คนต้นเรื่อง : วิจิตราhttps://choojaiproject.org/category/articles/life-series/yogurtland-and-vijitra/
อ่านโยเกิร์ตแลนด์แอนด์วิจิตราทุกตอนได้ที่ :
กลับมาพบกับวิจิตราแอนด์โยเกิรต์แลนด์ในซีซัน 3 ซีซันสุดท้ายแล้ว
เศร้ามั้ยคะ ฮือออ เขียนจนแก่ เรื่องราวก็ยังไม่จบ มีประมาณแปดพันอย่างที่อยากเล่าให้ฟัง เราหวังว่าบางส่วนของเรื่องราวในชีวิตเราที่นำมาเล่าให้กับทุกคนฟังจะมีพระพรที่ซ่อนอยู่ที่จะให้เราได้นำกลับไปใช้และแบ่งปันต่อกันไปนะคะ
———————————
เริ่มต้นด้วยคำถามดีกว่าโน๊ะ เป็นคุณครูต้องถามคำถาม ยูวเคยทำข้อสอบ “จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว” มั้ย แล้วในข้อสอบก็จะมีตัวเลือกเป็น ก. ข. ค. ง มาให้งี้ แน่ใจว่าบรรดาเราๆ น่าจะเคยผ่านการทำข้อสอบแบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วนเลยป่ะ หลายคนชอบข้อสอบแบบนี้นะเพราะว่ามันมั่วได้ง่ายๆ แต่ก็มีหลายครั้งเหมือนกันที่ครูก็ออกข้อสอบแบบ โอ้โห ดาวอังคารมากกกกก ลวงจนไม่รู้ว่าคำตอบข้อไหนมันถูกกันแน่ และมันก็มีหลายต่อหลายครั้งจริงๆ ที่ชีวิตของเรามันจำเป็นต้องเลือก และบางทีตัวเลือกที่มีมันก็ดูเหมือนจะถูกทุกข้อ ทำให้เราไม่แน่ใจว่าเราจะเลือกอะไรดี วันนี้เรามีเรื่องราวที่น่าสนใจของชาวบัลแกเรียที่จำเป็นต้องเลือกมาเล่าให้ฟัง
.
มีครั้งหนึ่งเราไปเที่ยวกรุงโซเฟีย เมืองหลวงของประเทศบัลแกเรีย มีโอกาสเดินไปกับกรุ๊ปทัวร์ฟรีของเมือง (ระดับนี้ของฟรีเท่านั้น) ไกด์พาพวกเราเดินไปตามสถานที่สำคัญ จนมาถึงโบสถ์แห่งหนึ่งที่ชื่อว่า The Church of St.George เป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดในบัลแกเรีย สร้างขึ้นโดยโรมันในศตวรรษที่ 4 จากนั้นถูกเปลี่ยนมาเป็นมัสยิดในช่วงที่อาณาจักรออตโตมันยึดครองบัลแกเรีย ในศตวรรษ 20 ที่แห่งนี้ถูกบูรณะให้เป็นโบสถ์อีกครั้งหนึ่ง ความน่าสนใจอยู่ที่ตึกมหึมาที่อยู่ล้อมรอบตัวโบสถ์ ในขณะที่โบสถ์หลังเล็กนิดเดียว พอไกด์พาเรามาหยุดอยู่หน้าโบสถ์ St. George
ไกด์ถามคำถามลูกทัวร์ว่า “สังเกตมั้ยคะว่าทำไมโบสถ์เก่าแก่แห่งนี้ถึงถูกตึกสูงใหญ่ล้อมรอบไปหมด ใครตอบถูกมีลูกอมมาแจกด้วย” ลูกทัวร์ฝรั่งนี่แย่งกันตอบ ในขณะที่เราก็ยืนฟังเงียบๆ เพื่อแสดงออกถึงความเป็นไทย (ที่จริงกำลังเขินฝรั่งหล่อในกรุ๊ปทัวร์ที่มาด้วยกันอยู่!) อ่ะๆ ไหนยูววลองคิดดูเล่นๆ สิคะว่าเพราะอะไร?
