คนต้นเรื่อง : วิจิตราhttps://choojaiproject.org/category/articles/life-series/yogurtland-and-vijitra/
อ่านโยเกิร์ตแลนด์แอนด์วิจิตราทุกตอนได้ที่ :นักเรียนแลกเปลี่ยนมาพร้อมกับคำว่า “อิสระ” เราว่าอันนี้เป็นเรื่องจริงมากๆ การใช้ชีวิตในที่ๆ ไม่มีใครเห็น ไม่มีใครรู้จัก ไม่มีป้าข้างบ้านเอาไปเล่าต่อ ไม่มีใครมาเตือนว่า “ยูว ทำอย่างนี้มันไม่ดีนะ” มันทำให้บางคนใช้ชีวิตพลาดไปกับคำว่า “อิสระ” เฮ้ยย… ก็ไม่มีใครเห็นอยู่ละนี่นา ก็ไม่น่าจะเป็นไรนะ
นักเรียนต่างชาติและนักเรียนแลกเปลี่ยนที่เมืองรูเซ่ (หรืออาจจะเป็นวิถีของนักเรียนทุกที่เลยก็ว่าได้) มีประโยคฮิตติดปากว่า “Study hard, party harder.” ตอนเราอยู่ที่ไทยเราว่าเพื่อนๆ ก็ปาร์ตี้กันพอสมควรแล้วนะ แต่ว่ายูวว มาที่นี่คือกิน ดื่ม เที่ยวกลางคืน ปาร์ตี้กันแบบสุดๆ ไปเลย บางอาทิตย์เมาไปซักครึ่งอาทิตย์งี้ก็มี แต่แย่กว่านั้นมันไม่ใช่แค่เรื่องของเหล้า เบียร์ บุหรี่ ที่มันเป็นเรื่องธรรมดามากของที่นี่แต่มันรวมถึง กัญชา ฮุกก้า (มันคือยาเส้น หรือยาสูบ ชีวิตนี้ก็พึ่งมารู้จักที่นี่เนี่ยแหละ) รวมถึงเรื่อง Sex ด้วย เรื่องน่าตกใจสำหรับวิจิตราที่เคยอยู่ในโลกสวยงามใสใสตลอดเวลาคือ ทุกสิ่งที่พูดมาสามารถทำได้อย่างเปิดเผยสบายๆ ถึงบางอย่างจะผิดกฏหมายบ้างแต่ว่าก็ไม่มีใครมาจับกันจริงๆ จังๆ เพราะว่า “ใครๆ เค้าก็ทำกัน” ก็เลยกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปซะงั้น
ครั้งนึงเราเคยไป Welcome party ที่มีหัวข้อของงาน คือ ฮัลโลวีน จริงๆ แล้วก็รู้ว่า เออ… มันน่าจะไม่ใช่ที่ของเราแต่ก็อยากลอง อยากเจอเพื่อน อยากรู้จักเขา อยากลองทำสิ่งที่เค้าเห็นว่ามันสนุกดูซิ ว๊ายย สุดท้ายก็ตัดสินใจไปจนได้ ขณะที่อยู่ในงานมีเพลงหนึ่งดังขึ้น และเป็นเพลงที่คนร้องดังมากที่สุด เพลงนี้ชื่อว่า “It’s my life” คิดว่าหลายคนน่าจะรู้จัก…
It’s my life. It’s now or never. I ain’t gonna live forever. I just wanna live while I’m alive.
My heart is like an open highway. Like Frankie said, “I did it my way”
I just wanna live while I’m alive. ‘Cause it’s my life
เนื้อเพลงก็ประมาณว่า “เพราะมันคือชีวิตฉัน ฉันจะใช้ชีวิตยังไงก็ได้ ถ้าไม่ใช้ชีวิตอย่างที่อยากใช้ตอนนี้จะไปใช้ตอนไหนเล่า” มันเป็นเพลงที่สะท้อนความคิดของคนปัจจุบันมากๆ โดยเฉพาะวัยรุ่นอย่างเราที่พึ่งโตออกมาจาก ‘กรอบ‘ สู่ความ ‘อิสระ’
ณ เวลานั้น นอกจากรู้สึกพลาดอย่างที่คิดไว้ตอนแรก รู้สึกว่าตัวเองมาอยู่ผิดที่ แล้วสิ่งที่คิดต่อมาก็คือ คนเหล่านี้ใช้ชีวิตที่ดูเหมือนจะคุ้มค่า แต่สำหรับเราแล้ว เราว่าจะมีอะไรคุ้มค่ามากไปกว่าการได้รู้จักพระเยซูเป็นการส่วนตัวอีกเนอะ ชีวิตที่ตักตวงความสุขแบบแป๊ปๆ สนุกก็จริงแต่เดี๋ยวเดียวก็หมด จะเทียบได้ยังไงกับ “ค ว า ม สุ ข นิ รั น ด ร์” ที่หาได้ในพระเยซูผู้เดียวเท่านั้น แถมการันตีถึงชีวิตหลังความตายด้วยนะยูววว!
คิดไปคิดมาอยู่ดีๆ ก็ถามตัวเองว่า “เอ๊ะ ละถ้าตัวเราเป็นคริสเตียนคนเดียวที่เพื่อนๆ เรารู้จักล่ะ จะเป็นไง?”
