Q: พี่คะ…หนูมีแฟนที่ไม่ได้เป็นคริสเตียนค่ะ
เราคบกันมาปีกว่า ๆ แล้ว หนูอยากให้เค้ารู้จักพระเจ้าก็เลยลองชวนไปโบสถ์ และพูดเรื่องพระเจ้าให้เค้าฟังบ้าง เค้าก็ไม่ได้ห้ามหนูนะคะ แต่เค้าก็ยังไม่ได้อยากจะมาเชื่อ แต่มันก็มีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้น คือแฟนหนูต้องย้ายที่อยู่ไปไกลมาก และยังไม่มีแนวโน้มว่าจะกลับมา
ในขณะเดียวกันก็มีพี่คนนึงที่รู้จักกันเค้าสนใจเรื่องพระเจ้ามาก หนูก็เลยพาพี่เค้าไปโบสถ์จนพี่เค้ามาเชื่อพระเจ้า พี่คนนี้เติบโตขึ้นไวมากส่วนหนูก็คอยดูแลและคุยกับเค้าในไลน์ทุกวัน โทรปลุกกันตอนเช้า เคยไปกินข้าวด้วยกันบ้าง 3-4 ครั้ง (ซึ่งพี่เค้าก็รู้ตั้งแต่แรกว่า หนูมีแฟนแล้ว) หนูจะทำยังไงดีคะ หนูรู้สึกดีมาก ๆ เลย เพราะในฐานะคริสเตียนคนนึง หนูก็อยากมีแฟนที่เป็นคริสเตียนซึ่งเป็นคนที่จะช่วยให้เราติดสนิทกับพระเจ้ามากขึ้น แต่หนูก็รู้ว่ามันไม่ดีเพราะแฟนหนูเค้าก็ไม่ได้ทำอะไรผิด ส่วนตัวหนูและพี่เค้าเองก็อึดอัดใจมากเลยค่ะ
หนูควรจะทำยังไงดีคะ?
โค้ชเจเจ้:
พี่บ่องตรงว่า เห็นใจหนูมากกกกกก หนูคงอึดอัดใจน่าดู แต่พี่ต้องขอพูดกับหนูด้วยความรักจากใจนะคร้า ไม่ร้องนะลูกกกกก….
เอาแค่ประเด็นที่จะเลิกจากคนเก่าไปคบคนใหม่ มันดูไม่ดีกับทุก ๆ ฝ่ายเลยเนอะ เพราะมันมีสองปัจจัยคือ “ช่วงเวลา” ที่ทับซ้อนกันกับ “พฤติกรรม” ที่ไม่ชัดเจนต่อผู้ชายทั้งสองคน มันอาจทำให้ดูเหมือนเป็นการ “คบซ้อน” ไปเลยนะคะ ถ้าแฟนหนูรู้ตัวก็คือ “เค้าอยู่นอกหัวใจหนู” ไปละนะ ทำไมล่ะ? เพราะแม้หนูอาจจะบอกว่า คนใหม่ที่เข้ามาเป็นแค่พี่น้องกัน แต่ด้วยพฤติกรรมที่ปฏิบัติต่อกันมันเกินกว่าพี่น้องธรรมดาจะทำกันนะจร้า
คำว่า ‘พี่–น้อง’ คำนี้นิยามยากมาก เพราะสมัยนี้คำนี้ถูกใช้ไว้เลี่ยงความจริงกันซะเยอะ เห็นได้จากคำสัมภาษณ์ของดารา–นักร้องคนดังอยู่บ่อยๆ มันสามารถเป็นได้ทั้งพี่น้องจริง ๆ หรือ เป็นพี่น้องที่กำลังจะเปลี่ยนสถานะเป็นแฟน… พี่ว่ามันเป็นคำที่คลุมเครืออ่ะ ในเคสของหนูมันอาจจะใช้คำว่าพี่น้องไม่ได้แล้ว เพราะการวางตัวของเราทั้งคู่อัพเวลไปแล้ว โดยเฉพาะการโทรปลุกกัน การไปกินข้าวด้วยกันสองต่อสอง พี่ว่าความสนิทสนมแบบนี้เข้าข่าย ‘คบหาดูใจ’ กันไปแล้วเหมือนกันนะ ลองคิดง่าย ๆ ดูก็ได้ว่า ถ้าเรามีแฟนเราก็จะทำแบบนี้แหล่ะ จริงมะ? โทรปลุกทุกเช้า ไปกินข้าว คุยไลน์อัพเดทกันสามเวลาหลังอาหาร พฤติกรรมพวกนี้ถอดแสควร์รูท ค.ร.ม. ห.ร.ม. ยังไงก็แปลว่าเรามีใจให้กัน และในเคสของหนูคือ หนูทำแบบนี้ในขณะที่มีแฟนแล้ว!!! มันไม่เวิร์คค่ะขุ่นลูกกกก
พระลักษณะของพระเจ้าอย่างหนึ่ง คือ ความซื่อสัตย์ แม้แฟนหนูจะไม่ใช่คริสเตียน แต่เค้าก็จำเป็นจะต้องมองเห็นลักษณะที่ดีของพระเจ้าผ่านชีวิตเราเนอะ และโดยเฉพาะอีกคนที่เป็นผู้เชื่อใหม่ นี่แหล่ะ เป็นโอกาสดีเลยจ้ะ ที่เราจะสำแดงพระลักษณะของพระเจ้าผ่านชีวิตของเรา
ให้เราทำสิ่งที่ถูกต้องในสายพระเนตรของพระเจ้า และไม่ตามใจตัวเค้าหรือเราเอง แม้อยากจะคบกันแค่ไหน ความชอบธรรมในสายพระเนตรพระเจ้าต้องมาก่อนอ่ะ!!