นี่ไงโบสถ์ St. George
คำตอบที่ได้ก็ตรงตามที่เราคิดไว้ด้วย (มัวแต่เขิน เสียดายลูกอมเม็ดนั้นที่ควรเป็นของเรา ==”) ไกด์บอกกับเราว่า ในช่วงที่บัลแกเรียถูกปกครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งหลายคนก็คงรู้ว่าคอมมิวนิสต์อยู่คนละฝั่งกับศาสนา ไม่เชื่อเรื่องของพระเจ้า เลยสร้างตึกขนาดบิ๊กไซส์ล้อมเลยซะงั้น เพื่อที่คนผ่านไปผ่านมาจะได้มองไม่เห็นโบสถ์ (คิดในใจว่าทุบทิ้งไปเลย น่าจะง่ายกว่าป่ะ) แล้วถ้าใครได้เข้ามาในบริเวณนั้นจะรู้สึกได้ถึงความใหญ่โตของตึกสูงรอบๆ ให้ความรู้สึกว่า พรรคคอมมิวนิสต์มีอำนาจมากๆ ในขณะที่พวกเราเนี่ยตัวเล็กนิดเดียว
อีกเรื่องที่น่าสนใจมากคือ ในช่วงเวลานั้น รายการโทรทัศน์จะเป็นรายการที่มาจากรัฐบาลเท่านั้น รายการที่มาจากอเมริกาหรือประเทศอื่นๆ ถือเป็นของต้องห้ามในสมัยนั้นเลยทีเดียว ที่พีคและไอเดียแจ่มมากของพรรคคอมมิวนิสต์คือ จะอนุญาตให้รายการที่มาจากนอกประเทศออนแอร์ในวันอาทิตย์ช่วงเช้าเท่านั้น!!! นั่นไง เพื่อให้คนเวลานั้นเลือกว่า จิไปโบสถ์เช้าวันอาทิตย์ดี หรือว่าจะอยู่ที่บ้านนั่งดูรายการทีวีที่มัน Rare ที่มันไม่ค่อยจะมีโอกาสได้ดูบ่อยๆ ดีกว่า?! โอ้โห เนียนมากค่ะคุณ อารมณ์คงไม่ต่างกับสมัยเด็กที่ต้องไปโบสถ์แล้วไม่ได้ดูช่อง 9 การ์ตูนตอนเช้าวันอาทิตย์อ่ะ
อนุสรณ์กองทัพโซเวียตในกรุงโซเฟีย ซึ่งในปี 2011 มีศิลปินสุดเฟี้ยวมาเพ้นท์สีทับ
จนกลายร่างเป็นเหล่า Super Hero ไปเลย เครดิตภาพ จาก ArtDaily
เราว่าไอเดียของพรรคคอมมิวนิสต์คงทำให้คริสเตียนในตอนนั้นต้องเลือกกันพอสมควรเลยเนอะ ซึ่งประเด็นก็คงไม่ใช่แค่เรื่อง ไปโบสถ์หรือว่าไม่ไป
.
แต่มันเป็นการตัดสินใจเลือกว่าจะให้ความสำคัญกับพระเจ้าก่อน
หรือความต้องการของตัวเองก่อนกันแน่
.
เราก็กลับมามองว่า เออ จริงๆ แล้วชีวิตในแต่ละวันของเราก็ต้องเลือกเหมือนกันนะว่ามั้ย เลือกพระเจ้าหรือว่าตามใจตัวเองก่อนดี เลือกว่าจะให้พระเจ้ามาก่อนหรือมาหลัง ยกตัวอย่างจากชีวิตประจำวันของเราดูนะ…
เราเลือกตื่นนอนตอนเช้าเราเลือกหยิบมือถือก่อนหรือว่าพระคัมภีร์ก่อน? (แฮร่ อันนี้เราก็ต่อสู้ทุกวัน T^T)
เราเลือกจัดเวลาให้กับพระเจ้าในแต่ละวันหรือเลือกใช้เวลาที่เหลือให้กับพระเจ้า?
