาวสอนทำแซนด์วิช หลังจากซื้อวัตถุดิบและหักค่ารถแล้ว คืนนั้นผมเหลือเงินแค่ 50 บาทเท่านั้น นั่นยังไม่แย่เท่ากับความจริงที่ว่า มันเป็นเงินที่ผมต้องใช้สำหรับทั้งเดือน ระหว่างที่ทำแซนด์วิชผมก็อธิษฐานกับพระเจ้าไปด้วยในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ผสมเนื้อปลากับมายองเนส หั่นผัก หั่นขนมปังยันแพ็กลงถุง (ทุกครั้งที่สับมีดเราสับพร้อมคำอธิษฐาน)
“พระเจ้าครับผมทำเต็มที่ในสิ่งที่ผมต้องทำที่เหลือขอพระองค์เพิ่มเติมให้ด้วยครับ”
ในการทำแซนด์วิชเนี่ยการอธิษฐานเป็นเรื่องที่ผมให้ความสำคัญมาก เพราะรู้ดีว่าถ้าขายไม่ได้ก็เท่ากับว่าอีก 20 กว่าวันที่เหลือผมจะไม่มีเงินกินข้าว และไม่มีค่ารถไปทำงาน!!!
ในเช้าวันแรก
.
ผมเดินไปยังหน้าออฟฟิศด้วยรอยยิ้ม ในมือทั้งสองมีกล่องใส่แซนด์วิช 1 ใบ
“แซนด์วิชมั้ยคร้าบบบบบ…แซนด์วิชทำเองทูน่าเต็มคำไม่มีกั๊กนะคร้าบบบบ”
.
วันนั้นพอพี่ รปภ.ออฟฟิศเห็นผมเข้าเค้าก็รีบเดินออกมาหา ในมือถือเก้าอี้นั่งของเค้าเองออกมาด้วย
“คุณโอ๊คครับ…เอานี่เก้าอี้ เอาตั้งกล่องแซนด์วิชนะจะได้ขายสะดวกๆ” (เรียกผมคุณโอ๊คเพราะผมเป็นคนสนิทกับเจ้านาย)
.
เป็นน้ำใจเล็กๆที่ชื่นใจมากครับ สิ่งนี้ทำให้ผมมีกำลังใจและมีความกล้าหาญที่จะทำมันต่อไป
ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ผมขายแซนด์วิชได้แค่ 2 ชิ้นเท่านั้น! ผมแทบร้องไห้เพราะพรุ่งนี้ผมจะไม่มีเงินใช้ ในใจยังคงอธิษฐานขณะเก็บของและเดินไปทำงานอย่างสิ้นหวัง ผมนึกถึงเงินจำนวนมากที่ใช้จ่ายและสูญเสียไปกับสิ่งไร้สาระ ทั้งๆ ที่ใจอยากร้องไห้ที่สุด แต่ผมก็ขอโทษพระเจ้าและขอบคุณพระองค์ แม้ผมจะขายแซนด์วิชได้เพียง 2 ชิ้นก็ตาม
ผมเริ่มรู้ตัวว่า พระเจ้ากำลังสอนให้ผมเห็นความน่ากลัว
ของการใช้จ่ายพร่ำเพรื่อ และการไม่รู้จักวางแผนชีวิต
บ่ายวันนั้นเองระหว่างที่ผมยังคงอธิษฐานถามพระเจ้าว่าควรทำยังไงกับของที่เหลือ และวันพรุ่งนี้จะเป็นยังไงต่อ น้องที่ออฟฟิศก็เสนอความคิด ให้ผมลองไปขายหน้าโรงเรียนที่อยู่ติดกับออฟฟิศช่วงเด็กเลิกเรียนดู ดีกว่าเอาของทิ้งหรือไม่ก็ต้องแจกทั้งหมด ผมไม่มีอะไรจะเสีย เลยลองไปตามคำแนะนำ
เพียงแค่ 20 นาที แซนด์วิชก็หมดไปในพริบตา!!! ☺
ขอบคุณพระเจ้า
.
ตอนเช้าพระองค์ทรงให้บทเรียนผมอยู่เลย แต่สุดท้ายพระองค์ก็ไม่ปล่อยให้ผมต้องอดอยาก เย็นวันนั้นผมเดินกลับห้อง พร้อมด้วยเงิน 264 บาทในกระเป๋า จากที่ตอนเช้าผมมีเพียง 50 บาทเท่านั้น!!!!
ขอบคุณพระเจ้าครับ ระหว่างเดินกลับบ้านผมแวะซื้อขนมปังกับปลาทูน่าเพิ่มเพื่อทำขายในวันรุ่งขึ้น แล้วผมก็แวะซื้อข้าวแกงทาน
.