How to ละกัน… พี่คิดว่า หนูใจเย็น ๆ ก่อนนะ ก่อนที่อะไรๆ มันจะซับซ้อนดราม่ามากขึ้นไปกว่านี้
- สารภาพและสานสัมพันธ์กับพระเจ้าก่อน การที่เรารุดหน้าในความสัมพันธ์กับคนที่ไม่เชื่อ เราก็ทำให้ตัวเราเองยุ่งยากในระดับหนึ่งอยู่แล้วอะนะ ขอพระเจ้าให้อภัยที่เราไปคบกับคนที่ไม่รู้ว่าใช่น้ำพระทัยพระเจ้าอยู่หรือไม่ (แน่นอน พระองค์ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม พระองค์จะทรงยกโทษให้เรา) และถือโอกาสนี้ในการกระชับความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้าก่อนนะคะ
- คุยกับพี่คริสเตียนผู้เชื่อใหม่ให้เข้าใจสถานะของเรา หยุดการสื่อสารในรูปแบบต่างๆ ไม่โทร ไม่ไลน์ ไม่อินบ๊อกซ์ ทุกทางบนโลกใบนี้ เจอกันคุยได้ แต่ไม่ไปกินข้าวกันสองต่อสอง หนุนใจให้เค้าอธิษฐานกับพระเจ้าเผื่อเรา ที่ต้องเยอะแบบนี้เพื่อให้เรา (และเค้า) มีโอกาสอยู่กับตัวเองและพระเจ้าจริงๆ เพราะไม่อย่างนั้นเราจะแยกไม่ออกระหว่างความรัก ความหลง ความใกล้ชิด หรือความอะไรกันแน่ที่ทำให้เรามีใจให้เขา
- บอกแฟนหนูเลยจร้าว่าเกิดอะไรขึ้น (พี่แน่ใจเลยว่า ที่ผ่านมาหนูคงไม่ได้บอกแฟนหนูตลอดทุกกระบวนท่าใช่มั้ยว่า หนูโทรไปปลุกพี่เค้า..นั่น..นี่..โน่น) อะไรที่ทำให้จิตใจหนูไขว้เขว หนูอยากได้คนที่นำหนูใกล้ชิดพระเจ้า หรืออะไรก็บอกไป หนูอยากให้ครอบครัวของหนูในอนาคตอยู่ในทางของพระเจ้า หนูไม่อยากมาทะเลาะเรื่องนี้ ก็ว่าไป… หนูต้องกล้าสารภาพนะคะ ที่สำคัญ ขอโทษเค้าค่ะ
- หาโอกาสคุยกับแฟนของหนูในเรื่องพระเจ้ารึยังจ๊ะ อันที่จริงนี่เป็นเรื่องที่ควรทำก่อนจะตกลงคบกันด้วยซ้ำอะนะคะ เพราะจากประสบการณ์ของเจ้นะคะหนู เปอร์เซ็นต์ในการเชื่อพระเจ้าของอีกฝ่ายจะลดลงตามระยะเวลาของการคบหากัน เจ้เองยังไม่เคยเห็นหรืออาจจะมีที่เจ้ไม่รู้แต่ก็เปอร์เซ็นต์น้อยมากจริงๆ ที่เราจะนำอีกฝ่ายมาเชื่อได้หลังแต่งงาน แต่ตรงกันข้ามสิ เจ้ได้แต่เห็นฝ่ายคนที่เป็นคริสเตียน เลิกมาโบสถ์ เลิกเชื่อ หรือเชื่อพระเจ้าอยู่คนเดียวในครอบครัว ขออย่าให้เป็นอย่างนั้นเลยนะคะ พูดจากใจเลยว่า หนูอาจจะกำลังเอาตัวเองไปเจอความยากโดยที่โทษใครไม่ได้เลยนะลูกกก เอาเป็นว่า ลองประกาศกับแฟนของหนูดู อธิษฐานเผื่อให้เขามารู้จักกับพระเจ้า