“ฉัน ไม่ชอบ พวกคริสเตียนเลย! ”
“ทำไม คริสเตียนเป็นแบบนี้ล่ะ เพลีย!?”
…
คำพูดเหล่านี้ ทำให้เราหยุดชะงักไปพักหนึ่ง แต่มันคงไม่เจ็บจี๊ดขนาดนี้หากไม่ใช่คำพูดจากเพื่อนสนิทของเราเอง ทั้งๆ ที่เคยรักพระเจ้า ร้อนรน และเคยรับใช้ด้วยกันมาตลอด แต่วันนี้เธอกลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เธอไม่มาโบสถ์ จู่ ๆ ก็หายไป เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ได้แต่ตั้งคำถามว่า อะไรทำให้เธอเป็นแบบนั้น ? หรือว่าเราทำอะไรให้เธอเป็นแบบนั้นรึเปล่า?
จนกระทั่งได้ยินข่าวจากเพื่อนอีกคนหนึ่งว่า เธอ “ไม่โอเค” กับคริสเตียนบางคน คำพูดและการกระ ทำบางอย่างได้สร้างบาดแผลทางใจให้กับเธอพอเจอหลาย ๆ ครั้งเข้าก็ทำให้เธอเหมารวมว่า
“พวกคริสเตียนมันก็เป็นแบบนี้แหละ!”
ภาพจาก : huffingtonpost.com
ช่างน่าเศร้าที่เราพบว่าความจริงแล้ว เพื่อนของเราไม่ใช่คนแรกที่ไม่ชอบคริสเตียน แต่ยังมีคนอีกมากมายที่รู้สึกแบบนั้น ทั้งไม่ชอบคริสเตียนด้วยเหตุผลส่วนตัวหรือทั้งเจอคริสเตียนที่ไม่น่ารักจริง ๆ ซึ่งก็ต้องยอมรับด้วยความรู้สึกเสียใจว่า คริสเตียนบางคนก็มีบางมุมที่ไม่น่ารักจริงๆ นั่นแหละ (บางคนนั้นก็รวมถึงตัวของเราเองด้วย)
ยิ่งนานวันเข้าเธอก็ยิ่งห่างจากโบสถ์มากขึ้นเรื่อยๆ และไม่คิดจะกลับมาอีก เพราะเมื่อกลับมาแล้วเธอมักจะบอกว่า คนที่โบสถ์มองเธอด้วยสายตาแปลก ๆ ไม่เหมือนเดิม เหมือนกับว่ากำลังจับผิด แล้วชอบมีคำถามว่า…
“หายไปไหนมาตั้งนานไม่เจอกันเลย???”
อาจจะถามโดยไม่ได้ตั้งใจหรือไม่ได้มีเจตนาอย่างที่เธอคิด แต่ดูเหมือนว่าเธอรู้สึกไม่ได้รับการต้อนรับและคริสเตียนไม่ได้เป็นแบบที่เธอคาดหวังไว้ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอเริ่มหันหลังให้กับคริสเตียนและโบสถ์จริง ๆ สิ่งที่น่าแปลกคือเมื่อเราถามเธอว่ายังรักพระเจ้า ยังเชื่อพระเจ้าอยู่มั้ย? เธอก็ตอบว่ายังรักและเชื่อพระเจ้าอยู่ แต่ไม่อยากไปโบสถ์เพราะไม่ชอบคนที่โบสถ์ ประสบการณ์ตรงที่เราเจอกับตัวเองครั้งนี้สอนบางอย่างกับเราว่า…
คริสเตียนที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกของพระเจ้านั้นเป็นเหมือนหน้าต่างที่คนอื่น ๆ มองเห็นพระเจ้าผ่านทางเรา ทุกอย่างที่เรา พูด ทำ ส่งผลให้คนเข้าใกล้หรือไกลจากพระเจ้า
ภาพจาก : mymorningmeditations.com
ขอบคุณพระเจ้าเมื่อเวลาผ่านไป เราและเพื่อนเป็นคริสเตียนอีกคนหนึ่งที่เติบโตในความเชื่อมาด้วย กัน ได้มีโอกาสได้เจอและพุดคุยกับเธออีกครั้ง เธอก็เล่าว่าได้งานใหม่ ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี
แต่…
เพื่อนร่วมงานของเธอมีแต่คริสเตียน! คริสเตียน! มีคริสเตียนเต็มไปหมดเลย (เราคิดในใจว่า อีกแล้ว??? แต่คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ)
เราได้โอกาสเปิดใจและคุยกับเธอว่าที่ผ่านมาเรารู้สึกและคิดยังไงคราวนี้เราบอกเขาตรงๆว่า
ใช่! ที่เธอพูดนั้นถูกแล้ว เรายอมรับว่าคริสเตียนก็มีส่วนที่ไม่น่ารักอยู่จริง ๆ คนเราต่างมีข้อบกพร่อง และไม่สมบูรณ์ แถมทั้งโบสถ์ก็เต็มไปด้วยคนที่ไม่สมบูรณ์ด้วยกันทั้งนั้น ในตอนที่คุยกันอยู่นั้นมีความคิดหนึ่งเกิดขึ้นมา เราเลยบอกเธอไปว่า
