Part 2
‘โสดแล้วอย่าโสดฟรี’
…โปรดอ่านครับ
ในส่วนที่ 2 นี้ ต่อจากส่วนแรกครับ นอกจากที่เราๆ จะต้อง สร้างเนื้อสร้างตัวเพื่อจะรับผิดชอบชีวิตตัวเองให้ได้ เตรียมตัวที่จะเป็นผู้นำฝ่ายวิญญาณที่ดีของบ้าน และ บอกลาหนังโป๊อันเป็นที่รักแล้วเนี่ย มีอีก 2 อย่างที่ หนุ่มโสด ของพระเจ้าควรจะทำ ผมขออนุญาตจูงมือเพื่อนๆ ไปดูในส่วนที่เหลือนะครับ… แต่ถ้าใครยังไม่ได้อ่าน 3 ข้อแรก คลิกไปอ่านก่อนได้ที่นี่ครับ >>> 5 สิ่งที่หนุ่มโสดควรทำ…ก่อนมีคู่ (Part 1)
ภาพถ่าย โดย Aaron Burden
4
มุ่งสู่การรับใช้พระเจ้า
“แต่ส่วนข้าพเจ้าและครอบครัวของข้าพเจ้า
เราจะปรนนิบัติพระเจ้า” — โยชูวา
ถ้าพูดถึงพันธกิจ คริสเตียนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่า เป็นหน้าที่ของผู้รับใช้เต็มเวลาที่คริสตจักร หรือไม่ก็เป็นหน้าที่ของพวกที่ทำงานในองค์กรคริสเตียน มีส่วนน้อยมากที่คิดว่า “จะทำอะไรได้บ้าง” เพื่อที่จะขยายแผ่นดินของพระเจ้า จึงไม่แปลกที่จำนวนคริสเตียนไทยยังคงที่อยู่ที่ 0.5%
เรื่องนี้เกี่ยวกับหนุ่มโสดอย่างพวกเราโดยตรง เพราะพวกเราสามารถเป็นกำลังสำคัญในการที่จะขับเคลื่อนงานเหล่านี้ได้ คนโสดอย่างพวกเรามีเวลาอิสระมากกว่าคนที่แต่งงานแล้วมากนัก ผมเองอยู่ในโบถส์บ้านร่วมกับเพื่อนคริสเตียนโสดคนอื่นๆ เราเคยใช้เวลาด้วยกันตั้งแต่สี่ทุ่มถึงตีสอง ที่ร้านกาแฟเพื่อคุยกัน ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับคนที่แต่งงานแล้วที่จะนัดกันในช่วงเวลาแบบนี้
จะดีซักแค่ไหนหากเราใช้ช่วงเวลานี้คุยกันเรื่องพระคำพระเจ้า…
เชื่อว่าจะมีคนคิดว่า “โหววว พี่ โฮลี่ไปละ ซีเรียสเกิ๊น! คุยพระคัมภีร์กันน่าเบื่อตายชัก!”
ผมก็ต้องขอบอกว่า บางทีพวกเราก็มีตรรกะแปลกๆ นะ คือ ผมก็ไม่เข้าใจว่า โฮลี่มันผิดตรงไหน? การจริงจังกับพระเจ้ามันน่าละอายขนาดนั้นเลยเหรอวะ? ชีวิตมันดูไม่สนุกสนานเลยหรือไง เวลาคุยกันเรื่องพระคำพระเจ้า?