แต่ถ้าหลังจากระยะเวลานึงแล้ว ในช่วงเวลาที่เราตั้งใจ ถ้าเขาไม่มีวี่แววว่าจะสนใจพระเจ้าเลยก็คงต้องตัดสินใจจากกันด้วยดี ดีมั้ย แต่หนูก็ควรระวังอย่าใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างในการไปเริ่มความสัมพันธ์กับคนใหม่เพราะหนูมีใจให้คนใหม่มากกว่านะคะ อันนั้นไม่ดีนะไม่ดี เอาเป็นว่า จบไปเป็นเรื่องๆ เนอะ
- ในกรณีที่หนูอยากเลิกกับแฟน สาเหตุไม่ควรเป็นคริสเตียนอีกคนที่เข้ามาค่ะ ถ้าในใจมันปวดร้าวเพราะต้องเลือกละก็ พี่คิดว่าหนูควรหยุดกับทุกฝ่ายเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ของตัวเราเองกับพระเจ้าก่อน เพราะนั่นคือการให้ความสำคัญกับสิ่งที่สำคัญจริงๆ ก่อน หนูจะได้ไม่สับสนกับการตัดสินใจในเรื่องอื่นๆ เช่นเรื่องนี้
- สุดท้ายจริง ๆ ละ ขอให้เรามีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับพระเจ้ามากขึ้นๆๆ เฝ้าเดี่ยว อ่านพระคัมภีร์ทุกวัน เมื่อหนูใส่ใจสร้างความสัมพันธ์กับพระเจ้าก่อน จะทำให้หนูเข้าใจน้ำพระทัยของพระเจ้า และช่วยเราตัดสินใจดำเนินความสัมพันธ์ที่ถูกต้องต่อไปในอนาคตแน่นอนค่ะ
ขอพระเจ้าอวยพรขุ่นน้อง ให้ตัดสินใจด้วยความกล้าหาญและเต็มล้นด้วยสันติสุขนะคร้ะ กริ้ววว
รักกกกกกก
เจเจ้
พบกับคอลัมน์ Love Coach บทความถามตอบปัญหาหัวใจ ปรึกษาปัญหาความรักแบบพี่อ้อยพี่ฉอดเวอร์ชั่นคริสเตียน ติดตามอ่านได้ทุกวันอังคารสีชมพูวววววนะจ๊ะ
Related Posts
- Author:
- โค้ชเจเจ้ : ผู้คร่ำหวอดในวงการให้คำปรึกษาน้อง ๆ วัยวุ่นเรื่องหัวใจ มี passion และภาระใจในการรับใช้พระเจ้าด้านให้คำปรึกษากับวัยรุ่น เจเจ้บอกว่า "งดฝากร้าน แต่ฝากปัญหาหัวใจไว้ให้ปรึกษาได้จ้าาาา"
- Illustrator:
- Wilah
- เด็กสาวขี้อาย ชอบนอน รักแมว และมีภารกิจแจกความแฮปปี้ผ่านเพจ HappyHoly ของเธอ ลายเส้นภาพการ์ตูนที่สวยสะดุดตา ทำให้ต้องจีบมาร่วมชูใจกันนนน ขอแค่เลี้ยงชาเขียวก็พอ อะไรจะใจดีขนาดนี้ๆๆๆ
- Editor:
- วอร์ วรรัก
- Editor สาวเรียบเรียงหลายบทความในชูใจ เธอผู้มีภาษาละมุนละไม กระดุ้มกระดิ้ม และยังมุ่งมั่นรับใช้พระเจ้าและมีภาระใจในการทำงานด้านให้คำปรึกษากับวัยรุ่น เลยต้องดั้นด้นไปอยู่เมืองสิงโตพ่นน้ำเพื่อเรียนต่อด้านนี้!