“รู้มั้ยว่า ทำไมเรายังมาโบสถ์ ทำไมเรายังรักพระเจ้า ทั้งที่คริสเตียนเป็นแบบนี้ เพราะพระเยซูคริสต์เป็นคนนั้นที่ยอมรับว่าพระองค์เป็นพวกเดียวกับเรา ถูกเหมารวมว่าเป็นคนบาป พระองค์ไม่อายที่มีเรา พระองค์ยังรักเราทุกคนทั้งๆ ที่รู้ว่าเราแต่ละคนเป็นแบบนี้ และเราคงไม่กล้าเรียกตัวเองว่าเป็นคริสเตียน ถ้าพระเยซูไม่รักเราขนาดนี้”
“อืม! ก็จริง มันคงไม่มีคนที่สมบูรณ์แบบหรอกนะ ถึงจะเป็นคริสเตียนก็เถอะ”
ขอบคุณพระเจ้าที่เธอรับฟังด้วยความเข้าใจ ดูเหมือนว่าเธอจะเห็นด้วยและยอมรับ
“ใช่ หยุดคาดหวังเนอะ ! นี่พูดจริงๆ นะ ” เพื่อนอีกคนเสริม
ภาพจาก : calvarylutheran.squarespace.com
ขอบคุณพระเจ้า สำหรับเวลาที่เราได้เปิดใจคุยกัน เราเชื่อว่าพระเจ้ามีเวลาและโอกาสสำหรับคน ๆ หนึ่งที่ต้องการคำตอบเสมอ ขอบคุณพระเจ้าที่พวกเรายังมีโอกาสได้พูดคุยกันอยู่ ขอบคุณพระเจ้าที่มันยังไม่สายเกินไป บาดแผลที่เกิดขึ้นอาจต้องใช้เวลาพอสมควรในการเยียวยา เราทุกคนล้วนมีด้านที่ยังไม่น่ารักอยู่ แต่พระเยซูก็ยังทรงรักเรา และยอมรับในส่วนนั้นได้ ขอเพียงแต่เราวางใจ และอนุญาตให้พระองค์เข้ามาเปลี่ยนแปลงนิสัยแย่ๆ เหล่านั้นทีละเล็กทีละน้อย และเราทุกคนเองก็ต้องช่วยเหลือหนุนใจกันอยู่เสมอด้วย
เหมือนในหนังสือ 1 เธสะโลนิกา 5:11 ที่บอกไว้ว่า
“เพราะฉะนั้นจงหนุนใจกันและต่างคนต่างจงเสริมสร้างกันขึ้น
ตามอย่างที่พวกท่านกำลังทำอยู่นั้น”
สุดท้ายนี้ การสำแดงความรักของพระเจ้าต่อกันและกันเป็นเรื่องสำคัญ การแสดงออกที่เห็นชัดเจนที่สุดอย่างหนึ่งคือการให้อภัยซึ่งกันและกัน เหมือนที่พระเยซูคริสต์สำแดงความรักโดยการไถ่เราเพื่อให้เราได้รับการอภัย
โคโลสี 3 : 12-13 บอกว่า “เพราะฉะนั้นในฐานะเป็นพวกที่พระเจ้าทรงเลือก พวกที่บริสุทธิ์ และพวกที่ทรงรัก จงสวมใจเมตตา ใจกรุณา ใจถ่อม ใจสุภาพอ่อนโยน ใจอดทน จงอดทนต่อกันและกัน และถ้าใครมีเรื่องราวต่อกัน ก็จงให้อภัยกัน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้อภัยพวกท่านอย่างไร ท่านก็จงทำอย่างนั้นด้วย” หลาย ๆ ครั้งเราเองก็ไม่รู้หรอกว่าเราได้ทำอะไรให้พี่น้องไม่สบายใจบ้างรึเปล่า แต่ถ้ามันเกิดขึ้นอย่าอายที่จะขอโทษกันและใหอภัยแก่กันและกัน ยิ่งกว่านั้น ให้เราทำทุกอย่างแก่กันด้วยความรัก
“แล้วจงสวมความรักทับสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด
เพราะความรักย่อมผูกพันทุกสิ่งไว้
ให้ถึงซึ่งความ
ด้วยรักและหวังใจ
Related Posts
- Author:
- สาวสายติสท์จบวิจิตรศิลป์มา แต่ไม่ได้เป็นศิลปินเต็มตัวเพราะมุ่งมั่นอยู่กับการรับใช้ ทุกวันนี้ก็ยังจับพู่กันอยู่และกำลังหันมาจับปากกาเขียนบทความหนุนใจน้องๆ วัยทีนด้วย "หวาน เย็น ละมุนละไม" ก็คือ 'บิงซู' นี่แหละ!!! >_<
- Illustrator:
- Jostar
- พี่ชายผู้อบอุ่นละมุนละไม เวลาใส่หมวกกันน๊อคแล้วนั่ลล๊าคดั่ง Pororo อดีตมาสเซอร์วิชาสอนศิลปะ ปัจจุบันถวายตัวรับใช้ที่โบสถ์สไตล์ลอฟๆ ชอบขีดๆ เขียนๆ วาดๆ
- Editor:
- Perapat T.
- Blogger ผู้มากความสามารถในงานเขียน เป็นคริสเตียนที่เรียนสังคมวิทยา ฯ มาอย่างโชกโชน สเตตัสปัจจุบันเป็นนักเขียนอิสระ และ รับใช้พระเจ้าไปด้วย :)
