คนต้นเรื่อง : วิจิตราhttps://choojaiproject.org/category/articles/life-series/yogurtland-and-vijitra/
อ่านโยเกิร์ตแลนด์แอนด์วิจิตราทุกตอนได้ที่ :เ ค ย มี อ า ก า ร “ ลื ม ” มั้ ย ค ะ ?
ลืมกุญแจบ้าน ลืมปิดแก๊ส ลืมปิดไฟ ลืมว่า เอ๊ะ เดินเข้ามาในห้องจะเข้ามาเอาอะไร ลืมยาสีฟันไว้ในตู้เย็น ลืมวันส่งงาน ลืมนั่น ลืมนี่ (แต่ลืมเธอนี่ไม่ง่ายเลยนะ 555+ ไม่เกี่ยวไง) เราแน่ใจว่าการลืมแต่ละครั้งสร้างความหงุดหงิดใจและการลืมของเราในบางครั้งก็นำไปสู่ความเสียหายได้เยอะเหมือนกันเนอะ
หลังจากวิจิตราผ่านช่วงเวลาคิดถึงบ้านไปแล้วก็เริ่มปรับตัวได้และมีเพื่อนมากมายมหาศาล เรากลายเป็นเหมือนกับประชากรเมืองรุซเซ่ไปแล้ว อากาศหนาวมากกกกก ก็ใส่ไปซัก 5 ชั้นสบายๆ คนจ้องหน้าก็ยิ้มตอบกลับไปเลยละกัน ภาษาบัลแกเรียนก็พอถูไถ อ่านเมนูอาหารได้แล้วก็บอกความต้องการของตัวเองได้ อาหารไม่ถูกปากผงโลโบก็ช่วยชีวิตได้ตลอดเลย (ลุงๆ หนูขอค่าโฆษณาด้วย) เอาเป็นว่าชีวิตคือปกติสุขดีมากๆๆๆ ผ่านช่วงเวลาลำบากไปแล้ววว เย้! เราได้เงินเดือนจากทุนที่ได้เยอะพอให้ใช้จ่ายได้สบายถ้าเทียบกับค่าครองชีพในเมืองรุซเซ่ ที่มีอาหารมื้อละไม่เกิน 100 บาทและหอพักเดือนประมาณละ 1,300 บาท เอาเป็นว่าวิจิตราดำเนินชีวิตแบบร่ำรวยมาก 555+ มีพอเหลือใช้โดยไม่ต้องกังวลถึงวันถัดๆ ไป ที่สำคัญสุดๆ ปิดเทอมช่วงคริสต์มาสก็จิเป็นวันหยุดที่เราจะได้ทำตามหนึ่งในความฝันของเรา คือการได้ไปเที่ยวยุโรป! ประเทศในฝันของเราตั้ง 6 ประเทศแหนะ กุกุ น่าอิจฉาชิป่ะ ชีวิตดี๊ดีย์
แต่เรื่องราวพังๆ ที่เกิดขึ้นจากความเป็นมนุษย์ขี้ลืม แม้กระทั่งสิ่งดีๆ ทั้งหมดที่เล่าให้ฟังเมื่อกี้ เราก็ลืมไปว่าพระเจ้าคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้น และเป็นผู้ที่ทรงสมควรได้รับการขอบพระคุณมากที่สุด เมื่อก่อนเราเคยสงสัยว่ามันจะเป็นไปได้เหรอที่คนซึ่งได้รับการอวยพรอย่างมากมาย มีสุขภาพที่ดี หนทางราบรื่นสุดๆ จะลืมพระเจ้าได้จริงๆ เหมือนในเฉลยธรรมบัญญัติ 8 : 11,14,17 พูดเพื่อเตือนคนอิสราเอลในเวลานั้น
“ท่านจงระวังให้ดี อย่าลืมพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านด้วยการไม่ปฏิบัติตามพระบัญชา บทบัญญัติ และกฎหมายของพระองค์ซึ่งข้าพเจ้าแจ้งท่านในวันนี้ มิฉะนั้นเมื่อท่านได้รับประทานจนอิ่มหนำ เมื่อท่านตั้งถิ่นฐานสร้างบ้านน่าอยู่…จิตใจของท่านก็จะหยิ่งผยองและลืมพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านผู้ทรงนำท่านออกมาจากอียิปต์ จากดินแดนแห่งความเป็นทาส…. ท่านอาจจะบอกตัวเองว่า ‘เรามั่งมีขึ้นมาด้วยกำลังและอำนาจของเราเอง’ ”
หลายครั้งที่วิจิตราอ่านพระคัมภีร์เดิมแล้วรู้สึกไม่เข้าใจ คือ… เอือมกับการกระทำของอิสราเอลที่ลืมบ่อย ลืมซ้ำลืมซ้อนมากว่าพระเจ้าทำอะไรบ้างเพื่อชีวิตและชนชาติของเค้า ละกลายเป็นว่า เอ๊อะ! หันหลังให้กับพระเจ้าเฉย แต่เอาเข้าจริงเรากลายเป็น ค น นั้ น เหมือนกันที่ลืมว่าพระเจ้าทำสิ่งดีอะไรบ้างในชีวิตของเรา มันไม่ได้หมายความว่า เราหายไปจากทางของพระเจ้าหรือใช้ชีวิตแบบโป๊ดโท๊ะ! เลวร้ายมากกกก แต่ ณ เวลานั้นกลับเป็นเราเองที่ลืมขอบคุณพระเจ้า ลืมที่จะให้พระองค์เป็นอันดับแรกในชีวิตของเรา ลืม ให้เกียรติพระเจ้าในขณะที่พระเจ้าให้เกียรติเราเต็มที่ เราใช้เวลากับพระเจ้าวันละไม่เกิน 15 นาทีตอนเช้าเร็วๆ แล้วจบ หรือขาดการใช้เวลาส่วนตัวกับพระเจ้าบ้าง ขอเที่ยวก่อน สนุกก่อน ไม่ได้มีความรู้สึกว่าต้องพึ่งพาพระเจ้าระหว่างวันหรือช่วงเวลานั้นเลย ก็เพราะว่าชีวิตมันแฮปปี้อ่ะยูวววววว >.