หนุนใจกันในเรื่องของการเรียนการสอบ Admission กันต่อ ในสัปดาห์ที่แล้วเราได้ลุ้นตัวโก่งกับผลการสอบของหนุ่มๆ ทั้งพีทและบิวที่มีคะแนนน้อยแต่พระเจ้าก็ยังมีพระคุณไปแล้ว วันนี้มาดูว่าในสถานการณ์ที่ยากลำบาก พระเจ้าควบคุมอยู่เหนือข้อจำกัดเหล่านั้นยังไงอีกบ้าง ( ใครยังไม่ได้อ่านตอนที่แล้วได้ >>> อ่านตรงนี้ )
พี่มายด์สายติสต์กับน้องมินสายศิลป์–ภาษา สองพี่น้อง สองเรื่องราว กับความเป๊ะ! ของพระเจ้าในการจัดเตรียมที่สุดจะบรรยาย
เมื่อต่างคนต่างต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยในปีเดียวกัน คนพี่เรียนอยู่อเมริกา ส่วนคนน้องอยู่ที่ไทย แต่ไม่ว่าจะอย่างไร พระเจ้าก็ทรงนำทั้งคู่ให้ได้เห็นความยิ่งใหญ่ในการจัดเตรียมเมื่อทั้งสองพึ่งพาพระองค์
น้องมิน และพี่มายด์
มิน : มินเกิดในครอบครัวคริสเตียนนะคะ ก็รู้จักเรื่องพระเจ้ามาตั้งแต่เด็กๆ เลยตอนนี้ก็ 18 ปีแล้ว ตอนนี้ก็มีส่วนรับใช้น้องๆ กลุ่มอนุชน แล้วก็ช่วยนำกลุ่มเซล ก็มีผลัดกันนำนมัสการบ้าง แบ่งปันพระคัมภีร์ นำมหาสนิท คือเค้าให้อะไรมาทำก็ทำหมดค่ะ ฮ่าาา
มินเรียนที่โรงเรียนนวมินทราชินูทิศเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้าค่ะ เราเรียนศิลป์-ญี่ปุ่น ก็ใช้วิชาภาษาญี่ปุ่นสอบแต่ก็แทบไม่ได้ติวนะคะ รอบแรกติวบ้างค่ะ แต่ตอนสอบรอบแรกได้คะแนนแค่ 90 พอรอบสองไม่ได้ติวเลยค่ะ แต่ได้คะแนน 120 (คืออะไร!?) ไม่ได้อ่านหนังสือด้วยซ้ำไป ขอบคุณพระเจ้า แต่คือไม่ได้บอกว่าไม่ควรเรียนพิเศษ หรือไม่อ่านหนังสือก่อนสอบนะคะ
เราคิดว่าทำได้… แต่ผลออกมาคือ ‘ไม่ได้’ ☹
มิน : เริ่มแรกก่อน เราก็ไปสอบรับตรง 2 ที่ แล้วก็ติด แต่เป็นที่ไกลบ้านมากๆ คือ เชียงราย และอีกที่หนึ่งคือ มศว. แต่เป็นคณะที่เราไม่ได้อยากเข้าแล้ว มินก็เลยสละสิทธิ์ไป
จากนั้นลองสมัครอักษรจุฬาฯ ซึ่งเราก็คิดว่าเราทำได้ คือ คะแนนมันหายไปแค่ 250 คะแนน ตอนนั้นเรามองว่ามีโอกาสติดสูงมาก ผลก็คือ คะแนนปีนี้มันพุ่งกลายเป็น 20,000 ทำให้เราสอบไม่ติด ตอนนั้นก็ร้องไห้เยอะมาก จนต้องโทรทางไกลไปหาพี่มายด์ที่เรียนอยู่ที่อเมริกาเพื่อระบาย…