เราเลือกการเรียนพิเศษวันอาทิตย์หรือเลือกไปโบสถ์?
เราเลือกซีรีส์เกาหลีมากกว่าการออกไปประกาศกับที่โบสถ์ป่ะ?
เราเลือกที่จะอยู่บ้านดูบอลนัดสำคัญมากกว่าการไปรับใช้พระเจ้ารึป่าว?
(นี่คือเรื่องของเราทั้งนั้นเลยนะเนี่ย 555+) เห็นมั้ยว่ามีตัวเลือกให้ตามใจตัวเองเยอะแยะไปหมด จริงๆ แล้วตัวเลือกพวกนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผิดนะ แต่เมื่อใดก็ตามที่ความสำคัญของสิ่งเหล่านี้อยู่นำหน้าพระเจ้า ก็มั่นใจไว้เลยว่าเรากำลังเรียงลำดับความสำคัญพลาดไปละ
.
เรายืนยันได้ว่าการเลือกให้เวลากับพระเจ้าก่อนไม่ใช่การเสียเวลาไปเปล่าๆ บางทีเราก็ต้องต่อสู้และขัดใจตัวเอง แต่ว่าผลลัพธ์ของการเลือกมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเหมือนที่ใน ยอห์น 14:27 บอกกับเราว่า
“เรามอบสันติสุขไว้กับพวกท่าน สันติสุขของเราที่ให้กับท่านนั้น เราไม่ได้ให้อย่างที่โลกให้ อย่าให้ใจของท่านเป็นทุกข์ อย่ากลัวเลย”
เราคิดว่าหลายคนคงเคยมีประสบการณ์ที่ต้องเลือกและ เราต่างก็รู้ดีว่า เมื่อเราให้พระเจ้าก่อนมันมีสันติสุขแบบบอกไม่ถูกจริมๆ เลยเนอะว่ามั้ยย น้ำตาไหลลลลลลล T^T
บางที บางตัวเลือกมันดูเป็นตัวเลือกที่ดีต่อใจ (ใจตัวเองป่ะ) แต่อะไรล่ะที่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ที่จะส่งผลดีต่อชีวิตของเราในระยะยาว
“แต่ท่านทั้งหลายจงแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า และความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงเหล่านี้ให้” (มัทธิว 6:33)
การเลือกของเราในปัจจุบันจะส่งผลกับอนาคตของเราแน่นอน เพราะฉะนั้นเลือกให้ดีนาจา
…
ใครสักคนพูดไว้
“Put God first,
you won’t be last.”
เลือกพระเจ้าก่อน
ละยูวจะไม่มีทางเป็นที่โหล่
…
ด้วยรักและโยเกิร์ต
Related Posts
- Author:
- วิจิตรา - สาวน้อยหัวใจผจญภัย กับความฝันอยากไปเมืองนอกที่ยังไม่หมดอายุของเธอ ถึงตอนนี้จะกลับมาจากบัลแกเรียแล้ว แต่ก็ยังคงเก็บตังค์เพื่อพาตัวเองออกนอกประเทศอีกครั้ง ตอนนี้เลยมาช่วยงานแปลพี่ชูใจไปก่อนเงินจะเต็มกระปุกให้ออกเดินทางงงงง
- Illustrator:
- Narit
- เนื้อแท้เป็นคนรักหนัง เบื้องหลังดีไซน์เก๋ๆ สวยๆ ของเว็บชูใจ คือฝีมือของเค้า นักออกแบบตัวยงผู้รักบอร์ดเกมเป็นชีวิตจิตใจ และอยากเห็นงานสร้างสรรค์คริสเตียนไทยพัฒนาก้าวไกลไม่แพ้ชาติไหนในโลก
- Editor:
- Jick
- บก.ชูใจ ผู้ใฝ่ฝันจะชูใจน้องๆ จากความพลาดของตัวเอง