จริงอยู่ที่ความฮาเป็นจุดแข็งของคนไทย ผมไม่ต่อต้านเรื่องนี้เลย แต่เมื่อเราสนุกสนานเฮฮาไม่ได้แปลว่าจะไม่จริงจัง เราควรจะฮา และจริงจังคู่กันไปด้วยตะหาก ดังนั้นลุกขึ้นมาเถอะครับหนุ่มโสดทั้งหลาย คุณมีพลัง และคุณสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ แน่นอนว่ามันเหนื่อย แต่มันเป็นการเหนื่อยที่ไม่เสียเปล่าแน่นอน
ภาพถ่าย จาก Freestocks.org
5
รู้จักที่จะรักแม้ไม่น่ารัก
“อยู่ที่มุมบนหลังคาเรือน
ดีกว่าอยู่ในเรือนร่วมกับหญิงขี้ทะเลาะ”
— กษัตริย์ ซาโลมอน
ไม่มีผู้ชายคนไหนไม่ชอบผู้หญิงสวย เอาจริงๆ เราต่างก็มีสเป็คในใจที่เราชอบ ผมเองก็มี ซึ่งมันก็ไม่ผิดหรอกที่เราจะเลือกหน้าตาของผู้หญิงในแบบที่เราชอบเพราะถ้าต้องแต่งงานกันจริงๆ เราจะต้องเห็นหน้าตาแบบของเธอไปอีกหลายสิบปี แต่ปัญหาคือเราชอบให้ความสำคัญกับเรื่องความสวยความงามภายนอกมากเกินไป มากกว่าคุณสมบัติภายใน ทั้งๆ ที่เราก็รู้ว่าร่างกายเราแก่ลงทุกวัน
แล้วคุณสมบัติภายในอะไรที่เราควรจะมอง ถ้าแนะนำตามหลักพระคัมภีร์ ตรงนี้ผมขอยกเครดิตให้กับ สุภาษิต 31:10-31 เลยครับ ไปอ่านเอาเอง(อยากรู้ต้องอ่านนะครับ)
แต่ถ้าจะให้ผมแสดงความคิดเห็น ก็อยากจะบอกว่า…
ผู้ชายทุกคนลึกๆ แล้วมีความอ่อนแอที่เราซ่อนไว้ ภรรยาคือคนที่รู้จุดอ่อนเหล่านั้นทั้งหมด ดังนั้นมันง่ายมากที่เค้าจะทำร้ายคุณ หากเค้าคิดจะทำ คุณคงไม่อยากได้ภรรยาที่ชอบชวนทะเลาะ และชอบบั่นทอนกำลังใจหรอก ดังนั้นคิดให้หนักครับ ไม่งั้นคุณอาจจะต้องไปอยู่บนหลังคาบ้านแทนก็ได้
ความจริงอีกอย่างของชีวิตคือมันมีทั้งขึ้นและลง มันมีทั้งวันที่ดี และวันที่แย่ คำถามคือ ในวันที่แย่ คุณอยากให้คนแบบไหนอยู่ข้างๆ เป็นคู่ร่วมชีวิต?
“ภรรยาที่ดี” คือคนที่สามารถแสดงความรักกับเราได้แม้ในวันที่เราไม่น่ารัก และนี่แหละคือความงามของข่าวประเสริฐ ข่าวประเสริฐ “ไม่” ได้บอกว่า “ในที่สุดมนุษย์ก็สามารถตะเกียกตะกายขึ้นมาจากหลุมอันน่าสลด เปลี่ยนแปลงตัวเองให้เพอร์เฟ็คได้ตามมาตรฐานธรรมบัญญัติ” แต่กลับกันข่าวประเสริฐบอกว่า “ขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่นั้น พระคริสต์ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเรา”