“พี่มายด์ ทำยังไงดี มันไม่ติดอะ” ตอนนั้นร้องไห้ใหญ่เลย
แต่แม่ก็อยากให้เราเข้ามหิดล (คณะศิลปศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ) เราก็เลยไปสอบดูค่ะ สุดท้ายพระเจ้าก็นำไปให้ติดได้เป็นนักศึกษามหิดลจริงๆ ก็เป็นสิ่งที่เราไม่ได้คาดคิดค่ะ ผิดหวังแล้วก็สมหวังในเวลาต่อมา ขอบคุณพระเจ้า
“ถึงเราจะไม่ได้มั่นใจในความสามารถของตัวเอง
แต่ให้เรามั่นใจในการจัดเตรียมของพระเจ้าที่มีให้กับเราค่ะ”
พระเจ้าจัดเตรียมสิ่งที่ดีไว้ให้เราเสมอ
มายด์ : ส่วนมายด์ก็เป็นคริสเตียนมาโบสถ์ตั้งแต่เด็กๆ เลยค่ะ เมื่อก่อนเคยช่วยเป็นพี่เลี้ยงดูแลเด็กๆ ในชั้นเรียนรวี คอยไล่ตามจับน้องเล็กๆ ชั้นอนุบาล แต่พอมายด์ไปเรียนต่อที่อเมริกา โบสถ์ที่ไปที่นั่นมันก็แตกต่างกับที่ไทยเยอะเนอะ คือ คนเค้าก็จะนิ่งๆ ฟังเทศน์ นมัสการ ต่างคนต่างมาแล้วก็กลับบ้านอะไรเงี้ย ทำให้ตอนที่อยู่อเมริกาชีวิตกับพระเจ้าก็ขึ้นๆ ลงๆ ยอมรับว่าห่างเหินพระเจ้าบ้าง คือไปโบสถ์มันก็แบบ… (หัวเราะหึๆ) ไม่ค่อยมีอะไรอ่ะพี่ เราไม่มีโอกาสได้รับใช้ซักเท่าไหร่แล้วก็ไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรกับเขามาก
ส่วนเรื่องเรียน พอดีเราชอบศิลปะ ตอน ม.4 เลยตัดสินใจซิ่วไปเรียนศิลปะที่สถาบัน Boston Art Academy ในอเมริกาค่ะ ทีแรกเลยก็สมัครสอบมหาวิทยาลัยที่นู่นเผื่อไว้ถ้าเกิดไม่ติด หรือเกิดติดขึ้นมาแต่เงินไม่พอเรียน ก็ต้องกลับมาเรียนที่ไทยค่ะ
ตอนที่เราตัดสินใจว่าจะกลับมาเรียนที่เมืองไทย เวลาเดินเรื่องก็เหลือน้อยมากที่จะสมัครเรียน อีกอย่างคะแนน GAT PAT ก็ไม่มีเลย (เพราะที่อเมริกาเขาไม่มีสอบแบบเรา) จนหม่าม้าไปเจอโปรแกรม INDA (โปรแกรมสถาปัตย์อินเตอร์ จุฬาฯ) ซึ่งใช้แต่คะแนน SAT (ข้อสอบ Admissionของเด็กอเมริกัน) ซึ่งเป็นคะแนนที่มายด์ต้องสอบอยู่แล้วพอดี เป๊ะ!
ความเป๊ะ ที่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
เรื่องคะแนนเหมือนพระเจ้าจัดเตรียมไว้ให้ เพราะ มายด์มีคะแนนแค่ 400/800 (ทำได้ครึ่งเดียว)
พอดีเลยคะแนนต่ำสุดที่เรารับก็คือ วิชาภาษาอังกฤษต้อง 400 คือมันเป๊ะ! มากเลย ขอบคุณพระเจ้า!