ก่อนทานข้าวผมก้มหน้าลงอธิษฐานขอบคุณพระเจ้าสำหรับอาหารเหมือนทุกครั้ง
แต่ข้าวมื้อนี้ทำให้ท่าทีในการอธิษฐานของผมไม่เหมือนเคย
ผมรู้อย่างชัดเจนแล้วว่าพระเจ้าเลี้ยงดูมันเป็นยังไง
ผมมองดูข้าวในจานด้วยความซาบซึ้งใจในอาหารมื้อนั้นสุดๆ
(ระหว่างพิมพ์ก็น้ำตาซึมไปด้วย)
“ถ้าพระเจ้าไม่นำลูกค้ามา ถ้าพระองค์ไม่อภัยให้ผม ถ้าพระเจ้าไม่ทรงช่วย ผมจะมีข้าวจานนี้กินไหม” ประโยคพวกนี้วนเวียนในหัวขณะที่ตักข้าวเข้าปาก มันอร่อยไปถึงหัวใจ (น้ำตาไหลอีกแล้ว)
ในวันนั้นวันเดียวผมขอบคุณพระเจ้าไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง ตอนเช้าผมขอบคุณพระเจ้าที่ขายของไม่ออก พอบ่ายผมขอบคุณที่พระเจ้าทรงนำลูกค้ามาให้ ผมอธิษฐานขอและขอบคุณพระเจ้าสำหรับลูกค้าแทบจะคนต่อคน ตกเย็นผมขอบคุณพระเจ้าอย่างสุดใจกับอาหาร เย็นในวันนั้น หากถามถึงข้าวแกงที่ได้กิน มันเป็นข้าวแกงธรรมดาที่อร่อยสุดๆ เลยครับ รู้สึกเหมือนได้นั่งร่วมโต๊ะกับพระองค์
เมื่อถึงห้อง ผมก็ขอบคุณพระเจ้า ระหว่างเตรียมของทำแซนด์วิชก็อธิษฐานขอให้พระเจ้าอยู่ด้วย และนำผมก้าวไปกับพระองค์ในวันพรุ่งนี้อีก หลังจากอธิษฐาน อ่านพระคัมภีร์ ผมเข้านอนพร้อมกับความตื่นเต้นว่าพรุ่งนี้พระเจ้าจะทำอะไรร่วมกับผม จะสอนอะไรผม จะให้ผมเห็นการอัศจรรย์อะไรอีก ผมยังคงอธิษฐานจนเคลิ้มหลับไป…
เวลาผ่านไปหนึ่งเดือน ผมมีเงินใช้ทั้งเดือนอย่างเพียงพอ จากที่เหลือแค่ 50 บาท แถมยังมีเงินเหลือพอจะเลี้ยงข้าวน้องที่ออฟฟิศด้วยแหนะ
ขอบคุณพระเจ้าจริงๆ พระองค์ช่วยเราทุกคนเสมอ
แม้หลายครั้งปัญหาหลายอย่างเกิดขึ้นจากความสะเพร่าของเราเอง
แต่พระองค์ยังเป็นพระเจ้าผู้มีพระคุณและสัตย์ซื่อในการดูแลเรา
เพราะเราเป็นลูกของพระองค์
.
ขอบคุณพระเจ้าครับ ☺
#Featured คอลัมน์ทันกระแสสังคม หยิบจับเรื่องทั่วไปมาพูดใหม่ในมุมมองคริสเตียน ทุกวันพฤหัสสีส้มส้มน้าาาาา!!! ☺
Related Posts
- Author:
- ศิลปินหนุ่มแอนด์แอดมินกลุ่ม Thai Christian Artist ผู้มีความรักในลายไทยและตั้งใจจะใช้งานศิลปะเพื่อถ่ายทอดความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า
- Illustrator:
- Oak Warut
- ศิลปินหนุ่มแอนด์แอดมินกลุ่ม Thai Christian Artist ผู้มีความรักในลายไทยและตั้งใจจะใช้งานศิลปะเพื่อถ่ายทอดความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า
- Editor:
- Emma C.
- เด็กสาวหน้านิ่งจากเมืองกรุง มุ่งหน้าใช้ชีวิตในเมืองเหนือ พระเจ้านำให้ได้มาทำงานกับชูใจ เธอผู้นี้มีความสามารถหลากหลาย ทั้งวาดภาพ เขียน เรียบเรียง และเอาขามาพาดคอระหว่างนั่งทำงาน เธออินกับการสะกดคำให้ถูกต้องตามราชบันฑิตฯ และมีรสนิยมวินเทจผิดจากความเป็นเจนวาย เป็นหนึ่งใน Avenger ทีมบก.ที่จะมาช่วยชูใจผู้อื่นกัน