ความรักแบบนี้เองที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเราจากภายใน ความรักแบบนี้เองที่เราโหยหากันมาเป็นเวลานานทุกยุคทุกสมัย สังเกตุได้จากเพลงรักที่เราร้องกันอยู่ก็ได้ ในเพลงรักนับร้อยพัน มักจะมีเพลงรักในทำนองที่ว่า “อยากมีใครซักคนจังเลย ที่รักเราได้โดยไม่มีเงื่อนไข รักเราในสิ่งที่เราเป็น ซึ่งรวมถึงความไม่น่ารักของเราด้วย” แต่จะมีซักกี่คนที่รู้ว่าพระเจ้าทรงเป็นต้นแบบแห่งความรักแบบนี้? พระองค์ทรงสัญญากับเรา ทั้งๆ ที่พระองค์รู้ดีว่าเราเป็นคนบาป เราเองไม่น่ารัก เราเองจะกบฏกับพระองค์ แต่พระองค์ผู้ทรงบริสุทธิ์ก็ยังยืนยันว่าจะอยู่กับเรา และจะเป็นพระเจ้าของเราเสมอไป และมากกว่านั้น พระองค์ได้เชื้อเชิญเรา ให้เราเองมีส่วนร่วมที่จะสำแดงความรักแบบเดียวกันนี้ด้วย
“รัก… แบบไม่มีเงี่อนไข”
“รัก… แม้กับคนที่ไม่น่ารัก”
ภรรยาที่ดีควรมีความรักแบบนี้ และหนุ่มโสดทั้งหลายเอ๋ย …
เราเองก็ควรมีความรักแบบนี้ด้วยเช่นกัน
ภาพถ่าย โดย Joshua Ness
บทส่งท้าย
“ความโสด” แท้จริงแล้วก็เป็นเพียงวาระหนึ่งที่เราทุกคนต้องเผชิญ พระเจ้าทรงมีแผนการสำหรับเราแต่ละคนในแบบที่แตกต่างกัน และในเวลาที่แตกต่างกัน เหมือนกับดอกไม้ที่มีเวลาบานตามฤดูกาลของมัน
เราเพียงแต่เรียนรู้ที่จะวางใจในพระปัญญาของพระองค์ และเชื่อในเวลาของพระองค์ หากเวลายังมาไม่ถึง ก็แปลว่า “มันยังมาไม่ถึง” เราควรเรียนรู้ที่จะอยู่กับปัจจุบัน ใส่ใจกับสิ่งรอบข้างที่พระเจ้าทรงประทานให้เรา ใส่ใจในความสัมพันธ์ ใส่ใจในการงาน ใส่ใจในจิตวิญญาณ หากเราเรียนอยู่ก็ให้ตั้งใจเรียนให้เต็มที่ บางครั้งการถวิลหาที่จะมีคู่ในเวลาที่ไม่เหมาะสม มันทำให้เราเสียโอกาสที่จะมีความสุขกับปัจจุบัน ทั้งๆ ที่เวลาปัจจุบัน คือ ของขวัญที่พระเจ้าทรงประทานให้กับเราเพื่อที่เราจะชื่นชมยินดีกับมัน
ไหนๆ ก็โสดแล้ว อย่า “โสดฟรี” ครับ
“โสดอย่างมีคุณค่า” กันดีกว่า ขอพระเจ้าอวยพรครับ
ด้วยรักและชูใจ
บทความนี้ได้รับการตรวจสอบความถูกต้องทางพระคัมภีร์ โดย คุณ เจตนากรณ์ กาญจนามาส (ผู้ประสานงาน YFC เชียงใหม่)
คอลัมน์ Love Coach บทความถามตอบปัญหาหัวใจ ปรึกษาปัญหาความรักแบบพี่อ้อยพี่ฉอดเวอร์ชั่นคริสเตียน และบทความแปลในประเด็นของความรัก ติดตามอ่านได้ทุกวันอังคารสีชมพูววววว ที่เว็บชูใจนะจ๊ะ
Related Posts
- Author:
- โปรแกรมเมอร์หนุ่ม ผู้มีความมุ่งมั่นในการเขียนโค้ดให้งดงามดั่งบทกวี ชอบอ่านพระคัมภีร์ ตัวสูง ใจดี รักเด็ก ที่สำคัญ... ยังโสดดดด!!! (ขอเบอร์ได้หลังไมค์)
- Illustrator:
- Jostar
- พี่ชายผู้อบอุ่นละมุนละไม เวลาใส่หมวกกันน๊อคแล้วนั่ลล๊าคดั่ง Pororo อดีตมาสเซอร์วิชาสอนศิลปะ ปัจจุบันถวายตัวรับใช้ที่โบสถ์สไตล์ลอฟๆ ชอบขีดๆ เขียนๆ วาดๆ
- Editor:
- Perapat T.
- Blogger ผู้มากความสามารถในงานเขียน เป็นคริสเตียนที่เรียนสังคมวิทยา ฯ มาอย่างโชกโชน สเตตัสปัจจุบันเป็นนักเขียนอิสระ และ รับใช้พระเจ้าไปด้วย :)