แล้วมายด์ก็ส่งคะแนนนั้นไป แล้วทีนี้โอกาสติดมันก็น้อยมาก เพราะปีนี้เขารับแค่ 80 คนเองค่ะ
ไม่แค่นั้นยังต้องส่งพอร์ต (Portfolio) ด้วย ซึ่งมายด์ก็ทำไม่เป็น ก็เลยตัดสินใจโทรไปถามพี่คนหนึ่งที่เคยไปลงเรียนวิชาศิลปะที่โรงเรียนของเขา ทีแรกเราก็ขอคำแนะนำพี่เขาค่ะ แต่พี่เขาตอบกลับมาว่า “ไม่เป็นไรส่งรูปมาเลย เดี๋ยวพี่ทำให้” จริงๆ ตัวพี่เขาก็มีงานมากมาย แต่พี่เขาอาสาช่วยทำให้! ดีใจและขอบคุณพี่เขามาก ไม่กี่วันก่อนถึงกำหนดส่งเราก็ลุ้นมาก แล้วพี่เขาก็ส่งพอร์ตมาให้ เกือบไม่ทัน Deadline ค่ะ
ความเป๊ะ! กว่านั้นก็คือ การจะเข้าสอบ ต้องมีคะแนน CUTAP (ความถนัดทางสถาปัตย์กรรม) แต่ต้องสอบที่ไทยค่ะ แต่ตอนนั้นตัวเราอยู่อเมริกา
ถ้าเอกสารช้ากว่านี้ ก็หมดสิทธิ์สอบแล้ว
มายด์: มันเป๊ะยังไงนะ… (อ่าวนึกไม่ออกซะอย่างนั้น)
มิน: มินขอเล่าค่ะ…กว่าจะส่งไปได้มีนู่นนั่นนี่ โดยเฉพาะเรื่องเอกสาร กว่าจะส่งได้แถมต้องใช้เงินเยอะเพราะมันข้ามประเทศ ไหนจะเอกสารทำ VISA เพื่อกลับไทย แต่พี่ไปรษณีย์ไทยก็ไม่ยอมส่งให้เพราะมันจะเป็น 3 วันก่อนวันหยุดยาว เอกสารมันเลยค้าง แล้วมันแบบต้องรีบใช้ทำ VISA ด้วยไง สรุปเอกสารทุกตัวที่ต้องใช้ก็เรียบร้อย 1-2 วันก่อนต้องส่งมหาลัยค่ะ
มายด์: อ่อใช่ๆ เหมือนกับมีเรื่องให้ตื่นเต้นว่าจะทันมั้ย สุดท้ายก็ทัน (พระเจ้าทันเวลาเสมอ)
เรื่องช็อค วันประกาศผล!
มายด์ : ทุกอย่างคาบเส้นหมด จนเราแน่ใจว่าพระเจ้านำมาทางนี้แน่นอน จนวันประกาศผล มายด์เข้าไปดูในเว็บไซด์มหาลัยค่ะ ปรากฏว่า อ่าวเฮ้ยยยยย!! ไม่มีชื่อเราอะ ผิดหวังมากกกกก ได้แต่ร้องไห้ คือ ยิ้มไม่ออกเลย เดินกลับบ้านกับเพื่อน เพื่อนก็พยายามถามว่าเราเป็นไร แต่ตอนนั้นเรายังไม่ได้บอกใคร
แต่คือรู้สึกผิดหวัง เหมือนใน MV เลยเน๊อะ (หันไปมองเพื่อนๆ) แบบว่า สอบไม่ติดแล้วก็เดินๆ
“แล้วก็เหม่อลอย” เพื่อนๆ พูดสมทบ
แล้วก็มีเสียงแบบ รถวิ่ง เฟี้ยว เฟี้ยว (เสียงสูง) อะไรอย่างเงี้ย ภาพตอนนั้นเป็นขาว-ดำ ไปแล้ว (ถ้ามีฝนตกอีกก็ใช่เลย)
พอกลับถึงบ้านมายด์ก็โทรหาแม่ “หม่าม้ามายด์ไม่ติดอะ” (น้ำเสียงสั่นเครือ) แล้วหม่าม้าก็ “หา? จริงเหรอ?” ประมานว่าไม่เชื่อหู หลังจากนั้นก็ปลอบใจว่า “ไม่เป็นไรลูก เดี๋ยวไปดูที่อื่นก็ได้”
ตอนนั้น มหาลัยอื่นๆ ทั้งลาดกระบัง ธรรมศาสตร์ บางมด ก็ยังเปิดรับสมัครอยู่ ถ้าเราจะกลับมาเรียนที่ไทยก็ยังมีโอกาส มายด์ก็ได้แต่บอกแม่ไปว่า “แต่มายด์ชอบโปรแกรมนี้อะ เพราะมันตรงสายดี แล้วก็เป็นทางการออกแบบด้วย” คือมันเสียดายอะ แล้วก็นอนร้องไห้ทั้งคืน
“พระเจ้า ทำไมอะ ทำไม เกิดอะไรขึ้น พระเจ้าช่วยด้วย ทำยังไงดีไม่รู้จะทำยังไงแล้ว Fail มากกกก”
ปรากฏว่า ตี 4 หม่าม้าก็โทรมา แล้วบอกว่า…
“มายด์ ผลมันยังไม่ออก” (น้ำเสียงเข้มมาก)
สรุปที่ไปดูนั่นเป็นรายชื่อของปีก่อนที่ยังไม่อัพเดทค่ะ! ไอ้เราก็เบลอเอง!