<! เรื่องความฝัน เรื่องการช้อป เรื่องเที่ยว กลายเป็นเรื่องใหญ่และเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญแทนที่พระเจ้า จนผ่านไปซักช่วงนึง เราก็รู้ตัวว่า… วิจิตรา ยูวเริ่มไม่โอเคแล้วล่ะ
ระหว่างการทัวร์ยุโรปของเรา เป็นปีแรกในชีวิตของวิจิตราที่ไม่ได้ฉลองคริสตมาสเลย ในใจเราตอนนั้นว่างเปล่ามาก เรามีความสุขกับการเดินทางท่องเที่ยวนะ แต่มันเป็นความสุขที่ไม่สุด มันไม่ชื่นชมยินดี มันอธิบายไม่ถูก มันรู้สึกได้ว่าหัวใจของเรามีช่องว่างที่ต้องได้รับการเติมให้เต็ม และคำตอบซึ่งเรารู้มาตลอดว่า พระเยซูคริสต์เท่านั้นที่สามารถเติมใจของเราให้เต็มได้ วันสุดท้ายของการเดินทางก่อนที่จะกลับบัลแกเรีย เรารู้สึกมากว่าเรื่องนี้รบกวนใจเรามาก เราเสียใจและใช้เวลาคืนนั้นสำนึกผิดและขอโทษพระเจ้าสำหรับความโง่เขลาและความไม่น่ารักของเรา ขอการเริ่มต้นใหม่ที่มาจากพระเจ้า หลายคนน่าจะเคยมีประสบการณ์แบบเดียวกัน เมื่อเราได้เข้าใจและได้เข้าใกล้ความรักและการอภัยของพระเจ้า มันเป็นความสุขที่แตกต่างมากๆ จากสุขที่โลกนี้ให้จริงๆ นะ
จาก ‘ความหลงลืม’ ของเราในครั้งนี้ เราได้รับบทเรียนจริงจังจากพระเจ้าเลยว่า ไม่มีอะไรที่จะทำให้เราอิ่มเอมใจได้เท่ากับการมีพระเจ้าอีกแล้ว…
เราอาจจะรวยมาก
เราอาจจะเรียนเก่งมาก
เราอาจจะเป็นที่หนึ่งในทุกเรื่อง
เราอาจจะทำตามความฝันเราได้ทุกอย่าง
เราอาจจะประสบความสำเร็จสุดๆ
เราอาจจะเป็นคนที่ถูกยกย่องมีคนนับถือเต็มไปหมด
แต่ถ้าเราไม่มีพระเจ้า ชีวิตเรามันโคตรไม่มีอะไรเลยยยยยยย
ยิ่งกว่านั้นอีกข้าพเจ้าเห็นว่าทุกสิ่งไร้ค่าเมื่อเทียบกับความยิ่งใหญ่ล้ำเลิศในการที่ได้รู้จักพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า เพื่อพระองค์ข้าพเจ้าได้สละทุกสิ่ง ข้าพเจ้าถือว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นเศษขยะเพื่อข้าพเจ้าจะได้พระคริสต์ – ฟิลิปปี 3 :8
“It’s not luck that got me this far, it’s God!” พระเจ้าทั้งนั้นแหละ!!!
ลืมอะไรก็ลืมได้ อย่าลืมพระเยซูคริสต์นะจ๊ะ (ป้าเตือนตัวเองด้วย)
ด้วยรักและโยเกิร์ต
Related Posts
- Author:
- วิจิตรา - สาวน้อยหัวใจผจญภัย กับความฝันอยากไปเมืองนอกที่ยังไม่หมดอายุของเธอ ถึงตอนนี้จะกลับมาจากบัลแกเรียแล้ว แต่ก็ยังคงเก็บตังค์เพื่อพาตัวเองออกนอกประเทศอีกครั้ง ตอนนี้เลยมาช่วยงานแปลพี่ชูใจไปก่อนเงินจะเต็มกระปุกให้ออกเดินทางงงงง
- Illustrator:
- Narit
- เนื้อแท้เป็นคนรักหนัง เบื้องหลังดีไซน์เก๋ๆ สวยๆ ของเว็บชูใจ คือฝีมือของเค้า นักออกแบบตัวยงผู้รักบอร์ดเกมเป็นชีวิตจิตใจ และอยากเห็นงานสร้างสรรค์คริสเตียนไทยพัฒนาก้าวไกลไม่แพ้ชาติไหนในโลก
- Editor:
- Jick
- บก.ชูใจ ผู้ใฝ่ฝันจะชูใจน้องๆ จากความพลาดของตัวเอง