มันก็ยากเนอะที่คนที่ไม่เป็นคริสเตียนจะได้รู้จักพระเจ้า โดยที่เขาไม่เคยรู้เรื่องพระเจ้า หรือรู้จักคนที่มีพระเจ้าว่ามันแตกต่างกับคนอื่นยังไงมาก่อน
พอคิดอย่างนั้นนั้นวิจิตราก็เลยตัดสินใจว่าจะดำเนินชีวิตดีๆให้เพื่อนเห็นพระเจ้าในชีวิตของเราไม่ดื่มไม่สูบ (จริงๆ ก็ไม่ทำอยู่แล้ว) และก็ยืนยันกับเพื่อนว่า เราตั้งใจจะรักษาความบริสุทธิ์ของเราจนถึงวันแต่งงาน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แปลกมากสำหรับเพื่อนต่างชาติของเราที่ไม่เป็นคริสเตียน (พวกนางตกใจจริงจังเลยที่รู้ว่าคนสวยอย่างเรายังรักษาความบริสุทธิ์อยู่ 555+) แล้วเราก็บอกกับเพื่อนว่า เราเป็นคริสเตียนนะจ๊ะ แต่เรื่องที่เรารู้สึกผิดมาจนถึงตอนนี้ก็คือ เราไม่กล้าพอที่จะพูดเรื่องของพระเยซูคริสต์ให้เค้าฟัง T_T
วันสุดท้ายที่ต้องลาเพื่อน 2 คนที่มาจากสโลวาเกีย เพื่อนเราบอกกับเราว่า “ตั้งแต่เราเกิดมายังไม่เคยเจอใครที่เป็นแบบคุณเลย จริงๆนะ“ (คำชมใช่มั้ยย 555+) เสร็จแล้วก็กอดกันน้ำตาซึมเราก็ดีใจที่อย่างน้อยเค้ามองเห็นชีวิตที่มีพระเยซูคริสต์ของเราที่แตกต่างจากคนอื่น
สิ่งที่เราได้เรียนรู้มาตลอด 10 เดือนในบัลแกเรียคือ
เราไม่จำเป็นต้องเดินตามสิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำ
เพื่อที่จะชนะใจเค้าก็ได้
มีชีวิตแบบพระเยซูคริสต์ก็สามารถชนะใจเพื่อนได้
เหมือนกันนะจ๊ะ
มี 2 ข้อให้เลือกระหว่าง จะมีชีวิตที่มีอิทธิพลกับคนอื่น หรือจะให้ค่านิยมผิดๆ มีอิทธิพลกับเรา เลือกเอาค่ะ สุดท้ายจริงๆ “อย่ามีแค่เพื่อนคริสเตียน!!! ใช้เวลากับคนข้างนอกด้วย เค้าเหล่านั้นต้องการคุณนะคะ…”
จบตอนนี้ด้วยข้อพระคัมภีร์นะคะชัดเจนมากจากมัทธิว 5:14-16
“ท่านทั้งหลายเป็นแสงสว่างของโลก เมืองที่ตั้งอยู่บนภูเขาจะซ่อนไว้ไม่ได้ เช่นเดียวกัน เมื่อคนจุดตะเกียงแล้วย่อมไม่เอาฝาครอบ แต่จะตั้งไว้บนเชิงตะเกียงให้ส่องสว่างแก่ทุกคนในบ้าน
ในทำนองเดียวกัน จงให้ความสว่างของท่านกระจ่างแจ้งต่อหน้าคนทั้งหลาย เพื่อเขาจะเห็นการดีของท่าน และสรรเสริญพระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์”
ป่ะ ออกไปเป็นแสงสว่างนะคะ ที่รัก <3
ด้วยรักและโยเกิร์ต
Related Posts
- Author:
- วิจิตรา - สาวน้อยหัวใจผจญภัย กับความฝันอยากไปเมืองนอกที่ยังไม่หมดอายุของเธอ ถึงตอนนี้จะกลับมาจากบัลแกเรียแล้ว แต่ก็ยังคงเก็บตังค์เพื่อพาตัวเองออกนอกประเทศอีกครั้ง ตอนนี้เลยมาช่วยงานแปลพี่ชูใจไปก่อนเงินจะเต็มกระปุกให้ออกเดินทางงงงง
- Illustrator:
- Narit
- เนื้อแท้เป็นคนรักหนัง เบื้องหลังดีไซน์เก๋ๆ สวยๆ ของเว็บชูใจ คือฝีมือของเค้า นักออกแบบตัวยงผู้รักบอร์ดเกมเป็นชีวิตจิตใจ และอยากเห็นงานสร้างสรรค์คริสเตียนไทยพัฒนาก้าวไกลไม่แพ้ชาติไหนในโลก
- Editor:
- วอร์ วรรัก
- Editor สาวเรียบเรียงหลายบทความในชูใจ เธอผู้มีภาษาละมุนละไม กระดุ้มกระดิ้ม และยังมุ่งมั่นรับใช้พระเจ้าและมีภาระใจในการทำงานด้านให้คำปรึกษากับวัยรุ่น เลยต้องดั้นด้นไปอยู่เมืองสิงโตพ่นน้ำเพื่อเรียนต่อด้านนี้!