“ตึ่ง!!!” เพื่อนๆ หัวเราะใหญ่
มันเป็นความ โก๊ะ! ของเราเอง สุดท้ายก็ติดค่ะ โปรแกรมนี้แหละ พระเจ้าก็จัดเตรียมไว้ให้ตลอดอย่างที่เล่ามามากกว่านั้น ผลงานของเราที่ส่งไปก็เป็นที่ถูกใจของทางมหาวิทยาลัยด้วย เหมือนกับว่าคณะกรรมการเค้าชอบเรา และจำเราได้อีกด้วย ก็กลายเป็นว่าจบดี ขอบคุณพระเจ้าที่ทุกอย่างมัน เป๊ะ! ขนาดนี้
“ดังที่มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า สิ่งที่ตาไม่เห็นหูไม่ได้ยิน และสิ่งที่มนุษย์คิดไม่ถึง คือสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงจัดเตรียมไว้สำหรับคนที่รักพระองค์” – (1โครินธ์ 2:9)
สุดท้ายนี้อยากบอกเพื่อนๆ ชาวชูใจว่า “พระเจ้าเป๊ะมากค่ะ”
รอติดตาม Featured ฉบับพิเศษ “เปิดเทอมใหม่ หัวใจว้าวุ่น ตอน 5 เฟรชชี่ 4 สถาบัน” ตอนต่อไป ได้ในวันพฤหัส หน้า แล้วเจอกัน พร้อมพระพร เต็มๆ จอ กับน้องเฟรชี่คนสุดท้าย นะจ๊ะ 🙂
Related Posts
- Illustrator:
- Jostar
- พี่ชายผู้อบอุ่นละมุนละไม เวลาใส่หมวกกันน๊อคแล้วนั่ลล๊าคดั่ง Pororo อดีตมาสเซอร์วิชาสอนศิลปะ ปัจจุบันถวายตัวรับใช้ที่โบสถ์สไตล์ลอฟๆ ชอบขีดๆ เขียนๆ วาดๆ
- Editor:
- วอร์ วรรัก
- Editor สาวเรียบเรียงหลายบทความในชูใจ เธอผู้มีภาษาละมุนละไม กระดุ้มกระดิ้ม และยังมุ่งมั่นรับใช้พระเจ้าและมีภาระใจในการทำงานด้านให้คำปรึกษากับวัยรุ่น เลยต้องดั้นด้นไปอยู่เมืองสิงโตพ่นน้ำเพื่อเรียนต่อด้านนี้!
- Editor:
- Perapat T.
- Blogger ผู้มากความสามารถในงานเขียน เป็นคริสเตียนที่เรียนสังคมวิทยา ฯ มาอย่างโชกโชน สเตตัสปัจจุบันเป็นนักเขียนอิสระ และ รับใช้พระเจ้าไปด้วย :)